GT World Challenge Asia เจ้าชายมาเลเซีย ผงาดคว้าชัย

ศึกซูเพอร์คาร์พันล้าน รายการ “GT World Challenge Asia” ดวลกระหึ่ม สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ ผลการแข่งขันปรากฏว่า “เจฟรี อิบราฮิม” เจ้าชายแห่งยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ ควงทีมเมทชาวบริทิช “เบน กรีน” ควบรถแข่ง Chevrolet GT3 (เชฟโรเลต์ จีที 3) ผงาดคว้าชัยชนะเรศที่ 2 ปิดฉากสนาม 3 ของฤดูกาล 2025 อย่างสุดประทับใจ

“GT World Challenge Asia 2025” หนึ่งในซีรีส์การแข่งขันรายการยักษ์ของโลกที่จัดขึ้นใน 4 ทวีป ได้แก่ ทวีปอเมริกา, ยุโรป, ออสเตรเลีย และเอเชีย โดยรายการนี้มีสนามแข่งขันครอบคลุมทั้งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และไทย

ไฮไลท์ของสุดสัปดาห์นี้ อยู่ที่การลุ้นแชมพ์ในแผ่นดินไทยของทัพนักแข่งจากทั่วโลก 60 คน ด้วยรถแข่ง GT3 สุดล้ำ มากถึง 30 คัน ท่ามกลางแฟนความเร็วไทย-เทศ ที่เดินทางเข้าชมที่สนาม และติดตามชมผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดทุกพแลทฟอร์มอย่างคับคั่ง โดยในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นการแข่งขันในเรศที่ 2

เกมเรศนี้ดวลกันสุดโหด 1 ชั่วโมงเต็ม บวก 1 รอบสนาม เริ่มจากกริดสตาร์ทที่ “เบน กรีน” ยอดนักขับจากสหราชอาณาจักรภายใต้รถแข่ง Chevrolet Corvett CO6 GT3 R (เชฟโรเลต์ คอร์เวทท์ ซีโอ 6 จีที 3 อาร์) หมายเลข 99 เป็นเจ้าของโพล โดยจับคู่กับ “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” แห่งยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย จากสังกัด ยะโฮร์ Motorsport Racing JMR เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย “มักซีม ออสเตน” นักขับดัทช์จาก ทีม KRC ในรถแข่ง BMW M4 GT3 Evo (บีเอมดับเบิลยู เอม 4 จีที 3 อีโว) หมายเลข 89 โดยมีทีมเมทชาวจีนอย่าง “หร่วน ชุ่น ฟั่น” เป็นมือที่ 2

โดยจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงออกตัว จากการปะทะกันของรถแข่งหลายคัน ส่งผลให้ตัวเต็ง 3 คัน ต้องออกจากการแข่งขันทันที และกรรมการต้องส่ง “เซฟทีคาร์” ออกมาวิ่งเพื่อเคลียร์ทแรค และกินเวลามากกว่า 10 นาที

หลังจากนั้น เกมกลับมาดวลกันอีกครั้งในช่วงราว 45 นาทีที่เหลือ และไม่มีอะไรพลิกผันในตำแหน่งหัวแถว โดยชัยชนะตกเป็นของ “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” ที่ควบรถแข่ง Chevrolet Corvett CO6 GT3 R หมายเลข 99 โดยรับช่วงต่อจาก “เบน กรีน” ทีมเมทชาวบริทิช เข้าป้ายเป็นคันแรก ด้วยเวลา 1 ชม. 56.990 วินาที ได้ฉลองแชมพ์เรศที่ 2 ส่งท้ายเกมที่บุรีรัมย์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ “หร่วน ชุ่น ฟั่น” นักแข่งรถชาวจีน จาก ทีม KRC ควบรถแข่ง BMW M4 GT3 Evo หมายเลข 89 หลังรับช่วงจาก “มักซีม ออสเตน” ทีมเมทดัทช์ตามเข้าป้ายแบบเฉียดฉิว ด้วยเวลาตามหลังเพียง 0.350 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “ไมค์ โจ” นักแข่งชาวจีน และ “ราฟ อารอน” ทีมเมทชาวสแปนิช ภายใต้รถแข่ง Mercedes-AMG GT3 Evo (เมร์เซเดส-เอเอมจี จีที 3 อีโว) จากสังกัด Climax Racing ตามหลัง 1.223 วินาที

ด้านอันดับ 4 ได้แก่ “ฉี เกา” นักแข่งจีน และ “แดเนียล โมรัด” ทีมเมทชาวแคนาดาในรถแข่ง Mercedes-AMG GT3 Evo หมายเลข 31 จาก Craft Bamboo Racing ตามหลัง 2.642 วินาที ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ “แอนโทนี หลิว” นักแข่งจีน และ “โดเรียง บอคโคลาชชี” ในรถแข่ง Porsche 911 GT3 R (โพร์เช 911 จีที 3 อาร์) หมายเลข 37 จาก Phantom Global Racing ตามหลังผู้ชนะ 6.119 วินาที

หลังผ่าน 6 เรศ จาก 3 สนามแรก สถานการณ์บนตารางแชมเพียนชิพเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดย “เจ้าชายเจฟรี อิบราฮิม” และ “เบน กรีน” ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงจากผลงานยอดเยี่ยมในประเทศไทย โดยมีทั้งสิ้น 93 คะแนน เหนือคู่แข่งอย่าง “แอนโทนี หลิว” และ “โดเรียง บอคโคลาชชี” อันดับ 2 อยู่ 10 แต้ม

ทั้งนี้ ศึก GT World Challenge Asia 2025 สนามถัดไปจะยกพลไปดวลความเร็วกันที่ สนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชันแนล สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคมนี้