รายงานข่าวจากประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า ค่าย BYD ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เตรียมส่ง ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พลังไฟฟ้า Yuan Plus เข้าไปจำหน่ายในออสเตรเลีย เริ่มเดือนเมษายน 2565 รีบออกข่าว พร้อมเข้าไปกระตุ้นตลาดรถไฟฟ้า เพื่อนโยบายทำราคาถูกที่สุด รวมทั้งมาตรฐานของชุดแบทเตอรีรุ่นใหม่ มีทั้งความปลอดภัย และการรับประกันคุณภาพLuke Todd ซีอีโอ True Green Mobility Group ผู้นำเข้า BYD ยืนยันว่า รถไฟฟ้าจากจีน พร้อมให้ผู้บริโภคสั่งจองในเดือนนี้ (ตุลาคม) โดยค่ายในเครือ Nexport ซึ่งนำเข้า BYD e6 เพื่อทดลองด้วยราคาต่ำกว่ารถไฟฟ้าในตลาด ผ่านการขายแบบ Direct-to-Consumer ฺBYD Yuan Plus มีความยาวตัวรถ 4.45 ม. จะวางตำแหน่งที่สูงสุดในตลาด แม้ว่าปัจจุบัน ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่าย แต่ ซีอีโอ ยืนยันว่า จะเป็นมาตรฐานใหม่ที่คุ้มราคาของผู้บริโภคทีเดียว ส่วนรายละเอียดทางเทคนิค จะเปิดเผยในเวลาใกล้กับการเปิดตัว แต่สำหรับรถที่จำหน่ายในจีน พร้อมชุดแบทเตอรี 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง เดินทางด้วยระยะทาง 430 กม. แต่หากเปลี่ยนชุดแบทเตอรี เป็นขนาด 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง จะเดินทางได้ 510 กม. พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 150 กิโลวัตต์ ประมาณ 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. ก่อนหน้านี้ Luke Todd เคยให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า ตลาดในออสเตรเลีย มี 2 รุ่น โดยรุ่นมาตรฐาน จะเป็นรุ่นที่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ระดับสูง จุดประสงค์เพื่อตั้งราคาได้ถูกมากๆ เขากล่าวว่า “รุ่นทอพ จะเป็นรถไฟฟ้าที่ดีที่สุดในตลาด” Luke Todd กล่าวว่า “ฺํBYD ผู้ผลิตชุดแบทเตอรี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรถไฟฟ้า” และ “แม้แต่ Tesla ยังต้องการซื้อชุดแบทเตอรี จาก BYD ไปใช้งาน” BYD เปิดตัว Blade battery ที่คุยว่า ผลจากการทดสอบ ยืนยันว่ามีความปลอดภัยมากกว่าชุดแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน รวมทั้งช่วยให้ BYD สามารถตั้งราคาจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม สำหรับรถไฟฟ้า ราคาชุดแบทเตอรี จะแพงกว่าประมาณครึ่งหนึ่งของราคาตัวรถทั้งคัน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการผลิต จำเป็นต้องลดลงต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ/กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อให้ราคาจำหน่ายของตัวรถไฟฟ้า เทียบได้กับราคาของรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีความเป็นไปได้ ในปี 2565-2566 แต่ผู้สื่อข่าวก็คาดว่า BYD ทำได้ถึงจุดนั้นแล้ว และเมื่อเดือนกรกฏาคม ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า BYD สามารถลดราคาการผลิตชุดแบทเตอรี เหลือเพียง 600 หยวน/กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือประมาณ 3,000 บาท เท่านั้น