ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า จากการศึกษาวิจัยข้อมูลอุบัติเหตุรถชนคนเดินถนน หากโดนชนโดยรถเอสยูวี หรือรถพิคอัพ จะมีแนวโน้มให้มีการเสียชีวิตมากกว่า การชนโดยรถแฮทช์แบค หรือรถซีดาน
การศึกษาข้อมูลอุบัติเหตุรถชนคนเดินถนน วิจัยโดย London School of Hygiene and Tropical Medicine ได้เปรียบเทียบข้อมูลของการชนโดยรถเอสยูวี และรถพิคอัพ เทียบกับรถซีดาน และแฮทช์แบค
การวิจัยจากข้อมูลอุบัติเหตุ 682,509 ครั้ง พบว่าคนเดินถนนผู้ใหญ่ เมื่อถูกชนโดยรถเอสยูวี และรถพิคอัพ มีแนวโน้มเสียชีวิต มากกว่าถูกชนโดยรถยนต์นั่งธรรมดาถึง 44 % ส่วนเด็กตั้งแต่ทารกถึงอายุ 9 ขวบมีแนวโน้มเสียชีวิตมากกว่าถึง 130 %
ส่วนผู้ขับขี่รถเอสยูวีที่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์นั่งธรรมดา เมื่อเกิดอุบัติเหตุชนคนเดินถนน และคนขี่จักรยาน จะมีโอกาสเสียชีวิตน้อยลงถึง 17 % หรือลดการเสียชีวิตได้ปีละ 620 ราย/ปี
ข้อมูลการวิจัยอุบัติเหตุชนคนเดินถนนจำนวน 80 % เป็นข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรถขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก เทียบกับรถยนต์นั่งแบบธรรมดา
ทางฝั่งยุโรปมีจำนวนรถเอสยูวีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับฝั่งสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเจ้าของรถเอสยูวีในยุโรป ที่เปลี่ยนมาใช้รถยนต์นั่งธรรมดาแล้วชนคนเดินถนน หรือขี่จักรยาน ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตเพียง 8 %
จากการศึกษาวิจัย ไม่มีความเห็นให้ควรยกเลิกการใช้รถเอสยูวี ทั้งในกฎหมายไม่ได้ระบุประเภทของรถเอสยูวี เป็นการนำผลวิจัยมาพิจารณาถึงปัจจัยที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดของรถเอสยูวี และรถพิคอัพ มีแนวตัวถังสูง ส่วนหน้ารถหนา และตั้งตรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในการชน
จากการวิจัยการชนโดยรถเอสยูวี และรถพิคอัพ พบว่าด้านบนของร่างกายของผู้ใหญ่ถูกชน ตั้งแต่ระดับเชิงกรานขึ้นมา แทนที่จะโดนชนขา ส่วนเด็กจะโดนชนระดับทรวงอก แทนที่จะโดนชนแถวเชิงกราน และเมื่อโดนชนแล้วร่างกายของ “เหยื่อ” จะกระเด็นไปข้างหน้า แทนที่จะล้มลงบนฝากระโปรง
ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุการชน จึงทำให้ร่างกายส่วนบน (ศีรษะ, ทรวงอก และช่องท้อง) เกิดการบาดเจ็บมากกว่า ทั้งยังสร้างความบาดเจ็บรุนแรงกว่าด้วย
จากการศึกษาวิจัยยังพบว่า เมื่อรถมีความสูงเพิ่มขึ้นทุก 10 ซม. เมื่อเกิดอุบัติเหตุการชนขึ้น จะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของคนเดินถนนมากขึ้น 22 %