GWM เตรียมเปิดตัว Haval H6 โฉมล่าสุดในบ้านเราเร็วๆนี้ !

GWM หรือ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) เตรียมเปิดตัว Haval H6 (ฮาวาล เอช 6) รุ่นปี 2025 ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด และพลักอิน-ไฮบริด ที่มีการปรับโฉมใหม่ให้ดูล้ำสมัย อัพเกรดระบบซอฟท์แวร์ให้เหนือชั้นไปอีกขั้น พร้อมระบบความบันเทิงสุดเร้าใจ เหนือชั้นกับสมรรถนะที่ให้มาแบบจัดเต็ม และยังตอบรับเสียงของผู้บริโภคชาวไทยกับการพัฒนาช่วงล่างใหม่ให้ตอบโจทย์ความชื่นชอบ และการขับขี่ของคนไทยมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของการเป็นรถยนต์เอสยูวีระบบพลักอิน-ไฮบริด คือ ระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % ที่ไกลที่สุดในเซกเมนท์ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าในทุกมิติ ตอบโจทย์เหล่าครอบครัวยุคใหม่ที่มองหานวัตกรรมล้ำหน้าเพื่อทุกการเดินทางที่แตกต่างอย่างเหนือชั้น ปลอดภัย และคุ้มค่าคุ้มราคาจากแบรนด์รถยนต์ระดับโลกจาก Great Wall Motor ขณะที่เครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริดรุ่นล่าสุด รหัส Hi4-T เพิ่งเปิดตัวในประเทศจีนช่วงปลายปีที่แล้วอาจมีโอกาสนำมาทำตลาดในบ้านเราเช่นกัน

Haval H6 มีอันดับยอดขายทั่วโลกอยู่ใน 10 อันดับแรกในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีเป็นระยะเวลา 5 ปีซ้อน และยังคงรักษาความพึงพอใจของลูกค้าได้สูงสุดเป็นเวลา 9 ปี อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจและกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากกว่า 4 ล้านรายจากหลายประเทศ Haval H6 เป็นรถยนต์เอสยูวีที่สามารถเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างหลากหลาย และสามารถมอบประสบการณ์ครบวงจรสำหรับการเดินทางของครอบครัวของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว โดย Haval H6 เจเนอเรชันที่ 4 นี้ ได้รับการเปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด “Star River Aesthetics” หรือความพลิ้วไหวของสายน้ำ และดวงดาว

สเปคเบื้องต้นของ Haval H6 รุ่นที่ทำลาดในบ้านเรา คือ HEV ได้แก่รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด แบบ เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 177 แรงม้า คิดเป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 243 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า (ราคาปัจจุบัน คือ 1,349,000 บาท) ส่วนรุ่นพลัก-อิน ไฮบริด PHEV ก่อนหน้านี้มีการทำตลาดด้วยราคาพิเศษจำนวนจำกัด (ปัจจุบันหยุทำตลาดไปแล้ว เพื่อรอการมาของรุ่นใหม่โฉมล่าสุด) มีสเปคเบื้องต้น คือ เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 154 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แบทเตอรีความจุ 34.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้มีกำลังสูงสุดถึง 326 แรงม้า (มากกว่ารุ่น HEV) และแล่นด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นระยะทางสูงสุดที่ 201 กม. (มาตรฐาน NEDC) โดยมีราคาก่อนที่หยุดทำตลาด คือ 1,699,000 บาท

ต้องมาติดตามกันว่า Haval H6 โฉมล่าสุดจะมีราคาแตกต่างจากเดิมหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็นเอสยูวีระดับ ซี-เซกเมนท์ ขนาดตัวเทียบเท่าคู่แข่งอย่าง Honda CR-V แต่มีราคาย่อมยากว่ากันหลายแสนบาท แต่ปัจจุบันมีคู่แข่งระบบพลัก-อิน ไฮบริดจากค่ายรถประเทศจีนมาทำตลาดเช่นกัน เช่น BYD Sealion 6 DM-I กับขุมพลงพลัก-อิน ไฮบริด ระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทต้นๆ นอกจากนี้ทาง GWM มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กรไม่น้อย Haval H6 คือ หนึ่งใน “ทีเด็ด” ที่จะช่วยฟื้นยอดจำหน่ายโดยรวมในช่วงต้นปี 2025 นี้

**ภาพประกอบจากงาน Auto China 2024 : Beijing**