ระเบียงรถใหม่
Lightyear 0 รถไฟฟ้า และแสงอาทิตย์ ที่วิ่งได้นาน 7 เดือน โดยไม่ต้องชาร์จไฟ

เพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น และเพื่อมุ่งไปยังเป้าหมาย "Net Zero" หรือการลดการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ที่ทั่วโลกมีเป้าหมายร่วมกัน แต่บางคนอาจลืมไปว่า ไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็มาจากเชื้อเพลิงปิโตรเลียมจากธรรมชาติเหมือนกัน ดังนั้นขั้นตอนการผลิตก็ยังคงทำให้เกิดมลพิษได้อยู่ และยังเป็นสิ่งที่ใช้นานๆ ต่อไป อนาคตก็อาจหมดลงได้
"Lightyear" บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีจากเนเธอร์แลนด์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ที่พร้อมผลิตในเชิงพาณิชย์ และวางจำหน่ายเป็นรุ่นแรกของโลก ในชื่อ Lightyear 0 หลังจากใช้เวลานานถึง 6 ปี ในการวิจัย และพัฒนาเพื่อสร้างรถต้นแบบ
จนถึงวันนี้ Lightyear 0 พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิต และวันจำหน่ายจริงในช่วงเดือนกันยายนนี้ ความน่าสนใจคือ Lightyear 0 (ซึ่งเดิม รถต้นแบบจะเรียกว่า Lightyear One) ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์ แบบโค้งที่ติดตั้งบนหลังคา ซึ่งมีขนาดใหญ่ รวมทั้งหมด 5 ตารางเมตร ติดยาวไปถึงท้ายรถ ช่วยให้สามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้น
ซึ่งถูกจดสิทธิบัตรการออกแบบของทางบริษัท ทำให้รถยนต์สามารถชาร์จไฟจากแสงแดดได้ตลอดเวลา เมื่อจอดรถไว้กลางแจ้ง ส่วนตัวถังจุดอื่นทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์
มิติตัวถังยาว 5,083 มม. กว้าง 1,972 มม. และสูง 1,445 มม. มีน้ำหนักตัวเพียง 1,575 กก. ถือว่าเบามากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ไม่ใช่แค่เพียงเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์เท่านั้น ที่ทำให้ Lightyear 0 วิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น แต่ Lightyear ถูกออกแบบตามหลักคิดของ Berlina Aerodynamica โดย Leonardo Fioravanti ที่ออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 1967 ที่ต้องการลดแรงต้านจากลมให้มากที่สุด เป็นรถทรงกระสวยหลังคาลาด ท้ายยาว และตัดเฉียง Kamm Tail (คุณลักษณะของรถยนต์ที่ด้านหลังของรถลาดลง ก่อนที่จะถูกตัดออกอย่างกะทันหันด้วยพื้นผิวแนวตั้ง รวมถึงการใช้พื้นผิวเรียบลื่น เพื่อลดแรงต้านของกระแสลม)
ส่งผลให้ Lightyear 0 มีค่า Cd หรือสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.19 ซึ่งต่ำสุดเท่าที่รถในเวอร์ชันผลิต และวางจำหน่ายจริง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี
ดีไซจ์นภายในของ Lightyear 0 รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น สวยงาม เรียบง่าย Texture รวมถึงการใช้วัสดุที่ไม่เบียดเบียนสัตว์ การใช้หนังเทียม Vegan ที่ทำจากธัญพืช ผัก และผลไม้ ร่วมกับผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูง ที่สามารถรีไซเคิลได้ นำมาผลิตเบาะนั่ง และบุแผงข้างประตู
โดยติดตั้งจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว มีจอดิจิทอลแสดงภาพแทนกระจกมองข้างอยู่ที่มุมเสา A
ขุมพลังของ Lightyear 0 จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว กระจายแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ได้อย่างอิสระ จ่ายไฟโดยแบทเตอรีขนาดความจุ 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 10 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 160 กม./ชม. ระยะทางวิ่งอยู่ที่ 625 กม./การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (WLTP)
แต่ถ้าหากวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 110 กม./ชม. จะวิ่งได้ไกล 560 กม. โดย "การชาร์จด้วยแสงอาทิตย์" จะช่วยเพิ่มระยะให้รถวิ่งได้อีกราว 70 กม./วัน ซึ่งนั่นเพียงพอต่อการใช้งานของคนทั่วไป หมายความว่า รถคันนี้ "แทบไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเลย" อ้างอิงจากการวิ่งทดสอบในช่วงฤดูใบไม้ผลิ-หน้าร้อน ทางตอนใต้ของประเทศสเปน หรือโปรตุเกส
สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 7 เดือน โดยไม่ต้องชาร์จไฟเลย (เนื่องจากมีแดดเพียง 7 เดือน) ส่วนในประเทศที่มีเมฆปกคลุม หรือมีแสงแดดอ่อน เช่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Lightyear 0 ก็จะวิ่งได้นานถึง 2 เดือน โดยไม่ต้องชาร์จ แต่หากมาวิ่งในประเทศเมืองร้อนแบบประเทศไทย อาจวิ่งได้ตลอดทั้งฤดูฝน และฤดูหนาว
อย่างไรก็ตาม Lightyear 0 มีค่าตัวเริ่มต้นสูงถึง 2.5 แสนยูโร หรือ 9.3 ล้านบาท สามารถเริ่มส่งมอบให้แก่ผู้ที่สั่งจองได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดย Lightyear ตั้งเป้าผลิตไว้เบื้องต้นเพียง 946 คันเท่านั้น
สำหรับคนธรรมดาที่อยากเป็นเจ้าของรถพลังงานสะอาดนี้ ก็ไม่ต้องหมดหวังครับ เพราะ Lightyear วางแผนที่จะผลิต รุ่นที่ 2 "Lightyear Two" ที่ออกแบบมาสำหรับการผลิตในปริมาณมาก ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท โดยคาดว่า จะเข้าสู่การผลิตในช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025 

