รายงานข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษ พร้อมที่จะสนับสนุนโรงงาน Gigafactory ของ Nissan สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการผลิตชุดแบทเตอรีสำหรับรถไฟฟ้า โดยยืนยันจะสนับสนุนทางด้านการเงิน มูลค่า 100 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินการผลิตในโรงงานที่ซันเดอร์แลนด์รัฐบาลอังกฤษ ให้การสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ค่ายนี้ แม้มิใช่วิธีการที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้รถไฟฟ้า แต่คาดหวังก็เพื่อให้มีอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ที่มีการจำหน่าย และการส่งออกจากอังกฤษได้ในอนาคต แม้ว่าอังกฤษ จะได้ชื่อว่ามีความก้าวหน้าในด้านชุดแบทเตอรี รวมทั้งด้านการค้นคว้า แต่มิใช่เพื่อดำเนินการผลิต เพราะในอังกฤษมีเพียงโรงงานของ Nissan เท่านั้น ที่ผลิตชุดแบทเตอรี ป้อนสายการผลิต Leaf รถยนต์ขายดีรุ่นหนึ่งของ Nissan ก่อนหน้านี้ Nissan เพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Envision ผู้ผลิตชุดแบทเตอรี ในการก่อตั้งโรงงาน Gigafactory เพื่อการผลิตในอนาคตที่ซันเดอร์แลนด์ นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมยานยนต์อังกฤษ แสดงความยินดี ที่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีก 6,000 ตำแหน่ง ขณะที่สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ายานยนต์ หรือ Society of Motor Manufacturers and Traders (SMMT) กล่าวว่า หากไม่มีโรงงานขนาดใหญ่ ระดับ Gigafactory เพิ่มขึ้น จะทำให้ตำแหน่งงานเดิม มีความเสี่ยงในการถูกเลิกจ้างประมาณ 90,000 ตำแหน่ง เพราะสายการผลิตรถไฟฟ้า มีความซับซ้อนน้อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก่อนหน้านี้ การผลิตชุดแบทเตอรีสำหรับรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะทำการผลิตในเอเชีย จากนโยบายด้านสภาพอากาศและเพื่อป้องกันมลภาวะ และการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตชุดแบทเตอรีในอังกฤษ เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ในอันที่จะสามารถเพิ่มคุณค่า และผลิตเพื่อการจำหน่ายในยุโรปได้โดยสะดวก David Bailey ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐกิจธุรกิจ Birmingham Business School ระบุว่า “อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ก้าวหน้าไปเร็วมาก เราน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอีกภายใน 5-10 ปีข้างหน้า” ขณะที่ราคาของชุดแบทเตอรี ลดลงประมาณ 80 % จากเมื่อศตวรรษก่อน ซึ่งแพงมาก ระดับ 1,000 เหรียญสหรัฐฯ/กิโลวัตต์ชั่วโมง และศาสตราจารย์ ยังระบุอีกว่า “หากราคาลดลงเหลือราว 100 เหรียญสหรัฐฯ/กิโลวัตต์ชั่วโมง ราคาของรถไฟฟ้า ก็จะเทียบเคียงได้กับรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน” สำหรับประเทศอังกฤษ จุดเปลี่ยนน่าจะประมาณ 3-6 ปี ก่อนที่ภาครัฐจะบังคับผู้ผลิต ให้ยกเลิกสายการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล ในปี 2573 เมื่อถึงเวลานั้น รถไฟฟ้า จะมีราคาถูกลง ขณะเดียวกันก็ปลอดมลภาวะ เหตุผลอีกประการหนึ่ง คือ การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรป ระบุว่า ภายในปี 2569 ชุดแบทเตอรีที่ติดตั้งในรถไฟฟ้า จำเป็นต้องผลิตในอังกฤษ หรือสหภาพยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเพิ่มขึ้น และ “สำหรับการลงทุนใน Gigafactory ที่อังกฤษ ยังล้าหลังอยู่พอสมควร”