ธุรกิจ
สอท. เผยยอดผลิตเดือนมิถุนายน 2565
ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2565 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2565 มีทั้งสิ้น 143,016 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 6.53 เพิ่มขึ้นจากการผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.69 โดยมีสัดส่วนร้อยละ 50.35 ของยอดการผลิต และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 10.67
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 870,109 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 3.02
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ 43,805 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 11.89
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีจำนวน 256,932 คัน เท่ากับร้อยละ 29.53 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 13.48
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ 2 คัน ซึ่งเดือนมิถุนายน 2564 ยังไม่มีการผลิต และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 2 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม -มิถุนายน 2564 ร้อยละ 93.10
รถยนต์บรรทุก เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 99,209 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 17.36 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 613,177 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 11.98
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 95,496 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 17.01 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 593,409 คัน เท่ากับร้อยละ 68.20 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 11.56 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 156,998 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 20.99
• รถกระบะ Double Cab 367,048 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 9.37
• รถกระบะ PPV 69,363 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 4.22
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ 3,713 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 27.33 รวมเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 19,768 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนา ยน 2564 ร้อยละ 26.13
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ 71,002 คัน เท่ากับร้อยละ 49.65 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 4.79 ส่วนเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 442,578 คัน เท่ากับร้อยละ 50.86 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2564 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 8.98
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตเพื่อการส่งออก 10,466 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 53.52 เพราะขาดชิ้นส่วน และเซมิคอนดัคเตอร์ในรถยนต์บางรุ่น และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 82,818 คัน เท่ากับร้อยละ 32.23 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 42.37
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2565 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 60,536 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 16.29 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 359,760 คัน เท่ากับร้อยละ 60.63 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 5.03 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 46,189 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 10.98
• รถกระบะ Double Cab 274,006 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 3.16
• รถกระบะ PPV 39,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 12.09
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตได้ 72,014 คัน เท่ากับร้อยละ 50.35 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 20.69 และเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 427,533 คัน เท่ากับร้อยละ 49.14 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 19.30
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,339 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 22.58 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 174,114 คัน เท่ากับร้อยละ 67.77 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.60
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2565 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 34,960 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 18.28 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 233,649 คัน เท่ากับร้อยละ 39.37 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 23.37 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 110,809 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 25.72
• รถกระบะ Double Cab 93,042 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 32.94
• รถกระบะ PPV 29,798 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 4.67
รถจักรยานยนต์
เดือนมิถุนายน 2565 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 210,747 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 2.73 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 156,540 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 9.89 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 54,207 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 26.21
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,245,340 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.26 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 934,455 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 7.05 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 310,885 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 21.50
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 67,952 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 4.97 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 4.6 เพิ่มขึ้นจากการคลายลอคดาวน์เพิ่มขึ้น และการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกขึ้น การส่งออกที่เติบโตโดยเฉพาะสินค้าเกษตร การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น ทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 174,281 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 8.18 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 7.35
ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 รถยนต์มียอดขาย 427,399 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 14.5 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 906,625 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 3.94
การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมิถุนายน 2565 ส่งออกได้ 73,887 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 3.96 และลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 11 ลดลงเพราะขาดชิ้นส่วน และเซมิคอนดัคเตอร์ ทำให้ผลิตรถยนต์นั่ง และรถ PPV ลดลงจากมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 53.52 และ 34.51 ตามลำดับ ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ มูลค่าการส่งออก 42,781.17 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 13.18 โดยเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,120.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 3.99
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,388.55 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 7.21
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,726.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 22.81
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมิถุนายน 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 64,016.01 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 9.94
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 449,644 คัน โดยลดลงจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 5.04 และมีมูลค่าการส่งออก 266,654.08 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 1.50
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 21,278.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 13.59
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 104,742.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 2.04
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 13,094.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 9.98
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 405,769.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 0.44
รถจักรยานยนต์
เดือนมิถุนายน 2565 มีจำนวนส่งออก 79,268 คัน (รวม CBU+CKD) โดยลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 16.64 และลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 7.62 โดยมีมูลค่า 5,139.98 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 28.52
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 229.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 22.18
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 204.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 96.69
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมิถุนายน 2565 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,574.75 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 25.50
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 501,453 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 2.94 โดยมีมูลค่า 33,985.81 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 18.57
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,054.18 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 13.83
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,217.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 30.10
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 36,257.74 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 17.40
เดือนมิถุนายน 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 69,590.76 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 11.42
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 442,027.29 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.31
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมิถุนายน 2565
เดือนมิถุนายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,623 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 229.21 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถกระบะ มีทั้งสิ้น 877 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 431.52
o รถยนต์นั่ง จำนวน 872 คัน
o รถกระบะ รถแวน จำนวน 5 คัน
• รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 11 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 1000
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 11 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 725 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 123.77
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 725 คัน
• รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 10 คัน ซึ่งเดือนมิถุนายน 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 7,325 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้ว ร้อยละ 169.40 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถกระบะ มีทั้งสิ้น 3,041 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 234.91
o รถยนต์นั่ง จำนวน 3,006 คัน
o รถกระบะ และรถแวน จำนวน 9 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 22 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ 4 คัน
• รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 114 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 256.25
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 101 คัน
o รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล จำนวน 13 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 4,106 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 131.32
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 4,104 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 2 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 49 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 1533.33
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 15 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 1400
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมิถุนายน 2565
เดือนมิถุนายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,625 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 98.90 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,581 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 103.91
o รถยนต์นั่งจำนวน 5,554 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 27 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 44 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 51.65
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 44 คัน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 32,718 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 53.72 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 32,527 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน2564 ร้อยละ 61.58
o รถยนต์นั่ง จำนวน 32,488 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 35 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ 1 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร 3 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 191 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 83.43
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 191 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมิถุนายน 2565
เดือนมิถุนายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 1,085 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 50 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งมีทั้งสิ้น 1,085 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 59.56
o รถยนต์นั่งจำนวน 1,085 คัน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 5,947 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 55.88 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งมีทั้งสิ้น 5,947 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ร้อยละ 55.88
o รถยนต์นั่งจำนวน 5,947 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 18,644คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 125.52 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่ง และต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,173 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 132.06
• รถยนต์นั่ง มีจำนวน 6,994 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 135.81
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 49 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 113.04
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 5 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 400
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 125 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 23.76
รถยนต์ 3 ล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 378 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 50
• รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 47 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 74.07
• รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ มีจำนวน 331 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 47.11
รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 10,791 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 125
• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 10,720 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 124.41
• รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 71 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 238.10
อื่นๆ
• รถยนต์โดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 285 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 128
• รถยนต์โดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 17 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 1600
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 228,894 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 25.56 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 220,113 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 26.52
• รถยนต์นั่ง มีจำนวน 219,484 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 26.67
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 527 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 10.68
• รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 24 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 17.24
• รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 75 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 7.41
• รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 2 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 33.33
รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 8,779 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 5.50
• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 8,779 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 5.50
อื่นๆ
• รถยนต์โดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
• รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 37,075 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.82 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่ง มีทั้งสิ้น 37,075 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 32.82
• รถยนต์นั่ง มีจำนวน 37,013 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 32.91
• รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 40 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 2.44
• รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 21 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 12.50
• รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 1 คัน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
สัดส่วนยานยนต์ XEV ในประเทศไทย วันที่ 30 มิถุนายน 2565
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ยานยนต์ไฟฟ้า XEV ในประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 284,613 คัน
โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบทเตอรี (BEV) มีจำนวนทั้งสิ้น 18,644 คัน เป็นสัดส่วนร้อยละ 6.55
2. ยานยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (HEV) มีจำนวนทั้งสิ้น 228,894 คัน เป็นสัดส่วนร้อยละ 80.42
3. ยานยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) มีจำนวนทั้งสิ้น 37,075 คัน เป็นสัดส่วนร้อยละ 13.03
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา