ธุรกิจ
Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO ใหม่ล่าสุด

นิยามใหม่ของการออกแบบที่ทันสมัย
รถมอเตอร์ไซค์ CVO Street Glide และ CVO Road Glide รุ่นใหม่ สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบโฉมใหม่ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากรูปทรงที่คุ้นเคยของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Grand American Touring ในรุ่นก่อน ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมแฟริงที่มีช่องระบายอากาศในตัว โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED และไฟเลี้ยวที่ผสานรวมกับปลายแฟริงด้านนอก นอกจากนี้ องค์ประกอบด้านดีไซจ์นโฉมใหม่ ยังรวมไปถึง บังโคลนหน้าที่ได้รับการปรับรูปทรง ถังน้ำมันขนาด 6 แกลลอน ด้วยมุมเอียงด้านข้างที่โดดเด่น และกระเป๋าข้างที่มีรูปทรง 3 มิติ ที่กลมกลืนไปกับแฟริง และถังเชื้อเพลิง ล้อ Combo Cast แบบซี่โฉมใหม่ ที่สร้างความโดดเด่นด้วยขอบล้ออลูมิเนียมสีดำตัดกับล้อ โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมตัวเลือกสี และการตกแต่งรายละเอียดของตัวรถถึง 2 แบบ
ประสิทธิภาพอันเหนือชั้นของเครื่องยนต์โฉมใหม่
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight VVT 121 แบบ V-Twin ขนาด 121 ลูกบาศก์นิ้ว โฉมใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ของแรงบิด และปริมาตรกระบอกสูบที่ติดตั้งมาจากโรงงาน บนรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Touring พร้อมโดดเด่นด้วยหัวกระบอกสูบระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ช่วยปรับระดับคลายความร้อนให้คลายตัวอย่างเหมาะสม จังหวะวาล์วแปรผัน (VVT) ระบบท่อร่วมไอดี และระบบไอเสียสมรรถนะใหม่
ดีไซจ์นของรถมอเตอร์ไซค์ CVO Street Glide และ CVO Road Glide รุ่นใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมสมรรถนะ และความสบายในการขับขี่ โดยรุ่น CVO Street Glide มีน้ำหนักสุทธิลดลงกว่า 31 ปอนด์ และรุ่น CVO Road Glide ลดลงกว่า 35 ปอนด์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบกันสั่นสะเทือน Showa ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และสบายยิ่งขึ้น หากเทียบกับรุ่น CVO ก่อนหน้า รวมถึงการยกตัวของช่วงล่างด้านหลังที่เพิ่มมากขึ้นถึง 50 % ระบบเบรค Brembo แบบพรีเมียม ที่มอบประสิทธิภาพในการเบรค และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่
ครั้งแรกของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide และรุ่น CVO Road Glide ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้อิสระ ทั้ง Road, Sport และ Rain ที่ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ผสมผสานกับแรงส่งกำลัง แรงเบรคของเครื่องยนต์ ระบบเบรคป้องกันล้อลอคที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง (C-ABS) และระบบ Traction Control ป้องกันท้ายสะบัด (C-TCS)
ระบบควบคุมสมดุลของอากาศ มาพร้อมกระจกบังลมบนแฟริงโฉมใหม่ และใบพัดลมที่สามารถปรับทิศทาง เพื่อมอบ “ความพลิ้วไหว” ตลอดการขับขี่ แรงปะทะระหว่างหมวกกันนอค และลมมีค่าลดลงถึง 60 % จากการทด สอบความเร็วในอุโมงค์ เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันในปี 2022 ระบบควบคุมสภาวะสมดุลของอากาศแบบใหม่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการขับขี่มากขึ้นหากเทียบกับรุ่นก่อน


