ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า ปี 2568 รถ PHEV (พลัก-อิน ไฮบริด) ที่จำหน่ายในยุโรป ต้องผ่านการทดสอบการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น โดยมีการตรวจวัดค่ามลพิษใกล้เคียงกับสภาพการใช้งานจริงขึ้น ซึ่งทำให้รถบางรุ่นต้องเสียภาษีสูงขึ้นตามค่า CO2 ที่วัดได้ของแต่ละคัน
มาตรฐาน Euro 6e ที่ใช้อยู่จะถูกแทนที่ด้วยมาตฐานการทดสอบใหม่ คือ Euro 6e-bis ซึ่งถูกบังคับใช้กับรถใหม่ที่เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 และรถรุ่นใหม่ที่กำลังจำหน่ายอยู่ ต้องทำการทดสอบด้วยมาตรฐานแบบใหม่เช่นกัน
มาตรฐานการทดสอบวัดมลพิษแบบเดิม เป็นการจำลองการใช้งานรถเป็นระยะทาง 800 กิโลเมตร ส่วนการทดสอบ Euro 6e-bis ภายใต้เงื่อนไขใหม่ ได้เพิ่มระยะทางเป็น 2,200 กิโลเมตร เพื่อวัดค่ามลพิษ และความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถ PHEV ในสภาพการใช้งานจริง การทดสอบใช้รถ BMW X1 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1) โดยหน่วยงาน International Council on Clean Transport (ICCT) เป็นผู้วิเคราะห์ผลการทดสอบ
ICCT สรุปว่ามาตรฐานการวัดแบบเดิมไม่ได้สะท้อนการใช้งานของรถ PHEV จริง ทำให้ค่าการปล่อยมลพิษ CO2 ต่ำกว่าความเป็นจริง
เงื่อนไขการทดสอบแบบใหม่ ทำให้การวัดค่ามลพิษของ BMW X1 เพิ่มขึ้นจาก 45 กรัม/กิโลเมตร เป็น 96 กรัม/กิโลเมตร เดิมมีอัตราภาษีร้อยละ 8 และเมื่อทำการทดสอบตามมาตรฐาน Euro 6e-bis ทำให้อัตราภาษีเพิ่มเป็นร้อยละ 24 ใกล้เคียงกับอัตราภาษีของรถเครื่องยนต์สันดาปภายในประสิทธิภาพสูง
ในปี 2570 จะประกาศบังคับใช้มาตรฐานใหม่ คือ "Euro 6e-bis-FCM" ซึ่งรถแต่ละรุ่นต้องผ่านการทดสอบในสภาพการใช้งานจริงเป็นระยะทาง 4,260 กิโลเมตร และ X1 คันเดิมคาดว่าจะมีค่ามลพิษที่ 122 กรัม/กิโลเมตร
มาตรฐานใหม่ที่ประกาศใช้ในปีนี้ มีผลบังคับใช้กับรถยนต์ใหม่เท่านั้น และไม่มีผลบังคับใช้กับรถยนต์เก่าที่มีอยู่ ต่างจากการคิดภาษีการใช้ถนนสาธารณะ (VED road tax) สำหรับรถไฟฟ้า ซึ่งบังคับใช้กับรถไฟฟ้าใหม่ และรถไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน