ภายนอกมาในสีเขียว Sage Green Metallic พร้อมดีไซจ์นสุดเอกซ์คลูซีฟ ตกแต่งด้วยลวดลาย Untold Edition ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ารถจรดหลังคา ซุ้มล้อ และสเกิร์ทด้านล่างรอบคันมาในสีเขียวเข้มเสริมความโดดเด่น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลาย Untold Spoke ในสีดำ Jet Black ตัดกับสี Refined Brass โดยสี Refined Brass นี้ ยังเสริมเอกลักษณ์โดดเด่นรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกระจังหน้า และตัวอักษร “Clubman” ที่ประตูท้าย ซึ่งการออกแบบรูปลักษณ์ของรถรุ่นนี้นั้นนอกจากจะสะท้อนถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสารแล้ว ยังมาพร้อมกับประตูด้านท้ายรถที่สามารถเปิดปิดแยกซ้าย-ขวาได้
อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารยังได้รับการตกแต่งพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย Untold Edition ที่บริเวณด้านล่างของก้านพวงมาลัย และพรมปูพื้นรถ ในขณะที่แถบไฟบริเวณแผงประตู และเบาะนั่งทรงสปอร์ท Mini Yours Leather Lounge ก็มาในสี Sage Green สุดเอกซ์คลูซีฟตัดกับเส้นด้ายสีฟ้าอ่อน และเพิ่มความสง่างามด้วยกรอบช่องแอร์สี Refined Brass ทำให้ Mini Cooper S Clubman Untold Edition โดดเด่นไม่เหมือนใคร
นอกเหนือจากการออกแบบสุดพิเศษแล้ว Mini Cooper S Clubman Untold Edition ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับโหมดการขับขี่ ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon, Mini Head-Up Display, ระบบ Wireless Charging พร้อมกับแพคเกจ Connected Navigation Plus แสดงผลผ่านจอคอนโซลกลาง ระบบสัมผัสแบบดิจิทอล 8.8 นิ้ว มีฟังค์ชันบริการ Mini Connected บริการ Remote Services สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ Apple Car Play ระบบนำทาง และแอพพลิเคชันอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายจำหน่ายในราคา 3,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
Mini Cooper S Convertible Resolute Edition รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่ง จาก Mini ถือเป็นรถเปิดประทุนระดับพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในเซกเมนท์รถยนต์ขนาดเล็ก โดย Mini Cooper S Convertible Resolute Edition สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ โดดเด่นเหนือใครทั้งตัวถังภายนอก ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา การออกแบบภายใน และชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ความเป็น Mini แบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมให้อารมณ์ขับสนุกในสไตล์เปิดประทุนที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของ Mini สมรรถนะทรงพลังที่พร้อมเผชิญทุกเส้นทางท่ามกลางสายลม และแสงแดด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า เสริมด้วยเทคโนโลยี Mini Twin Power Turbo ที่ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.1 วินาที ให้อารมณ์ขับสนุกเหมือนโลดแล่นอยู่ในสนามแข่ง
ภายนอกของ Mini Cooper S Convertible Resolute Edition ตกแต่งด้วยลวดลายบนฝากระโปรงหน้า และที่กาบบันได ซึ่งมาในเส้นสายที่มีการไล่เฉดสีทองอ่อนไปจนถึงทองเข้มได้อย่างสวยงาม พร้อมสลักชื่อรุ่น “Resolute” ไว้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากันได้ดีกับตัวถังภายนอกสีเขียว Rebel Green ที่ตัดกันกับสีดำ และสีทอง ส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรอบไฟหน้า กระจังหน้า ช่องดักอากาศ กรอบไฟเลี้ยว มือจับประตู ฝาถังน้ำมัน มาในสี Resolute Bronze ที่ตัดกับฝาครอบกระจกมองข้าง และหลังคาผ้าสีดำได้เป็นอย่างดี โดยในรุ่น Resolute Edition ได้เสริมความสปอร์ทดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย Pulse Spoke สีดำ
การออกแบบด้วยลายเส้นสุดเอกซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่น Resolute Edition นี้ ยังถ่ายทอดมาสู่ภายในห้องโดยสาร รับกับเบาะนั่งโดยสารทรงสปอร์ต Mini Yours Leather Lounge ในสีดำ Carbon Black ผสมผสานกับไฟ Ambient Light สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ซึ่งมาเป็นมาตรฐานใน Mini Cooper S Convertible Resolute Edition และอีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษ คือ พวงมาลัยหนังสปอร์ทที่หุ้มด้วยหนัง Nappa ที่สลักคำว่า "Resolute" ไว้บริเวณด้านล่างของก้านพวงมาลัย
ส่วนระบบปฏิบัติการ Mini รุ่นล่าสุดมาพร้อมแพคเกจ Connected Navigation Plus เติมเต็มอรรถรสการใช้งานทั้งความสะดวกสบาย ความบันเทิง ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับความชอบส่วนตัวได้อย่างครบถ้วน จำหน่ายในราคา 3,090,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
นอกจากนี้ Mini ประเทศไทยได้ประกาศปรับราคารถยนต์บางรุ่น โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พศ. 2565 เป็นต้นไป โดยรุ่นที่จะปรับราคามีดังนี้
1. Mini Cooper Hatch รุ่น 3 ประตู ราคาเดิม 2,199,000 บาท ราคาใหม่ 2,299,000 บาท
2. Mini Cooper S Hatch รุ่น 3 ประตู ราคาเดิม 2,880,000 บาท ราคาใหม่ 2,949,000 บาท
3. Mini Cooper S Countryman Entry ราคาเดิม 1,999,000 บาท ราคาใหม่ 2,049,000 บาท