เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในประเทศจีน ภายใต้ซับแบรนด์ Black Label เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน ที่มีรายได้สูง และสืบทอดความยิ่งใหญ่ของแบรนด์จากประเทศอังกฤษอย่าง MG All-New MG7 รถสไตล์ Coupe Fastback โดย SAIC MG วางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ระดับเรือธงของค่าย ที่โดดเด่นด้วยดีไซจ์นประตูที่ไม่มีขอบกระจก กระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดูดุดันมากขึ้น เป็นชิ้นเดียวกับช่องลม และกันชนหน้า ไฟหน้าแบบ LED โลโก MG สีดำบนฝากระโปรงหน้า การออกแบบด้านท้าย เพิ่มความสปอร์ทด้วยไฟท้ายแบบ LED ยาวเชื่อมทั้ง 2 ฝั่ง กันชนหลังมีดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ พร้อมท่อไอเสียคู่ สปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้ายที่สามารถยกตัวขึ้นอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. และจะพับเก็บลงเมื่อความเร็วลดลงต่ำกว่า 70 กม./ชม. คล้ายกับ Porsche Panamera มาพร้อมปลายท่อไอเสียแบบ 4 ท่อ เพิ่มความสปอร์ทดุดัน คล้ายกับ MG Cyberster ควบคู่กับล้ออัลลอยสีทูโทนแบบ 5 ก้านขนาดใหญ่ ขนาดตัวถัง ยาว 4,884 มม. กว้าง 1,889 มม. และสูง 1,447 มม. ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า Toyota Camry ที่มีมิติตัวถัง ยาวxกว้างxสูง เท่ากับ 1,840x4,885x1,445 มม. ภายในห้องโดยสารสปอร์ทหรูหรา หน้าจอควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ ที่ต่อเนื่องเป็นแนวยาวจากหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่เชื่อมต่อกับจอควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ เป็นหน้าจอลอยตัวขนาด 33 นิ้ว เบาะหนังสุดหรูหราทั้งหนัง Nappa หนังสังเคราะห์ Dinamica ใช้ในการหุ้มเบาะ แผงประตู ชุดเครื่องเสียงเลือกใช้บริการของ Bose ลำโพง 14 ตัว พร้อมเพาเวอร์แอมพ์ DSP 12 แชนเนล การแสดงผลแบบเรียลไทม์ AR-HUD ด้านขุมกำลังมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 185 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 261 แรงม้า และแรงบิด 405 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 6.5 วินาที และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 16 กม./ลิตร มาพร้อมระบบเฟืองท้ายลิมิเทด สลิพไฟฟ้า E-LSD ที่สามารถถ่ายเทแรงบิดได้ตั้งแต่ 0-100 % เพื่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และติดตั้งระบบกันสะเทือนที่ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคอัจฉริยะ mCDC ปรับความหนืดได้อัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับสภาพถนน ระบบบังคับเลี้ยวแบบแปรผัน VGR ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าโค้ง โดย SAIC MG จะประกาศราคาเมื่อใกล้จะวางจำหน่าย ซึ่งคาดว่าจะก่อนสิ้นปีนี้