Ford เพิ่มสีใหม่ Ford Mustang สีเทา Carbonized Grey เสริมมาดเข้มสไตล์สปอร์ท พร้อมวางจำหน่ายสำหรับลูกค้าในประเทศไทย 2 รุ่น คือรุ่น 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack เครื่องยนต์วี 8 สูบ ขนาด 5 ลิตร และรุ่น 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.3 ลิตร
ฟอร์ด ประเทศไทย ต่อยอดความสำเร็จและการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าที่หลงใหลในเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถสปอร์ทคูเปยอดนิยม ด้วยการปรับโฉม Ford Mustang ด้วยสีใหม่ ที่ยังมาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ทรงพลัง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะและออฟชันเสริมที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบและความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย ด้วยรูปร่างปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยว มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ขนาด 5.0 ลิตร และ เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 2.3 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยแพดเดิลชิฟท์
Ford Mustang ทั้ง 2 รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip มอบความสนุกในการขับขี่บนเส้นทางคดเคี้ยวไฟวิ่งกลางวันแบบ LED ในขณะที่ฝาไฟหน้าออกแบบเพื่อสอดรับกับทรงสี่เหลี่ยมคางหมูของกระจังหน้าชิ้นบนอย่างลงตัว
ไฟเลี้ยวและไฟท้าย 3 แถวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ford Mustang มาพร้อมเทคโนโลยีไฟ LED กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์เพิ่มการยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น ท่อไอเสีย 4 ท่อรองรับความแรงของเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ขนาด 5.0 ลิตร และมีสปอยเลอร์เป็นมาตรฐานในรุ่น GT
ภายในห้องโดยสารของ Ford Mustang ตกแต่งอย่างหรูหราทันสมัยด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย พร้อมแผงหน้าปัดแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว แสดงข้อมูลที่เหมาะสมกับโหมดขับขี่แต่ละโหมด ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีในทุกการใช้งาน
นอกจากนี้ เมื่อใช้งานฟีเจอร์ Electronic Line Lock ผู้ขับขี่ยังจะเห็นแอนนิเมชันแบบวิดีโอเกมเป็นครั้งแรกบนหน้าจอ 12.4 นิ้วอีกด้วย
Ford Mustang มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงภายใน SYNC3 พร้อมเชื่อมต่อและควบคุมสมาร์ทโฟน ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม พร้อมลำโพง 12 จุด สร้างพลังเสียงสุดกระหึ่มเพื่อเอาใจคนรักเสียงดนตรี ระบบนำทาง และระบบปรับอากาศด้วยการสั่งงานด้วยเสียงและการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว โดยระบบ SYNC3 รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
เครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร ของ Ford Mustang ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบพละกำลังเร้าใจในการขับขี่ และรอบเครื่อง red line สูง ด้วยระบบหัวฉีดสองระบบ (Dual-Fuel) ที่ผสานระบบไดเรคอินเจคชันแรงดันสูง (High-Pressure Direct Injection) และระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ (Low-Pressure Port Fuel Injection) จึงให้กำลังสูงสุดถึง 449 แรงม้า ที่ 7,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รตน. ขณะที่เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 2.3 ลิตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากกว่า มอบขุมพลังสูงสุด 290 แรงม้า ที่ 5,400 รตน. และแรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รตน.
Ford Mustang ยังมีระบบ Electronic Line Lock ช่วยให้ผู้ขับขี่เบิร์นยางคู่หลังได้อย่างง่ายดาย พร้อมสำหรับการแข่งทางตรง (drag strip) ซึ่งระบบนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ EcoBoost 2.3 ลิตร และรุ่นเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร วี 8 สูบ GT Coupe
Ford Mustang มาพร้อมโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว การตอบสนองของคันเร่ง รูปแบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัยและการทำงานโหมดปรับระดับความดังของชุดท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust System ให้เหมาะกับการขับขี่แบบต่างๆ ได้แก่
โหมดปกติ (Normal) สร้างความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและประสบการณ์การขับขี่
โหมดสปอร์ท (Sport) ปรับการทำงานของคันเร่งและระบบบังคับเลี้ยวให้ตอบสนองเร็วขึ้น รวมถึงปรับการเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สัมผัสสมรรถนะในการขับขี่บนเส้นทางที่คดเคี้ยวได้อย่างเต็มพลัง
โหมดแทรค (Track) ออกแบบมาเพื่อนักขับตัวจริงที่ต้องการนำฟอร์ด มัสแตง เข้าไปโลดแล่นในสนามแข่งซึ่งตัวรถจะต้องตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ระบบเสถียรภาพการทรงตัวจึงถูกปิดการทำงาน และมีการปรับคันเร่งให้ไวยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่รีดสมรรถนะของฟอร์ด มัสแตง ได้ถึงขีดสุด
โหมดหิมะ/พื้นเปียก (Snow/Wet) ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้นเมื่อพื้นผิวถนนลื่น ระบบจะควบคุมให้การตอบสนองของคันเร่งช้าลงเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีหรือลื่นไถล โดยที่ผู้ขับขี่ยังสามารถสัมผัสกับสมรรถนะของฟอร์ด มัสแตง ได้อย่างเต็มที่
โหมดแข่งทางตรง (Drag Strip) เพื่อการขับขี่อย่างเต็มที่บนทางตรง ระบบจะช่วยให้รถออกตัวได้เร็วกว่าปกติ ด้วยการลดช่วงเวลาการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้แรงบิดถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการยึดเกาะถนนขณะออกตัว
โหมด My Mode ให้ผู้ขับขี่เลือกตั้งค่าสมรรถนะการขับขี่และเสียงท่อไอเสียได้ตามต้องการ
Ford Mustang ยังมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ด้วยสวิทช์ปรับน้ำหนักพวงมาลัยที่ปรับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
แบบคอมฟอร์ท (Comfort) พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบาขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกล เพื่อลดความเมื่อยล้าในการควบคุมพวงมาลัยเป็นระยะเวลานาน
แบบปกติ (Normal) เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน
แบบสปอร์ท (Sport) พวงมาลัยจะมีน้ำหนักมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ขณะใช้ความเร็วสูง
นอกจากนี้ Ford Mustang ยังมี Quiet Mode ที่เป็นมิตรต่อเพื่อนบ้าน สามารถตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบได้ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อลดการรบกวนในชุมชน โดยเฉพาะเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร
Ford Mustang อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรง และในบางกรณียังสามารถลดอัตราการชนยานพาหนะหรือคนเดินถนนจากด้านหน้ารถได้ รวมถึงระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) และระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัจฉริยะ (Auto Hight Beam Control)
Ford Mustang ที่จำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ ส้ม Twist Orange น้ำเงิน Velocity Blue แดง Race Red และใหม่ล่าสุด เทา Carbonized Grey
น้ำเงิน Velocity Blue
แดง Race Red
เทา Carbonized Grey
ส่วนราคาจำหน่ายสำหรับ Ford Mustang ทั้ง 2 รุ่น
Ford Mustang 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack ราคา 4,899,000 บาท
Ford Mustang 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack ราคา 3,699,000 บาท
Ford Mustang พร้อมให้ลูกค้าจองแล้ว ณ ผู้จำหน่าย Ford อย่างเป็นทางการ 7 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด
ลูกค้า Ford Mustang จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ด้วยแพกเกจ ‘Ford Five Years Premium Care’ ที่มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถนานสูงสุดถึง 5 ปี พร้อมบริการฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ในการตรวจเช็คตามระยะ รวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. เป็นเวลา 5 ปี
สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้จำหน่าย Ford Mustang อย่างเป็นทางการ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฟอร์ด คอลเซนเตอร์ โทร. 1383 หรือบนเว็บไซต์ www.ford.co.th.