บทความ
ย้อนเรื่องราว Toyota Soluna รุ่นน่าสะสม ฟอนท์ไทย !

Toyota Soluna หลายคนอาจเคยเห็นรถรุ่นนี้ผ่านตากันมาบ้างกับจุดเด่นอักษรไทย และตัวเลขไทยอยู่ท้ายรถ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นประวัติศาสตร์อันมีที่มาที่ไปอย่างล้ำค่า รวมถึงยังผลิตมาเพียง 600 คันเท่านั้นHighlight
หลายคนอาจเคยเห็นรถรุ่นนี้ผ่านตากันมาบ้างกับจุดเด่นอักษรไทย และตัวเลขไทยอยู่ท้ายรถ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นประวัติศาสตร์อันมีที่มาที่ไปอย่างล้ำค่า รวมถึงยังผลิตมาเพียง 600 คันเท่านั้น อีกทั้ง Toyota Soluna ยังเป็นรถยนต์พระที่นั่งของในหลวง รัชกาลที่ 9
จุดเริ่มต้นมาจากช่วงปี 2540 (ข้อมูลโดย คุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด) เป็นช่วงที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ธุรกิจมากมายต่างถูกปิดตัวลง รวมถึงบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่กำลังจะปิดโรงงาน และพนักงานจำนวนกว่า 5,000 คน จะต้องถูกลอยแพจากพิษเศรษฐกิจครั้งนั้น เเละจากเหตุการนี้นำพาไปสู่รถยนต์รุ่นประวัติศาสตร์กับเรื่องราวสุดล้ำค่า
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2540 สิ่งพิเศษที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ด้วยความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อพนักงาน โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ ที่กำลังจะตกงานจำนวนมาก ได้รับสั่งให้เลขานุการส่วนพระองค์แจ้งว่า พระองค์มีพระราชประสงค์สั่งซื้อรถ Toyota Soluna จำนวน 1 คัน โดยให้พนักงานที่ทำนั้นไม่ต้องเร่งรีบ ใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร เพื่อที่พนักงานจะได้มีงานทำนานๆ
หลังจาก โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ทราบถึงพระราชประสงค์นี้ จึงตั้งใจทำให้ตัวรถมีความพิเศษ ในเเบบที่ไม่เคยมีรถรุ่นไหนทำมาก่อน โดยเพิ่มความพิเศษของรถด้วยการติดโลโกท้ายเป็นภาษาไทย และเลขไทย “โซลูนา ๑.๕” ซึ่งรุ่นพิเศษนี้ผลิตมาเพียง 600 คัน และสามารถขายหมดในระยะเวลาเพียง 1 เดือน
เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวแล้วเสร็จ ได้มีการนำไปถวายพระองค์ในช่วงเดือนธันวาคม 2540 โดยพระองค์ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 600,000 บาท แต่ทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ ไม่รับเงิน พระองค์จึงทรงรับสั่งให้นำเงินนี้ไปทำโครงการช่วยเหลือสังคม พร้อมพระราชทานแนวพระราชดำริ ให้ทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ ไปตั้งโรงสีข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนา เมื่อสีข้าวได้แล้วก็ให้ขายในราคาสวัสดิการแก่พนักงาน และขายผลพลอยได้ เช่น แกลบ รำ ให้แก่เกษตรกรชุมชนที่เลี้ยงหมู ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ “โรงสีข้าวรัชมงคล”
บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด ดำเนินงานภายใต้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนาผ่านการจัดตั้งโรงสีข้าวรัชมงคลขึ้น ปัจจุบันได้ขยายผลการพัฒนาศักยภาพของชาวนาไทย ผ่านการจัดตั้งแปลงนาสาธิตรัชมงคลเพื่อเป็นต้นแบบในการปลูกข้าวให้แก่ชาวนาไทยทั่วประเทศ
จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เป็นประธานประกอบพิธีเปิดดำเนินการโรงสีข้าว
รถ Toyota Soluna ที่จัดส่งมอบถวายเป็นสีฟ้าพิเศษ โดยปัจจุบันได้เก็บรักษารถยนต์รุ่นนี้ไว้ 1 คันที่ Toyota ในนิคมอุตสาหกรรมเกทเวย์ พร้อมผลิตจำหน่ายจริงในรุ่นลิมิเทด ที่มีชื่อ โซลูนา เป็นภาษาไทย และตัวเลขไทย ๑.๕ ติดอยู่ที่ฝากระโปรงหลัง จำนวนเพียง 600 คัน มี 2 สี คือ สีทูโทน น้ำตาลอ่อน-เข้ม และสีเงินอมฟ้า รถจดทะเบียนในปี 2541 ปัจจุบันเป็นรถที่ถือว่าหายากมาก และกลายเป็นรถที่หลายคนอยากเก็บสะสมอย่างยิ่ง
Toyota Soluna เปิดตัวสู่สื่อมวลชนในวันที่ 28 มกราคม 2540 และเปิดตัวสู่สาธารณชนในวันที่ 31 มกราคม 2540 มาพร้อมสโลเเกน “Great Journey การเดินทางที่ยิ่งใหญ่” โดยคำว่า “Soluna” มาจากการนำคำว่า “Sol” ซึ่งมาจากคำว่า “Solar” แปลว่า ดวงอาทิตย์ กับคำว่า “Lunar” แปลว่า พระจันทร์ มารวมกัน เเละได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2542 ปรับหน้าตาใหม่ กันชนใหม่ ไฟท้ายใหม่ หรือที่บรรดาเทนท์รถเรียกกันว่า “ไฟท้ายหยดน้ำ” โดยได้เลิกจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2545 ต่อมา Toyota Soluna ในรุ่นถัดไปจึงพัฒนาเป็น Soluna Vios เข้ามาแทนที่ และชื่อของ “Soluna” ก็หายไปจากตลาด
สำหรับ Toyota Soluna เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่สุดของ Toyota ที่ทำตลาดไทยในช่วงนั้น (ก่อนจะพัฒนามาเป็น Soluna Vios) ด้วยการสื่อสารว่าพัฒนาเพื่อคนไทยจากวิศวกรคนไทย (ร่วมกับทีมวิศวกรญี่ปุ่น) เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกวันที่ 6 มกราคม พศ. 2540 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วางเครื่องยนต์ 5A-FE แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.5 ลิตร 94 แรงม้า มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด (รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดตามมาทีหลัง) ราคาขาย 334,000 บาท