ธุรกิจ
Great Wall Motor ผนึกกำลัง 3 การไฟฟ้า
Great Wall Motor จับมือ 3 หน่วยงานการไฟฟ้า ประกอบไปด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริม และสนับสนุนการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้า โดยนำความเชี่ยวชาญของ Great Wall Motor ในฐานะผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้าของทั้ง 3 หน่วยงาน เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า ระหว่าง Great Wall Motor กับ กฟผ. กฟน. และ กฟภ. แสดงให้เห็นถึงบทบาทสําคัญของภาครัฐ และภาคเอกชนในการร่วมมือกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงพลังงาน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Society) ส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในไทยให้เอื้อต่อการจําหน่าย และผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ครอบคลุม เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
ไมเคิล ฉง รองประธาน Great Wall Motor (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากที่ภาครัฐได้มีนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้หลายภาคส่วนพร้อมผนึกกำลังร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมยนตรกรรมแห่งอนาคต Great Wall Motor ได้เป็นแบรนด์รถยนต์กลุ่มแรกที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลไทยเพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยความร่วมมือระหว่าง Great Wall Motor กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิ ภาคในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในแง่การดำเนินการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า การแบ่งปันทักษะ และความรู้ความชำนาญในการติดตั้ง รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และรูปแบบการบริการ ซึ่งในปี 2565 Great Wall Motor มีแผนที่จะสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 55 แห่ง การร่วมมือกับการไฟฟ้าทั้ง 3 หน่วยงานนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ Great Wall Motor ยังได้เสริมความแข็งแกร่งให้แก่กลยุทธ์ระดับภูมิภาค โดยตั้งเป้าให้ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง และขยายตลาดเข้าสู่อาเซียน” ส่งเสริม และสนับสนุนนโยบายประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ในอนาคต เราจะทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา โดยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้า สำรวจรูปแบบ และโอกาสทางอุตสาหกรรมใหม่เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทย รวมถึงการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน
บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน กฟผ. มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบไฟฟ้ามาตลอด 52 ปี และมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของไทยมาอย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้ประกอบการ และผู้ผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว ทั้งด้านรถ ยนต์ไฟฟ้า และด้านเครือข่ายการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า การพัฒนาแอพพลิเคชันให้สามารถแบ่งปันข้อมูลกันได้ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า โดย กฟผ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ เช่น Great Wall Motor เพื่อร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายที่จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้มีจำนวน 30 % ของการผลิตทั้งหมดในปี 2573 ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ และปัญหาภาวะโลกร้อน พร้อมช่วยสร้างสังคมสีเขียวให้แก่ประเทศไทยต่อไป ซึ่งในปัจจุบัน กฟผ. ได้เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้วจำนวน 49 สถานีทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ EleX by EGAT ให้มีจำนวนรวมกว่า 120 สถานีให้ได้ภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น
วิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กฟน. มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Great Wall Motor สนับสนุน และผลักดันตามแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า นโยบาย 30@30 ของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ โดยกระทรวงพลัง งาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการสร้างระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าให้สม บูรณ์ยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน กฟน. ได้วางแผนปรับปรุงโครงข่ายระบบไฟฟ้าในพื้นที่จำหน่ายให้เป็นโครงข่ายอัจฉริยะ (Smart Metro Grid) และมีแผนขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมอำนวยความสะดวกในการให้บริการหัวชาร์จ MEA EV ที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าผ่าน MEA EV Application ที่ได้มีพัฒนาการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งานมากขึ้น เชื่อมต่อบนพแลทฟอร์มระบบบริหารจัดการเครื่องอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติที่เกี่ยวข้องกับการชาร์จ สำหรับวางแผนการพัฒนาระบบไฟฟ้า และการให้บริการ เป็นการส่งเสริมสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมยินดีให้ความร่วมมือเอกชนทุกภาคส่วนส่งเสริมดำเนินตามนโยบายภาครัฐต่อไป
ศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า จากความตั้งใจของ Great Wall Motor ในการยกระดับระบบนิเวศยานยนต์ไฟ ฟ้าไทยให้ทัดเทียมในระดับสากล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงพร้อมสนับสนุนบริษัทฯ ในการขยายเขตไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย กฟภ. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของไทยที่ให้บริการครอบคลุมทั้ง 75 จังหวัด ได้ขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าไปแล้ว 73 สถานี และมีแผนขยายจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มอีก 190 สถานี รวมเป็น 263 สถานี ภายในปี 2566 รวมถึงพัฒนาการใช้แอพพลิเคชัน PEA Volta Application ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาตำแหน่ง นำทาง สั่งชาร์จ ชำระค่าบริการ และตรวจสอบประวัติการใช้งาน ได้สะดวกยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะผลักดันประเทศไทยให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้เกิดสังคมสีเขียว สร้างงานสร้างอาชีพ ไปพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจให้แก่คนไทยต่อไป
สำหรับความร่วมมือระหว่าง Great Wall Motor กับ 3 หน่วยงานการไฟฟ้าในครั้งนี้จะครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งการติดตั้ง และการพัฒนาสถานีประจุไฟฟ้า การแบ่งปันองค์ความรู้ที่สำคัญในการดำเนินการ พร้อมยกระดับแอพพลิเคชัน และพแลทฟอร์มที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในอนาคต โดยมีรายละเอียดดังนี้
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.): ร่วมมือในการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบ Fast-Charge พร้อมพัฒนา Charging Mobile Application ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ทั้งการแลกคะแนนสะสมระหว่างพแลทฟอร์ม และการระบุเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังร่วมมือกันทางด้านการส่งเสริมการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า การศึกษาวิจัยแนวโน้มของแบทเตอรียานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้และโอกาสในรูปแบบธุรกิจอื่นๆ
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.): แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิค และการศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ในการนำแบทเตอรียานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ซ้ำ และการรีไซเคิล รวมถึงการฝึกอบรมในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยเป็นพันธมิตรหลักในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้แก่สถานีชาร์จเร็ว (G-Charge) สถานี Partner Store และสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบปลายทาง (Destination) พร้อมเชื่อมต่อการให้บริการในการจองสถานี และชำระเงินผ่านทั้งแอพพลิเคชันของ กฟน. และ GWM Application นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดผลิต ภัณฑ์ และบริการทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.): แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคของระบบการทำงานของยานยนต์ไฟฟ้า และระบบของสถานีอัดประจุ ไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงเป็นพันธมิตรหลักในการขยายเขตไฟฟ้า การติดตั้งหม้อแปลงให้แก่สถานี Partner Store และสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบปลายทาง (Destination) เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า พร้อมสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด และการพัฒนาแอพพลิเคชันให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของสถานีอัดประจุไฟฟ้า และอำนวยความสะดวกในการจองสถานีชาร์จ และชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันได้อีกด้วย
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ Great Wall Motor ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ที่เห็นความสำคัญของการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศรถยนต์พลังงานไฟ ฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมผลักดันไทยให้ก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศในระยะยาว
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)