ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Toyota ปิดฉาก Supra รุ่นสุดท้ายด้วยเวอร์ชัน Supra A90 Final Edition พร้อมราคาเกินความคาดหมาย โดยมีการปรับแต่งเหนือระดับ ทั้งพละกำลัง, การติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ผลิตขึ้นเพียง 300 คัน สำหรับตลาดยุโรป และญี่ปุ่น เท่านั้น ด้วยข้อจำกัดด้านมลพิษ ซึ่งเพิ่มความเข้มงวดขึ้น คงหารถระดับนี้ไม่ง่ายในอนาคต
ค่าตัวของ Final Edition สูงกว่าราคาของ Supra รุ่นเครื่องยนต์ 6 สูบ เวอร์ชันมาตรฐานเกือบเท่าตัว โดยในเยอรมนีตั้งราคาขายที่ 142,800 ยูโร (ประมาณ 5.23 ล้านบาท) ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร มีราคาเริ่มต้นที่ 73,250 ยูโร (ประมาณ 2.68 ล้านบาท) และรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ราคา 63,250 ยูโร (ประมาณ 2.31 ล้านบาท) ในฝรั่งเศสแพงกว่าด้วยราคา 144,000 ยูโร (ประมาณ 5.27 ล้านบาท) ทั้งต้องจับฉลากก่อนเพื่อชิงสิทธิ์ในการซื้อ
ขุมพลังของ Supra A90 Final Edition เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ BMW S58 เป็นเครื่องยนต์ B58 ที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มสมรรถนะจาก 280 กิโลวัตต์/382 แรงม้า เป็น 315 กิโลวัตต์/429 แรงม้า แรงบิดเพิ่มจาก 500 นิวทันเมตร/51.0 กก.ม. เป็น 570 นิวทันเมตร/58.1 กก.ม. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ชุดล้อหน้าเปลี่ยนไปใช้ระบบเบรค Brembo ขนาดใหญ่ ระบบคายไอเสียเปลี่ยนไปใช้ชุดท่อไททาเนียมของ Akrapovic ระบบรองรับของ KW ซึ่งปรับแข็ง-อ่อนได้ และทั้ง 300 คัน จะได้ล้ออัลลอยรุ่นพิเศษจาก Gazoo Racing ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และล้อหลังขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Michelin Pilot Sport Cup ขนาด 265/35 Z1R19 ที่ล้อหน้า และขนาด 285/30 ZR20 ที่ล้อหลัง
สำหรับภายนอกของ Toyota Supra A90 Final Edition ติดตั้งชุดแอโรพาร์ทวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โดยมีสปอยเลอร์หน้า และปีกดักลมขาคอหงส์, ฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายลมวัสดุเดียวกัน สามารถถอดออกเพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนขณะใช้ความเร็วสูงในสนามแข่ง ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะ Recaro แบบบัคเกทซีท จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมเข็มขัดนิรภัยสีแดงสด และบุด้วยวัสดุอัลคาทาราหลายตำแหน่ง
บทความแนะนำ