ธุรกิจ
Great Wall Motor ฉลอง 10 ปี Haval H6
เฉิงตู-Great Wall Motor (กเรท วอลล์ มอเตอร์) เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Haval H6 (ฮาวัล เอช 6) ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน พร้อมประกาศความสำเร็จด้วยยอดขายสะสมกว่า 3.5 ล้านคันทั่วโลก และเผยโฉมรถเอสยูวีรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น พร้อมกัน ได้แก่ Haval H6 Supreme+ (ฮาวัล เอช 6 ซูพรีม พลัส) และ Haval H6S (ฮาวัล เอช 6 เอส) เดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในฐานะแบรนด์เอสยูวีชั้นนำระดับโลก
Great Wall Motor ฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปีของรถเอสยูวียอดนิยมอย่าง Haval H6 ซึ่งนับเป็น "รถเอสยูวีอัจฉริยะสำหรับการขับขี่ในเมือง" (Intelligent Urban SUV) รุ่นแรกจากแบรนด์ Haval โดยเริ่มผลิต และจำหน่ายในปี 2554 นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่รถเอสยูวี ที่เพียบพร้อมทั้งการใช้งาน และฟังค์ชันอย่างครบครัน ภายใต้แนวคิดการออกแบบรถยนต์อัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการออกเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล ซึ่ง Haval ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์ และส่งมอบ Haval H6 กว่า 3 เจเนอเรชัน ในตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
หลังจากการทดสอบอย่างเข้มข้น Haval H6 ได้เริ่มทำตลาด และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ด้วยการขึ้นเป็นรถเอสยูวีที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหลายปี ถือเป็น “รถยนต์ระดับตำนานแห่งชาติ” ของประเทศจีน (National Legendary Vehicle) รวมถึงการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้แก่รถเอสยูวีในตลาดโลก ด้วยยอดขายรวมสะสมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กว่า 3.5 ล้านคันทั่วโลก และ Haval H6 เคยติดอันดับ TOP 5 รถเอสยูวีที่มียอดขายรวมสูงสุดในตลาดโลก ในปี 2560 รวมไปถึงการติดอันดับ TOP 10 รถเอสยูวียอดนิยมในระดับโลกเป็นเวลา 8 ปีซ้อน ในช่วงปี 2556 - 2563 การันตีคุณภาพ และความไว้วางใจที่ได้รับจากผู้ใช้งานทั่วโลก
Haval H6 เจเนอเรชัน 3 ยกระดับรถเอสยูวีให้ทันสมัย พร้อมชูเอกลักษณ์อันโดดเด่น
ท่ามกลางความสำเร็จอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดจีน และตลาดทั่วโลก Haval ยังคงเดินหน้าพัฒนารถเอสยูวี Haval H6 อย่างไม่หยุดยั้ง โดยรถยนต์เจเนอเรชันล่าสุดอย่าง Haval H6 เจเนอเรชัน 3 (Haval H6 3rd Generation) ซึ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกในปี 2563 นับเป็นโมเดลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบจาก Haval H6 ทั้ง 2 เจเนอเรชันก่อนหน้านี้ ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่อีกครั้ง ด้วยการออกแบบภายนอกที่สะท้อนแนวคิด New Eastern Futuristic Aesthetic ที่ผสานสุนทรียศาสตร์ปรัชญาตะวันออก กับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่เปี่ยมไปด้วยความล้ำสมัย และความงามอันโฉบเฉี่ยว พร้อมสะกดทุกสายตา เติมเต็มความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก ทั้งในด้านรสนิยม และเทคโนโลยี ได้อย่างลงตัว
Haval H6 เจเนอเรชัน 3 ยังมาพร้อมขุมพลังใหม่แบบไฮบริดเพื่อโลกอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยเครื่องยนต์ 2.0GDIT ที่อัพเกรดอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบบส่งกำลังแบบ 7DCT เจเนอเรชัน 2 (2nd Generation 7DCT transmission) และระบบแชสซีส์ที่สามารถควบคุมการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนารถยนต์บนพแลทฟอร์มอัจฉริยะ GWM LEMON ที่มาพร้อมระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ส่งผลให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 14.5 % และส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ผ่านสมรรถนะ และประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Haval H6 เจเนอเรชัน 3 ยังได้รับการอัพเกรดทั้งในด้านความชาญฉลาด และประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่จะทำให้รถยนต์กลายเป็นเพื่อนคู่คิด และสามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาจอ HUD แบบสีอัจฉริยะ ซึ่งปกติจะมีเฉพาะในรถยนต์หรูรุ่นทอพเท่านั้น แต่ Haval H6 เจเนอเรชัน 3 ได้นำหน้าจอ HUD นี้มาใช้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงสภาวะต่างๆ ของรถ และสภาพถนนขณะขับขี่ได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องละสายตาจากการมองท้องถนนไปยังด้านหน้า และยังมีหน้าจอที่แสดงระบบการช่วยจอดรถอัตโนมัติในทุกๆ ทิศทาง โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องพยายามจอดรถแบบต่างๆ ด้วยตนเองอีกต่อไป รวมไปถึงยังมีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 (L2) และการอัพเกรดระบบความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
สำหรับในประเทศไทย Haval H6 เจเนอเรชัน 3 นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกจาก Haval ที่ Great Wall Motor นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยได้มีการเผยโฉมเป็นครั้งแรกของโลกที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยในนาม Haval H6 Hybrid SUV ไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคนไทยอย่างล้มหลาม โดยตั้งแต่ช่วงการเปิดตัว ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 Haval H6 Hybrid SUV มียอดขายรวมกว่า 320 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 26.5 % ขึ้นแท่น TOP 3 ในเซกเมนท์รถคอมแพคท์เอสยูวีของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ All New Haval H6 Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร และยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะอันล้ำสมัย ภายใต้แนวคิด LIFE+ ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในการขับขี่ทุกเส้นทาง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่สนุก และปลอดภัย พื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง ขนาดตัวรถ และห้องโดยสารขนาดใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับรถในคลาสส์เดียวกัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวได้อย่างครบครัน
เผยโฉมรถยนต์ Haval 2 รุ่นใหม่ เตรียมสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกครั้งใหม่ ให้แก่วงการรถเอสยูวี
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Haval ได้พัฒนา และส่งมอบรถเอสยูวีที่สร้างความประทับใจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลกในด้านต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) Great Wall Motor ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด และเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของ Haval H6 นี้ ได้มีการเผยโฉมรถเอสยูวีรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ Haval H6S มาพร้อมดีไซจ์นคูเปแบบใหม่ที่โฉบเฉี่ยว และให้ความสปอร์ทมากยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด DHT 2.0T มีระบบการใช้พลังงาน 2 รูปแบบ ได้แก่ การใช้พลังงานเชื้อเพลิงแบบ 2.0T และ LEMON Hybrid DHT และ Haval H6 Supreme+ ที่โดดเด่นด้วยดีไซจ์นด้านหน้าที่ให้ความเร้าใจ และเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถเอสยูวีรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังเป็น 2 ใน 12 รถยนต์รุ่นใหม่ ที่ Great Wall Motor นำไปจัดแสดงในงานเฉิงตู มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 24 หนึ่งในมหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปีของประเทศจีน โดยเปิดให้ผู้ชมงานได้เข้าไปยลโฉม และสัมผัสรถยนต์รุ่นต่างๆ อย่างใกล้ชิด ไปจนถึงวันที่ 7 กันยายน นี้ ณ Western China International Expo City เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน