Suzuki เปิดตัว Ertiga Smart Hybrid

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว New Suzuki Ertiga Smart Hybrid อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชูแนวคิด “The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังค์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” เติมเต็มความต้องการของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี Smart Hybrid Vehicle (SHVS) ระบบสมาร์ทไฮบริดแบบใหม่ล่าสุดของ Suzuki พร้อมขนกองทัพรถยนต์ Suzuki เข้าร่วมจัดแสดงภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39" อย่างคับคั่ง โดยยังมุ่งเน้นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นของลูก ค้า มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่างาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ณ อิมแพคท์ ชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี นับเป็นงานแสดงรถยนต์ที่จัดขึ้นในช่วงท้ายปี ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมาโดยตลอด ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ได้เวลา…สัมผัสอนาคต-It’s TIME…Come Touch the FUTURE” สื่อสารถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกยานยนต์ ด้วยการก้าวผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับทิศทางการดำ เนินธุรกิจของ Suzuki ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการนำเสนอสินค้าคุณภาพดี มีความคุ้มค่า แต่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะสมบูรณ์แบบ พาคุณไปพบกับอิสระแห่งการเดินทางได้มากกว่าที่เคย Suzuki มีความภาคภูมิใจในการแนะนำ “New Suzuki Ertiga Smart Hybrid-The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังค์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” ครั้งแรกในประเทศไทยกับเทคโนโลยี Smart Hybrid ที่ติดตั้งมาในรถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งถูกออก แบบมาให้พร้อมตอบโจทย์ในการใช้งาน ยกระดับชีวิตสู่ความสมาร์ทในทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยี SHVS เทคโลยีระบบสมาร์ทไฮบริดแบบใหม่ของ Suzuki ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า (Integrated Starter Generator หรือ ISG) พร้อมแบทเตอรี Lithium-Ion เพื่อช่วยเสริมกำลังการทำงานของเครื่องยนต์ มีผลทำให้ลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยสมรรถนะ และฟังค์ชันการใช้งานที่ครบครัน มอบอิสระแห่งการเดินทางสุดสมาร์ทเพื่อให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ล่าสุดอย่าง “New Suzuki Ertiga Smart Hybrid” เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างปรากฎการณ์ให้กับตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ของไทยให้คึกคักมายิ่งขึ้นนับจากนี้ ทั้งยังจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของ Suzuki ในปี 2565 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ถึงแม้สถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมจะมีแนวโน้มที่ยากลำบากแต่ยอดขายรถยนต์ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา Suzu ki มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 2.49 % ที่ตัวเลขยอดขายจำนวน 17,180 คัน ด้วยกลยุทธ์สำคัญ คือ การนำเสนอสินค้า และบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าให้สามารถเข้าถึง และเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ปลอดภัยได้อย่างมีความสุข โดยจากการเข้าร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39" ด้วยสถานการณ์หลายอย่างเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบรรยากาศที่มีส่วนช่วยกระ ตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถในช่วงนี้ Suzuki คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างยอดจองภายในงานได้ถึง 2,400 คัน วัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า New Suzuki Ertiga Smart  Hybrid-The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังค์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” นับเป็นอีกปรากฎการณ์ของรถอเนกประสงค์ประเภท MPV ในประเทศไทย ที่มาพร้อมดีไซจ์นที่จะพาคุณไปพบอิสระแห่งการเดินทางสุดสมาร์ท ด้วยเครื่องยนต์ Smart Hybrid ใหม่ เต็มที่ทุกฟังค์ชัน ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ SHVS จาก Suzuki ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator หรือ ISG พร้อมแบทเตอรี Lithium-Ion  เพื่อเสริมการขับเคลื่อนให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก และชาร์จกระแสไฟ (Regenerative) เข้าไปเก็บในแบทเตอรี  มีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษออกจากเครื่องยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “จุดเด่นของเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ Smart Hybrid ที่จะพาทุกคนไปพบกับทุกความสมาร์ทในการเดินทาง ให้เราสามารถเลือกใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ มีขนาดมิติความยาว 4,395 มม. กว้าง 1,735 และสูง 1,690  มม. นอกจากจะประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 17.9 กม./ลิตร ยังเสริมประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้รถออกตัวได้อย่างนุ่มนวล โดยมีอัต ราการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 134 กรัม/กม. การบำรุงรักษาง่ายไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์เบนซิน ใช้งานได้อย่างไร้กังวล เพราะรับประกันอายุแบทเตอรีนานถึง 5 ปี “New Suzuki Ertiga Smart Hybrid” ยังโดดเด่นด้วยดีไซจ์นทั้งภายนอก และภายใน กระจังหน้าโครเมียมดีไซจ์นใหม่ ผสมผสานด้วยไฟหน้าพโรเจคเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Guide Me (Automatic Turn-On/Off Headlight with Guide Me Functionality) สะดวกแม้ยามค่ำคืน ไฟท้ายแบบ LED แบบ Light Guides และสัญลักษณ์ Hybrid ที่บริเวณประ ตูด้านท้าย กระจกมองข้างพับออโต (Auto Retractable Outside Mirror) เสาอากาศแบบใหม่ ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทน ขนาด 15 นิ้ว การออกแบบภายในบริเวณคอนโซลด้านหน้า และแผงประตูสีดำตกแต่งลายไม้สีเทา มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่รอง รับการใช้งานอย่างครบครัน มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงพลังงานแบทเตอรี และสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ อาทิ ข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force พร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เชื่อมต่อกับความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยจอแสดงผลระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว ฟังค์ชันเอนเตอร์เทนเมนท์ครบครัน ด้วยเครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน สามารถรองรับการใช้งาน USB และ HDMI พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มควบคุมระ บบสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย สะดวกสบายทุกการขับขี่ ด้วย Keyless Entry และ Keyless Push Start พร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 2 ตำแหน่ง ทั้งยังสะดวกสบายด้วยช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง พร้อมช่องเป่าลมเย็นบริเวณคอนโซลกลาง และเย็นสบายอย่างทั่วถึงด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และสะดวกสบาย ด้วยที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมฟังค์ชันการปรับพับเบาะที่เหมาะกับทุกไลฟ์ไสต์   เบาะนั่งแถว 2 ปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 แถวที่ 3 แบบ 50:50 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มม. จัดสรรสัมภาระได้อย่างลงตัวกับพื้นที่เก็บของอเนกประสงค์บริเวณใต้ห้องเก็บสัมภาระ เปิด/ปิด ได้อย่างอิสระ 50:50 พแลทฟอร์ม Heartect เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Suzuki ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรค ABS ช่วยป้องกันล้อลอคขณะเบรคกระทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรคได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง Module ยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control),จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก Isofix และ Top Tether, กล้องมองภาพพร้อมเซนเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลังได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สำหรับ “New Suzuki Ertiga Smart Hybrid” แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ GL และ GX เกียร์อัตโนมัติ มีสีทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีแดง (สีใหม่) Mellow Deep Red, สีขาว (Pearl Snow White) สีเทา (Metallic Magna Gray) และสีดำ (Cool Black Metallic) นอกจากนี้ ภายในบูธรถยนต์ Suzuki ยังคับคั่งไปด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพรุ่นยอดนิยมจาก Suzuki ประกอบไปด้วย Suzuki Swift สปอร์ทแฮทช์แบคยอดนิยม สร้างยอดขายเป็นอันดับ 1 ของ Suzuki มาอย่างต่อเนื่อง ดีไซจ์นอันโดดเด่น เครื่องยนต์รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ Dualjet ช่วยลดมลพิษ และประหยัดน้ำมันถึง 23 กม./ลิตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 567,000 บาท Suzuki Ciaz อีโคคาร์ซีดาน อีกรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ความคุ้มค่าด้านการใช้งาน การบำรุงรักษา และรวมถึงราคาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดีที่มีชนิดเกียร์ให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และแบบเกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 528,000 บาท Suzuki Celerio รถยนต์นั่งขนาดคอมแพคท์คุณภาพเกินตัว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ COVID-19 รถยนต์รุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้ดีเกินคาด ส่วนหนึ่งมาจากสมรรถนะการขับที่ดี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 20 กม./ลิตร เป็นเจ้าของได้ง่าย ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 338,000 บาท Suzuki XL7 "Multi-Dynamic Crossover" รถยนต์ครอสส์โอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง รถยนต์สำหรับครอบครัว ที่มีมิติรถขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4,450 มม. กว้าง 1,775 มม. สูง 1,710 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. มอบวิสัยทัศน์ และสมรรถนะในการขับขี่ทุกฟังค์ชันการใช้งานอย่างครบครัน ในราคาที่คุ้มค่า 814,000 บาท Suzuki Carry รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่พร้อมจะนำไปดัดแปลง และพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับทุกแนวทางของการดำเนินชีวิต โดยนับจากนี้ Suzuki Carry จะไม่ได้ถูกจดจำในฐานะ “Food Truck” ธุรกิจติดล้อเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น Goods Truck ที่สามารถต่อยอดในการช่วยเหลือสังคม รวมถึงการปรับใช้ส่วนตัว เพื่อให้กลายเป็นรถขน ส่งความสุขเคียงข้างทุกเส้นทางฝัน เป็นเสมือนดั่งพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่พร้อมจะสนับสนุน และร่วมขับเคลื่อนอยู่เคียงข้างด้วยความจริงใจ พร้อมเดินหน้าไปสู่จุดหมายและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ราคาจำหน่ายเพียง 395,000 บาท ในโซน Customized ทาง Suzuki ยังคงนำรถหลากหลายรุ่นมาร่วมจัดแสดงภายในงาน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถที่ไม่เหมือนใคร ในครั้งนี้ Suzuki จึงเสนอการนำ Suzuki Carry รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์มาตกแต่งในแนวคิด “Dream Carrier บรรทุกฝันเพื่อวันสำเร็จ” ไม่ว่าความฝันของคุณ คืออะไร Suzuki Carry พร้อมช่วยต่อยอดความฝันให้ทุกคนได้เสมอ และด้วยสังคมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงไป หลากหลายอาชีพที่เราเคยคุ้นตาถูกหลงลืม และหายไป ในอดีตเราเคยเห็นอาชีพช่างซ่อมเสื้อผ้า และรองเท้าดำเนินอยู่ตามร้านเล็กๆ หรือตามหัวมุมบาทวิถี โดยมีช่างผู้ชำนาญการประจำการพร้อมเครื่องมือหาเลี้ยงชีพ อาทิ จักรเย็บผ้า และอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ หรือลังไม้ที่บรรจุอุปกรณ์ในการซ่อมรองเท้า วันนี้ Suzuki Carry มาต่อยอดความฝันขับเคลื่อนอาชีพช่างซ่อมเสื้อผ้า และรองเท้าให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งบนรถกระบะบรรทุกฝัน เพื่อจะได้ขับออกไปให้บริการลูกค้าตามสถานที่ชุมชนต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในรถ ให้สามารถทำงานไปได้ในเวลาเดียวกัน สะดวกทั้งเจ้าของธุรกิจ และลูกค้าที่มาใช้บริการ นี่คือ อีกครั้งที่ Suzuki Carry ตอกย้ำแนวคิด “Carry Your Dream เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนรถกระบะบรรทุกให้เป็นรถขนส่งความสุขเคียงข้างทุกเส้นทางฝันทั้งในด้านธุรกิจ และส่วนตัว รวมถึงการช่วยเหลือสังคมเหมาะสมกับการเป็นรถที่ครองใจผู้ประกอบการตัวจริง วัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความพร้อมทางด้านผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจัดแสดงแล้ว Suzuki ยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรพร้อมทีมงานคอยให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อแก่ลูกค้า ซึ่งจะทำให้มีความหลากหลายในด้านของสินเชื่อต่างๆ มากขึ้น และเป็นทางเลือกที่ดีในการเป็นเจ้าของรถยนต์ Suzuki ได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยแคมเปญพิเศษในชื่อโครงการว่า “Suzuki Super Flash Deal” ที่จะมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ Suzuki ทุกท่าน รายละเอียด และเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถยนต์ Suzuki ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ณ อาคาร อิมแพคท์ ชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี