ธุรกิจ
Toyota หนุนพลังงาน สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยกลุ่มธุรกิจ กลุ่มอุตสาหกรรม หน่วยงาน และองค์กรขนาดใหญ่ ร่วมประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน ปี 2568 (Energy Beyond Standards 2025) เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคาร 50 ปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน เดินหน้าขับเคลื่อนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานในระดับสูง โดยเร่งดำเนินมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสนับสนุนการลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยแกสเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emission) เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืน
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯ มีเป้าหมายในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยแกสเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในกระบวนการผลิตรถยนต์ บริษัทฯ ใส่ใจทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบการผลิตชิ้นส่วน การขนส่ง การผลิตในโรงงาน การจำหน่าย ตลอดการกำจัดเมื่อหมดอายุการใช้งาน
อีกแนวทางที่ Toyota (โตโยตา) ให้ความสำคัญ คือ การลดการใช้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานด้วยนวัตกรรม และหลักการทางวิศวกรรม ผ่านการพัฒนาแนวคิด Karakuri ซึ่งใช้หลักกลศาสตร์ และกลไกธรรมชาติ เพื่อลดการพึ่งพาพลังงาน พร้อมทั้งมีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาด โดยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านการติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ ทำให้ตลอด10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถลดการใช้ไฟฟ้าไปได้กว่า 98,881 เมกะวัตต์ชั่วโมง และลดการปล่อยกาซเรือนกระจก 52,308 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
Toyota เชื่อมั่นว่า เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนให้ภาครัฐสามารถบรรลุเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานในปี 2025 ตามเจตนารมณ์ร่วมมุ่งลดการใช้ไฟฟ้า และลดการปล่อยแกสเรือนกระจก ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานด้านพลังงาน ของประเทศไทย สู่การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2050