Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดรวม 313 แรงม้า ที่อาศัยพลังงานจากแบทเตอรีขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น เจเนอเรชันที่ 4 สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กม. การออกแบบมีเอกลักษณ์ด้วยดีไซจ์นใหม่ในคอนเซพท์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ท และความหรูหรา ดีไซจ์นภายนอกดูโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่พร้อม Star pattern อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz ชุดกันชนหน้าดีไซจ์นใหม่เน้นความสปอร์ท และล้ออัลลอย AMG 5 twin-spoke ขนาด 18 นิ้วดีไซจ์นใหม่ ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ที่มาพร้อมความละเอียดมากกว่า 1 ล้านพิกเซลในโคมไฟแต่ละข้าง กับรายละเอียดของการทำงานประสานกันระหว่างฟังก์ชัน Adaptive Highbeam Assist Plus ที่สามารถควบคุมไฟ LED ให้สอดรับกับสถานการณ์บนท้องถนนได้อย่างอิสระ และ ULTRA RANGE Highbeam ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างเหมาะสม ส่วนด้านหลังดีไซจ์นไฟท้าย LED ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซจ์นเท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง โดยในภาพรวม ตัวรถมีขนาดกว้างขึ้นในทุกมิติ การเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารในที่นั่งด้านหลัง แม้ว่าจะเสียพื้นที่บรรทุกสัมภาระไปบ้าง เพราะต้องแบ่งบางส่วนไปให้แบทเตอรีขนาด 25.4 kWh โดย Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระ 315 ลิตร แทนที่จะเป็น 455 ลิตร อย่าง C 220 d Avantgarde ล้ออัลลอย AMG 5 twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว ที่ทางผู้ผลิตเขาแจ้งว่า "ไม่ควรเปลี่ยนลายล้อ" เพราะจะมีผลกับการขับขี่ ยางหน้า 225/45 R18 ยางหลัง 255/40 R18 การตกแต่งภายในที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ LCD ความละเอียดสูงบริเวณด้านหน้าของผู้ขับขี่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วแสดงผลคมชัด ให้ภาพที่อ่านง่ายในทุกสภาพแสง สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ คือ Discreet, Sporty, Classic พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางดีไซจ์นใหม่พร้อมจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย มาพร้อมระบบปรับอากาศควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ 2 โซนรวมถึงระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) รุ่นล่าสุดเอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงฟังก์ชันการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบ MBUX ที่มีการตั้งค่าเฉพาะบุคคลได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น และระบบจะช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ด้วยระบบ AI ที่ช่วยปรับการตั้งค่าของรถให้ดั่งเสมือน Comfort Zone นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย เบาะนั่งสไตล์สปอร์ทหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูง และส่วนรองรับศีรษะที่ได้รับการออกแบบใหม่ และไฟล้อมรอบห้องโดยสาร Premium Ambient Lighting 64 สี รวมถึงฟังก์ชันสุดไฮเทคอีกมากมายที่จะเพิ่มความสะดวกสบาย และน่าประทับใจในทุกการขับขี่ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ใช้ขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ขนาด 2.0 ลิตร 204 แรงม้า ที่ 6,100 รตน. แรงบิด 32.6 กก.-ม. หรือ 320 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รตน. ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 129 แรงม้า แรงบิด 44.9 กก.-ม. หรือ 440 นิวตันเมตร ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น เจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุดรวม 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดรวม 56.1 กก.-ม. หรือ 550 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ ผู้ผลิตแจ้งเอาไว้ว่า Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.1 วินาที เร็วกว่า C 220 d Avantgarde ที่ทำได้ 7.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดโดยประมาณอยู่ที่  245 กม./ชม. Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ใช้แบทเตอรีขนาด 25.4 kWh สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กม. และทำความเร็วสูงสุดจากโหมดการขับขี่แบบพลังไฟฟ้าล้วน (EL) ได้ถึง 140 กม./ชม. ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้า หากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชม. ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เริ่มต้นทดลองขับ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ในโหมด EL ซึ่งจะใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จาก VPC บางนากม. 30 ที่ตัวเลขกม. 254 จากการขับขี่แบบใช้งานจริงในครั้งนี้ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ในโหมด EL ไฟฟ้าในแบทเตอรีเหลือ 0 เครื่องยนต์เริ่มทำงาน อยู่ที่กม. 374 สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้มากกว่า 100 กม. (374-254=120 กม.) นอกจากนี้ ยังมีถังน้ำมันขนาดความจุ 50 ลิตรช่วยมอบอิสรภาพในการเดินทางที่มากยิ่งกว่าที่เคย นอกจากโหมด EL แล้ว Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ยังมีโหมด B H S I* B หรือ Battery Hold EL หรือ Electric H หรือ Hybrid S หรือ Sport I* หรือ Individual Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ยังมาพร้อมความโดดเด่นของระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), Lane Tracking package ที่ประกอบด้วยระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) รวมถึงระบบช่วยจอดด้วย Parktronic ที่ตรวจจับพื้นที่จอดรถว่าง พร้อมกล้องถอยหลังและเซนเซอร์อัลตราโซนิกที่ช่วยทำให้เข้าจอดได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ตัวถังยังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาดพร้อมห้องโดยสารที่แข็งแรงเป็นพิเศษ และโครงสร้างรถที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ฯลฯ ส่วนการขับขี่ช่วงล่างแบบ Agility Control และช่วงล่างด้านหลังแบบถุงลมพร้อมระบบ Self-Leveling ของ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ทำให้เป็นรถที่ควบคุมง่าย เบาะนั่งสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ สมกับราคาค่าตัว 3,350,000 บาท สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้มากกว่า 100 กม. และชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charger) ใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็ชาร์จได้เต็ม 100% แต่ถ้ายังไม่พร้อมกับระบบไฮบริดก็มี C 220 d Avantgarde ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้เลือกในราคา 2,590,000 บาท