ธุรกิจ
สอท. เผยยอดผลิต มิย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.98
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตรถยนต์ 130,223 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.98 ขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.07 ส่งออก 88,085 คัน ลดลงร้อยละ 1.11 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 3,304 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 314.55 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 9,373 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.87 พร้อมปรับยอดผลิตปี 2568 เหลือ 1,450,000 คัน
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2568 ดังต่อไปนี้การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2568 มีทั้งสิ้น 130,223 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 6.44 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ11.98 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 314.55 และผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.39 จากการผลิตรถกระบะส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.00 และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.27 จากฐานต่ำในเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 724,715 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 4.80
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 51,019 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 18.56 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 27,020 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 9.61
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 3,304 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 314.55
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 317 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน2567 ร้อยละ 46.99
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 20,378 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 73.52
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 มีจำนวน 264,668 คัน เท่ากับร้อยละ 36.52 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 6.55 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 118,730 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 33.04
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 23,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 380.48
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 9,937 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 211.60
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน112,203 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 14.77
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต
รถยนต์บรรทุก เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 79,204 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 8.12 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 460,047 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.76
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 78,492 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน2567 ร้อยละ 8.39 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 455,678 คัน เท่ากับร้อยละ 62.88 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 2.37 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 73,057 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 6.29
• รถกระบะ Double Cab 293,028 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567ร้อยละ 5.24
• รถกระบะ Double Cab BEV 90 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 100
• รถกระบะ PPV 89,503 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 12.51 รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตันเดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 712 คันลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 15.14 รวมเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ผลิตได้ 4,369 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 61.23
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 84,918 คัน เท่ากับร้อยละ 65.21 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.85 ส่วนเดือนมกราคม-มิถุนายน2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 475,013 คัน เท่ากับร้อยละ 65.54 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.98
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 24,454 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.50 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 97,570 คัน เท่ากับร้อยละ 36.87 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 35.60
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 60,464 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 4 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 377,443 คัน เท่ากับร้อยละ 82.83 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 3.50 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 41,536 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 34.54
• รถกระบะ Double Cab 265,833 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.28
• รถกระบะ PPV 70,074 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 8.62
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 45,305 คัน เท่ากับร้อยละ 34.79 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 31.24 และเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ผลิตได้ 249,702 คัน เท่ากับร้อยละ 34.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.90
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 26,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 36.89 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ผลิตได้ 167,098 คัน เท่ากับร้อยละ 63.13 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 18,028 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 26.27 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 78,235 คัน เท่ากับร้อยละ 17.17 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 23.35 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 31,611 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 33
• รถกระบะ Double Cab 27,195 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 31.74
• รถกระบะ PPV 19,429 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 29.16
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ไม่มีการผลิต
รถบรรทุก เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตได้ 712 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 15.14 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 4,369 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 61.23
รถจักรยานยนต์
เดือนมิถุนายน 2568 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 205,565 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 12.01 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 176,134 คันเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 12.48 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 29,431 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 9.29
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,269,946 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 6.08 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,041,992 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 4.77 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 227,954 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 12.50
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 50,079 คันลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 4.12 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 5.07 เพราะฐานต่ำของปีที่แล้วจากยอดขายที่ลดลงตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และรถ PPV เพิ่มขึ้นจากการออกรุ่นใหม่ของบางบริษัท แต่รถกระบะยังคงขายลดลงร้อยละ 19.9 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนไตรมาส 1 ของปี 2568 ลดลงร้อยละ 0.9 จากไตรมาส 1 ของปีก่อน ส่งผลให้แรงงาน โดยภาคการผลิตลดลง 0.4 % สาขาก่อสร้างลดลง 5.1 % อำนาจซื้อของประชาชนจึงอ่อนแอ
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 32,252 คัน เท่ากับร้อยละ 64.40 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 14.80
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 12,242 คัน เท่ากับร้อยละ 24.45 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 3.36
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 9,263 คัน เท่ากับร้อยละ 18.50 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 72.82
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 557 คันเท่ากับร้อยละ 1.11 ของยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 150.90
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,190 คัน เท่ากับร้อยละ 20.35 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.49
รถกระบะ มีจำนวน 11,153 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 20.74 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 110 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 4,032 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 55.02 เพราะมีบางบริษัทแนะนำรถ PPV รุ่นใหม่สู่ตลาดในขณะที่ปีนี้ที่ยังไม่มีจำหน่าย รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 1,353 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 11.68 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,173 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 13.94
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 154,317 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 6.28 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 2.50
ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 รถยนต์มียอดขาย 302,694 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 1.73 แยกเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 193,683 คันเท่ากับร้อยละ 63.99 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 4.99
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 72,512 คัน เท่ากับร้อยละ 23.96 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 12.28
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 54,084 คัน เท่ากับร้อยละ 17.87 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 61.41
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 5,004 คันเท่ากับร้อยละ 1.77 ของยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 315.96
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 62,083 คัน เท่ากับร้อยละ20.51 ของยอดขายรถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.49
รถกระบะมีจำนวน 73,620 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 17.82 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 369 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 6 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 20,714 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 9.85รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 7,206 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.59 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 7,096 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 4.82
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 906,165 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน2567 ร้อยละ 1.76
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมิถุนายน 2568 ส่งออกได้ 88,085 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 8.65 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.11 ลดลงจากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกบางรุ่นจากการเข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ช่วยเหลือการขับเพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของประเทศคู่ค้า
ขอบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทยย้อนหล้ง "เดือนเมษายน 2568 เป็นเดือนแรกที่มีการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทย เดือนพฤษภาคม 2568 เป็นเดือนแรกที่ส่งออกรถกระบะไฟฟ้าจากการผลิตในประเทศไทย”
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนมิถุนายน 2568 แบ่งเป็น ดังนี้
• รถกระบะ 54,988 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 62.43 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 0.79
• รถกระบะ BEV 49 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.06 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง ICE 16,979 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 19.28 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 15.64
• รถยนต์นั่ง BEV 4 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.01 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออกรถยนต์นั่ง BEV
• รถยนต์นั่ง HEV 4,511 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.12 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 22.25
• รถ PPV 11,554 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.12 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 8.01
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,439.52 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 8.97 แต่เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,328.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 5.48
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 16,412.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 4.02
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,069.38ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 0.26
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า79,250.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 5.78
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 459,357 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.50 แบ่งเป็น
• รถกระบะ 294,996 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 64.22 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.16
• รถกระบะ BEV 71 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.02 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง ICE 70,630 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 15.38 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 41.22
• รถยนต์นั่ง BEV 664 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.21 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง HEV 26,725 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.82 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.86
• รถ PPV 66,271 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.43 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 5.15
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 314,370.86 ล้านบาทลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน2567 ร้อยละ 13.51 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 18,499.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 16.11
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 95,115.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.44
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 13,198.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 4.99
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 441,184.40 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 9.17
รถจักรยานยนต์
เดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนส่งออก 65,803 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ร้อยละ 1.87 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 20.27 โดยมีมูลค่า 5,074.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 22.42
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 180.85 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 13.24
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 229.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 203
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมิถุนายน 2568 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,484.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 23.83
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 436,178 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 5.28 มีมูลค่า 31,727.75 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 3.06
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,079.51 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 10.82
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,294.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 61.39
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 34,101.67 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 1.84
เดือนมิถุนายน 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 84,734.83 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 4.30
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 475,286.07 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 8.68
พร้อมกันนี้ยังได้ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ปี 2568 จาก 1,500,000 คันลดลงร้อยละ 3.33 เป็น 1,450,000 ลดลง 50,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 5 จาก 1,000,000 เป็น 950,000 คัน โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับลดเป้าหมายการผลิตเพื่อการส่งออก ดังนี้ มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อ และยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลง, การเพิ่มความเข้มงวดด้านข้อกำหนดการปล่อยคาร์บอน, การยุติการผลิตรถยนต์บางรุ่นเพื่อปรับไลน์การผลิตสู่รุ่นใหม่, ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคของโลก และการรุกตลาดของรถยนต์ในประเทศคู่ค้า ซึ่งเพิ่มการแข่งขัน และกดดันยอดขาย
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEVเดือนมิถุนายน 2568
เดือนมิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน15,100 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 88.99 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 13,312 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 130.99
o รถยนต์นั่ง จำนวน 12,915 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 386 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 1 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 10 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 178 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 673.91
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,591 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 24.02
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,591 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 10 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 62.96
• รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 6 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 89.29
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 69,055 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้ว ร้อยละ33.03 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 57,027 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 52.09
o รถยนต์นั่ง จำนวน 55,831 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 1,083 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 13 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 145 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 300 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 62.16
• รถยนต์สามล้อ มีทั้งสิ้น 11 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 85.90
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล จำนวน 7 คัน
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 4 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 11,539 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 15.98
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 11,538 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 1 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 63 คัน ลดลงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 69.71
• รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 115 คัน ลดลงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 45.75
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมิถุนายน 2568
เดือนมิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,520 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 8.49 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,384 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 9.04
o รถยนต์นั่ง จำนวน 11,340 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 6 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 17 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 21 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 136 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 83.78
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 136 คัน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 72,313 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 0.57 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 71,736 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 0.13
o รถยนต์นั่ง จำนวน 71,507 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 23 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 119 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 85 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 2 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 577 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ร้อยละ 117.74
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 577 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมิถุนายน 2568
เดือนมิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,524 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 80.78 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น1,524 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 80.78
o รถยนต์นั่งจำนวน 1,519 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร 5 คัน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 11,346 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 131.74 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,346 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 131.74
o รถยนต์นั่ง จำนวน 11,318 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 20 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 8 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 296,784 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 61.98 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 217,093 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 70.89
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 212,313 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 69.77
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 3,568 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 133.81
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 220 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 228.36
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 203 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567ร้อยละ 82.88
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิค มีจำนวน 786 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 192.19
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1,181 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 151.81
• รถยนต์สามล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,030 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 6.30
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 119คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 23.96
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ มีจำนวน 911 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 4.35
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 73,617 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 42.72
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 73,512 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 42.83
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 105 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 21.64
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,848 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 8.37
o รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 1,015 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 95.95
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 542,371 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.73 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 532,580 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 31.29
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 531,171 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 31.24
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 512 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี2567 ร้อยละ 4.49
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 193 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 191.42
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 305 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 62.23
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 7 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 40
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิค มีจำนวน 392 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 139.02
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,788 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 5.94
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 9,788คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 5.94
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น74,557 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 26.85 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 74,557 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 26.85
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 74,458 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 26.85
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7คน มีจำนวน 1 คัน ในปี 2567 ยังไม่มีการจดทะเบียน
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 60 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 46.34
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 27 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 3.85
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 66.67
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิค มีจำนวน 6 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 20
