ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Mercedes-Benz ร่วมกับ Nigo นักออกแบบแฟชัน อวดผลงานกับ G-Class รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด ในโอกาสครบรอบ 45 ปี
Mercedes-Benz G-Class Past II Future ผลิตจำหน่ายทั่วโลกเพียง 20 คัน ด้วยงานสีภายนอกแบบทูโทนสีเขียว และเทา สลับด้วยสีดำสำหรับชิ้นส่วนภายนอก ล้อ และห้องโดยสารใช้เบาะสไตล์วินเทจลายตาหมากรุก เฉดสีภายในสไตล์เดียวกับรุ่นย้อนยุคอีกคันที่เปิดตัวยุค 90 ซึ่งเป็นผลงานของ Nigo แฟชันดีไซจ์เนอร์คนเดียวกัน
Mercedes-Benz Past II Future มีให้เลือกทั้งขุมพลังดีเซล G 450d และเบนซิน G 550 แต่ตลาดสหรัฐอเมริกามีเฉพาะรุ่น G 550 เครื่องยนต์ของ Past II Future ถูกลดขนาดจากรุ่นเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบ Mild-Hybrid ให้กำลัง 325 กิโลวัตต์/443 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวทันเมตร/57.1 กก.ม.
Mercedes-Benz Past II Future พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทั่วโลกภายในเดือนเมษายน 2568 โดยยังไม่แจ้งราคา แต่อาจเทียบได้กับ G 550 ซึ่งมีราคา 148,250 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.9 ล้านบาท) ยังไม่รวมภาษี
สำหรับ G 550 นอกจากลดขนาดเครื่องยนต์ลง ยังเปลี่ยนสไตล์การออกแบบ ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสารด้วย ส่วนรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง AMG G63 เพิ่มระบบ Active Anti-Roll System โดยยังคงใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ
Mercedes-Benz G-Class รุ่นปี 2568 มีรุ่นไฟฟ้าล้วนให้เลือก โดยใช้ชื่อรุ่น G 580 และ EQ Technology ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ชุดขับตรงไปยังล้อ ทำให้รถสามารถหมุนอยู่กับที่ ด้วยระบบ Tank-Turn เพื่อเพิ่มความมั่นใจของลูกค้าในเทคโนโลยีระบบส่งกำลังพลังไฟฟ้าของ G-Class รุ่นปี 2568
บทความแนะนำ