ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Dacia ผู้ผลิตรถราคาประหยัดจากโรมาเนีย ที่คนทั่วไปสามารถซื้อหามาครอบครองไม่ยาก ได้ประกาศการเข้าร่วมการแข่งขัน Dakar Rally และรายการ World Rally-Raid Championship (W2RC) ฤดูกาล 2568 ซึ่งเป็นรายการแข่งรถประเภททางฝุ่นที่ท้าทายที่สุด โดยใช้รถแข่ง Dacia Sandrider
Sandrider พัฒนาขึ้นจากรถแนวคิด Manifesto ที่เปิดตัวเมื่อปี 2565 โดยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแข่งขันรถทั้ง Renault Group และ Prodrive ในประเทศอังกฤษ กำหนดกรอบแนวคิดเพื่อสร้างรถแข่งทางฝุ่นสภาพสุดโหด ที่มีความคล่องตัว และมีน้ำหนักเบาที่สุดตามกติกาของรุ่น T1 และได้รับการบันทึกว่าเป็น Dacia ที่มีกำลังสูงที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา
ขุมพลังของ Dacia Sandrider ใช้เครื่องยนต์แบบ วี 6 สูบ เทอร์โบคู่ ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 360 แรงม้า ที่ 5,000 รตน. เครื่องยนต์ทำงานด้วยเชื้อเพลิงสังเคราะห์ ประกอบด้วยไฮโดรเจนหมุนเวียน และคาร์บอนไดออกไซด์เหลว ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์ซีเควนเชียล 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนล้อที่ใช้ขึ้นรูปจากอลูมิเนียมขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง BFGoodrich 37 นิ้ว
Dacia Sandrider ออกแบบรูปทรงโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ โดยสามารถลดแรงต้านอากาศได้ 10 % และลดแรงยกได้ถึง 40 % เมื่อเทียบกับรถแนวคิด ทั้งมีการจัดการความร้อนในสภาพอุณหภูมิสุดโหด ด้วยการผสมเม็ดสีป้องกันรังสีอินฟราเรดลงในแผงตัวรถที่ขึ้นรูปจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยแนวคิดนี้ได้ขึ้นทะเบียนลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว
Dacia Sandrider ผ่านการทดสอบในสภาพต่างๆ ก่อนการเปิดตัว ทั้งการแข่ง Rallye du Maroc 2024 ในปีนี้ ที่เป็นหนี่งสนามในรายการแข่งขัน World Rally-Raid Championship ซึ่ง Dacia Sandrider จะถูกใช้เป็นรถแข่งของทีม Dacia W2RC อย่างเป็นทางการ โดยจะลงแข่งในรายการ Dakar Rally 2025 เป็นครั้งแรก และสนามต่างๆ ของรายการแข่ง World Rally-Raid Championship ในปี 2568
ทีมแข่ง Dacia เพียบพร้อมด้วยนักแข่งมากประสบการณ์ ทั้ง Sébastien Loeb นักแข่งแชมพ์ WRC 9 สมัย ร่วมกับนักแข่งร่วม Fabian Lurquin, Cristina Gutierrez Herrero นักแข่งครอสส์คันทรี และนักแข่งร่วม Pablo Moreno Huete, Nasser Al-Attiyah แชมพ์ Cross Country World Cup 5 สมัย และแชมพ์ World Rally-Raid Championship 2 สมัย และได้รับการบันทึกเป็นตำนานของการแข่งขัน Dakar Rally