ในขณะที่การปรับเปลี่ยนกฎหมายยังคงดำเนินต่อไป Benedetto Vigna ซีอีโอ Ferrari ได้ยืนยันว่า "บริษัทต้องบรรลุค่าคาร์บอนไดออกไซด์เป็น “ศูนย์” ภายในปี 2573 โดยต้องพัฒนารถไฟฟ้ารุ่นแรกให้สำเร็จ ภายในปี 2568 จากการแก้กฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้ Ferrari สามารถพัฒนาเชื้อเพลิง e-Fuels ใช้กับเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไปได้"
โครงการพัฒนา e-fuel คาดว่าจะสำเร็จได้ในปี 2568-2569 และจะใช้กับเครื่องยนต์โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ทั้งยังเป็นแผนกลยุทธ์เสริมได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม Ferrari ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของแผนกลยุทธ์ใหม่ นอกจากเปิดเผยข้อมูลว่าบริษัทจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป โดยจะผลิตรถไฮบริด, รถไฟฟ้า และเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป และยังไม่เปิดเผยข้อมูลของรถไฟฟ้าคันแรกของ Ferrari นอกจากแจ้งว่าจะเป็นรถที่มีลักษณะเฉพาะของ Ferrari และจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน EU ได้ออกข้อกำหนดให้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ผลิตตั้งแต่ปี 2578 เป็นต้นไป ต้องใช้เชื้อเพลิง e-Fuels เท่านั้น หากใช้เครื่องยนต์เดิมต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่ง Ferrari ไม่ได้ให้ข่าวว่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์แบบ วี 6 , วี 8 หรือ วี 12 สูบ บลอคเดิม หรือพัฒนาเครื่องยนต์บลอคใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่นี้ 
