ธุรกิจ
Nissan ผลักดันเป้าหมาย "ลดคาร์บอนเป็นกลาง"

Nissan ประเทศไทย ได้นำข้อปฏิบัติในการทำงาน ปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนของสำนักงาน โรงงานผลิต เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานใน 4 ด้าน และพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ได้แก่
สร้างค่านิยมในการคัดแยกขยะ (Waste Separation)
การคัดแยกขยะถือเป็นก้าวแรกในการรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขยะแต่ละประเภทมีวิธีจัดการที่แตกต่างกันออกไป Nissan จึงได้ส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องทั้งในสำนักงาน โรงงานผลิต โดยคัดแยกออกเป็นขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะเปียก ขยะอันตราย มีการนำขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อให้นำกลับมาสร้างประโยชน์ได้อีก นำขยะที่แท้จริงไปกำจัด วิธีนี้สามารถช่วยลดปริมาณการเผาไหม้ และลดการปล่อยแกสเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ
การรีไซเคิลน้ำเพื่อให้การปล่อยน้ำเสียเป็น 0 (Water Recycling and Zero Water Discharge)
ตั้งแต่ปี พศ. 2557 Nissan ประเทศไทยริเริ่มใช้ระบบบำบัดน้ำเสีย และการหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ณ โรงงาน 2 ซึ่งเป็นสายการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก เพื่อจัดการมลพิษทางน้ำ เริ่มจากการนำเทค โนโลยีบำบัดน้ำเสียแบบ Recycle Reverse Osmosis System มาใช้ในโรงงาน ซึ่งช่วยให้นำน้ำเสียจากกระบวนการผลิตที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับประโยชน์จากการนำน้ำที่รีไซเคิลแล้ววันละกว่า 300 ลูกบาศก์เมตร มาใช้ในโรงงาน 2 ทำให้ไม่ต้องมีการปล่อยน้ำเสียสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
เพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่าน Tree Planting Project
Nissan ได้จัดกิจกรรมการปลูกต้นไม้ในพื้นที่โรงงานบนถนนบางนา-ตราด กม. 21-22 จ. สมุทรปราการ เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ พื้นที่สีเขียวให้แก่สังคม ปัจจุบันพนักงานของ Nissan ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ไปแล้วมากกว่า 900 ต้นในโครงการนี้ ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน ลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ช่วยดูดซับแกสคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้อย่างต่อเนื่อง
การใช้พลังงานสะอาดในการผลิตไฟฟ้าผ่านโครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop Project)
ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา คือ อีกนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนให้โรงงานผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ Nissan เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนมากขึ้น ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 60,000 ตรม. มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงถึง 5.5 เมกะวัตต์เพื่อใช้ในการผลิต ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดแกสคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5,100 ตัน/ปี ทำให้ Nissan เป็นหนึ่งในโรงงานในประเทศไทยที่มีฐานการผลิตพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุด และสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์
“สำหรับ Nissan แล้ว ทุกๆ วัน คือ วันคุ้มครองโลก คือ วัน Earth Day Nissan ในประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของเราไปข้างหน้าพร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสังคมที่คาร์บอนเป็นกลาง Nissan จึงส่งเสริมให้พนักงานทุกคนได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทุกๆ วัน เราทำงานอย่างครบวงจร ทั้งในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน หลีกเลี่ยงการเกิดมลภาวะโดยไม่จำเป็น ที่สำคัญ คือ การปลูกฝังให้พนักงานของเราตระหนักรู้ และร่วมมือกันลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ จะนำ Nissan ก้าวไปสู่อนาคตของการปล่อยคาร์บอนเป็น 0 ได้อย่างแท้จริง” อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน Nissan ประเทศไทย และ ประธาน Nissan ภูมิภาคอาเซียน กล่าว 

