รายงานข่าวจากเยอรมนี ระบุว่า Daimler Truck AG (ไดมเลร์ ทรัค อาเก) และ Volvo Group (โวลโว กรุพ) ประกาศความร่วมมือในการร่วมพัฒนา Fuel Cell แบบใหม่ ซึ่งจะเป็นคำยืนยันครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในการเร่งพัฒนาเพื่อการใช้ไฮโดรเจน เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุกที่วิ่งระยะไกลด้วยความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำในการผลิตระบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel-Cell System) ซึ่งจะเริ่มต้นทำการผลิตเป็นอุตสาหกรรม ในปี 2568 รวมทั้งเร่งการพัฒนา Fuel Cell ชนิดใหม่ กลุ่มผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท ต่างเรียกร้องให้สหภาพยุโรป กำหนดแผนงานที่จะให้การสนับสนุนเทคโนโลยีนี้ ให้สามารถดำเนินการอย่างเป็นจริงในเชิงพาณิชย์ได้ การร่วมมือกันผลิต และทำตลาดระบบเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุกหนักที่เดินทางระยะไกล และอุปกรณ์อื่นๆ หุ้นส่วนทั้ง 2 ฝ่ายจะใช้ความรู้ความชำนาญ ที่ต่างก็ได้ทำการพัฒนามาเป็นระยะเวลานาน ในการร่วมกันพัฒนาให้ประสบความสำเร็จในเร็ววัน การใช้พลังงานไฟฟ้าจากชุดแบทเตอรี และการใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง จะให้ประโยชน์กับผู้ผลิตทั้ง 2 ฝ่าย ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกิจการ โดยพลังงานจากชุดแบทเตอรี ส่วนใหญ่จะใช้กับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่มากนัก และเดินทางระยะทางสั้นๆ ขณะที่การใช้ Fuel Cell จะเป็นส่วนช่วยให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น รวมทั้งระยะทางไกลมากขึ้น ผู้ผลิตรถบรรทุกในยุโรป ต่างให้การสนับสนุนทั้ง Daimler Truck AG และ Volvo Group พร้อมกับร้องขอให้จัดตั้งสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ราว 300 แห่ง ภายในสหภาพยุโรป เพื่อการเติมเชื้อเพลิงรถบรรทุกหนัก ภายในปี 2568 และเพิ่มเป็น 1,000 สถานี ภายในระยะเวลาไม่เกินปี 2573 การผลิตรถบรรทุกที่ปลอดมลภาวะ มีต้นทุนการผลิตที่ราคาแพงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในมาก การเตรียมแผนงาน และนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีความต้องการในการใช้งาน และสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม นับเป็นสิ่งสำคัญ โดยทั้ง Daimler Truck AG และ Volvo Group ต่างระบุว่า ควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพราะเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถลดมลภาวะจากเครื่องยนต์ และระบบการจัดเก็บภาษี ควรมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งควรนำระบบการตรวจวัดค่ามลภาวะจากไอเสีย มาใช้เพิ่มเติม
บทความแนะนำ