ทำความรู้จักปั๊มน้ำมันจีน Sinopec Susco

ทำความรู้จักปั๊มน้ำมันจีน Sinopec Susco

ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันในบ้านเรา แน่นอนว่าปั๊มรายใหญ่ที่หลายคนนึกถึงคงมีไม่กี่เจ้า ซึ่งกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันไป แต่ผู้ให้บริการน้ำมันแบรนด์ไทยอีกยี่ห้อที่กำลังเป็นที่น่าสนใจ นั่นคือ Sinopec Susco (ไซโนเพค ซัสโก)

ที่มาของ Sinopec Susco

ในปี 2023 กระทรวงพลังงานอนุญาตให้กลุ่มทุนจากประเทศจีนมีสิทธิ์ในการซื้อปั๊ม Susco ที่ตอนนี้ได้เข้ามาถือหุ้น โดย Susco ถือหุ้น 51 % และ Sinopec (Hong Kong) Limited ถือหุ้น 49 % พร้อมกับเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “Sinopec Susco” 

 

สำนักงานใหญ่ของ Sinopec อยู่ที่ประเทศจีน ครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่การสำรวจ การกลั่นน้ำมัน จนถึงการผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน มีโรงงานกลั่นน้ำมันมากถึง 20 แห่ง กำลังการผลิตมากกว่า 230 ล้านตัน/ปี และโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นจำนวน 11 แห่งในประเทศจีน และอีก 1 แห่งในสิงค์โปร์ และยังเป็นผู้สนับสนุนด้านการบิน และอวกาศของจีนมานานกว่า 50 ปี จึงมั่นใจได้ว่าคุณภาพน้ำมัน และการบริการอยู่ในระดับที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ตีตลาดด้วยการบริการที่หลากหลาย

Sinopec Susco เปิดตัวสถานีบริการน้ำมัน โดยเน้นปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบใหม่ ผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมไทยเข้ากับสีแดง และการออกแบบที่ทันสมัยของ Sinopec Susco มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านอาหาร, ร้านเครื่องดื่ม รวมไปถึงบริการทำความสะอาดรถยนต์ และร้านสะดวกซื้อ "Easy Joy" พร้อมโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ ซึ่งเป็นการตลาดที่เน้นการเข้าถึงความหลากหลาย ดึงดูดลูกค้าอย่างดี พร้อมทั้งปีนี้มีแผนขยายสถานีฯ ให้ได้จำนวน 25 สาขา พร้อมรองรับสำหรับสถานี EV Charge ในอนาคตแน่นอน 

เตรียมขยายให้ครบ 100 สาขา 

สาขาที่เปิดทำการในปัจจุบันของ Sinopec Susco มีสาขารัชดาภิเษก, ทับช้าง, สุขาภิบาล 2, สาธุประดิษฐ์ 1, คลองสองต้นนุ่น, ธนบุรี ปากท่อ กม.6 ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นสถานีบริการน้ำมัน Sinopec Susco กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 สถานี ภายในปี 2030 

การเข้ามาของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ทำให้ Sinopec Susco จะเป็นมากกว่าเพียงสถานที่เติมน้ำมัน แต่กำลังจะเป็นสถานีหมุดหมายสำคัญที่มอบการบริการอย่างครบวงจร และสามารถเข้าถึงทั้งในท้องถิ่น และบริเวณเมืองใกล้เคียงเป็นวงกว้าง ต้องมารอดูกันว่าทางผู้ให้บริการหน้าใหม่จากแดนจีนจะสามารถเข้ามามีส่วนแบ่งการตลาดได้มากแค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใด คุณภาพ และราคาที่เหมาะสมที่จะเลือกใช้บริการหรือไม่ ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสิน