ทดลองขับ(formula)
ลองขับ Jaecoo 5 EV ราคาพิเศษ 549,000-599,000 บาท ! เอาอยู่..ทั้งทางเรียบ และทางลุย !

ค่าย Omoda & Jaecoo เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Jaecoo 5 EV (เจคู 5 อีวี) ชูจุดเด่นที่ราคา และออพชันที่ให้มาเต็มพิกัดเกินคาด กับตัวถังในระดับ B-SUV การขับขี่จะเป็นอย่างไร เรามาทดลองขับกัน ข้อมูลเพิ่มเติมของ Jaecoo 5 EV https://www.omodajaecoo.co.th/th/model/jaecoo-5-ev
เส้นสายของ Jaecoo 5 EV (เจคู 5 อีวี) เน้นเหลี่ยมสัน ผสมผสานความเรียบง่ายที่ทันสมัย ไฟหน้าทรงเรียวแบบ แอลอีดี ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว (ทุกรุ่นย่อย) รุ่นที่เราได้ทดลองขับ คือ รุ่น MAX ติดตั้งราวหลังคามาให้ พร้อมซันรูฟแบบพาโนรามิค เส้นด้านข้าตัวถังพาดยาว เพิ่มความปราดเปรียวได้ดี ไฟท้ายทรงเรรยวในแนวนอน ดูคล้ายกับ เอสยูวี จากยุโรปบางรุ่น นอกจากนี้มิติตัวถัง ความยาว 4,380 มม. และระยะฐานล้อ 2,620 มม. เทียบเท่าครอสส์โอเวอร์ระดับ B-SUV สัญชาติญี่ปุ่นหลายรุ่น นอกจากนี้ความสูงจากพื้นถนนของ JAECOO 5 EV คือ 174 มม. แต่สามารถแล่นผ่านนำลึกได้ถึง 450 มม. จะลุยได้จริงแค่ไหน เราจะมาทดลองขับในหัวข้อถัดไป
ในส่วนของสเปคมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรี Jaecoo 5 EV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 288 นิวทันเมตร หรือ 29.0 กก.ม. ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ส่วนแบทเตอรีมีความจุ 58.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะทำการสูงสุดที่ 461 กม. (มาตรฐาน NEDC) หรือ 400 กม. (มาตรฐาน WLTP) รองรนับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 11 กิโลวัตต์ และแบบ DC ที่ 80 กิโลวัตต์ จากการทดลองขับบนทางเรียบ เราพบว่าการส่งกำลังเน้นความไหลลื่น ใช้เวลาไม่นานก็สามารถไต่ถึงช่วงความเร็ว 100-120 กม./ชม. โหมดการขับขี่ได้แก่ ECO, SPORT และ NORMAL แต่เรารู้สึกว่าในแต่โหมดไม่มีความแตกต่างกันชัดเจน มีเพียงโหมด SPORT ที่มีการตอบสนองของคันเร่งไวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับพวงมาลัยที่มีน้ำหนักมากขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน อัตราเร่งที่ทางผู้ผลิตระบุไว้ 0-100 กม./ชม. ใน 7.7 วินาที ในการขับขี่จริงอาจไม่หวือหวาขนาดนั้น แต่เพียงสำหรับการเร่งแซง และการใช้งานบนทางหลวงได้สบาย ระยะทางที่แล่นได้จากการขับบนเส้นทาง กรุงเทพฯ-จ.ชลบุรี แบบไป/กลับ เป็นระยะทางประมาณ 200 กม. แบทเตอรีลดลงไปประมาณ 55 % ถือเป็นอัตราส่วนตามระยะทางที่ทางผู้ผลิตระบุไว้ แม้ในระหว่างการทดลองขับจะมีการขับขี่บนทางสมบุกสมบุนปานกลางในบางช่วง
ส่วนห้องโดยสารถูกออกแบบได้อย่างทันสมัย จอแสดงผลตรงกลางแนวตั้ง ถูกออกแบบให้มีความไหลลื่นต่อเนื่องกับส่วนคอนโซลเกียร์ เราพบว่าการใช้งานหลายส่วนจะมีปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมมาให้ด้วย รวมถึงการเปลี่ยนมุมกระจกมองข้าง ไม่จำเป็นต้องทำผ่านหน้าจอหลักเสียทั้งหมดเหมือนบางยี่ห้อ รุ่นทอพ MAX จะมีจอแสดงผลหลักขนาด 13.2 นิ้ว ตอบสนองการใช้งานแบบสัมผัสได้ดี ขณะที่จอแผงมาตรวัดเป็นจอภาพขนาด 10.25 นิ้ว เรามีความรู้สึกว่ามีขนาดเล็กเกินไปเล็กน้อย เบาะนั่ง และพวงมาลัยหุ้มหนัง ชุดเครื่องเสียงจะเป็นลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่นเริ่มต้น DYNAMIC ติดตั้งลำโพงมาให้เพียง 2 ตำแหน่ง) ส่วนเบาะนั่งด้านหลังมีความกว้างขวางที่น่าพอใจ ระยะเหนือศีรษะเหลือเฟือ แม้แนวหลังคาจะลาดเทลงมาเล็กน้อย ส่วนที่เก็บสัมภาระท้ายมีความจุที่ 485-1,284 ลิตร แม้การพับเบาะแถวที่ 2 จะไม่ได้พื้นที่ราบต่อเนื่องกันก็ตามที รุ่น MAX จะได้ประตูบานท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า
จุดนี้เอง ความสูงของตัวรถจากพื้นถนนที่ 174 มม. และทางผู้ผลิตระบุวว่า Jaecoo 5 EV สามารถแล่นผ่านน้ำลึกได้สูงสุดถึง 450 มม. ทางผู้จัดมีสถานีพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวกับการลุยน้ำที่ความเร็วต่ำ (ไม่เกิน 10 กม./ชม.) เราพบว่าตัวรถสามรรถแล่นผ่านได้จริง แม้จะสัมผัสถึงผิวน้ำที่กระทบใต้พื้นรถในบางครั้ง แต่ไม่พบปัญหาใดๆ ส่วนหนึ่งมาจากการติดตั้งชุดแบทเตอรีอย่างแน่นหนา ตัวแบทเตอรีมีการทดสอบความทนทานมาเป็นอย่างดี มีความปลอดภัยแม้แล่นผ่านน้ำลึก ในการใช้งานจริงจะมีประโยชน์ยามแล่นผ่านน้ำท่วม (ในระดับเกินความสูงของฟุตบาทเล็กน้อย) เอสยูวี รุ่นนี้สามารถแล่นผ่านได้อย่างไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ยังสถานีทดสอบการลุยบนทางฝุ่นดวยความเร็วสูง แม้ Jaecoo 5 EV จะไม่ได้มีบุคลิกที่เน้นความปสอร์ทอย่างชัดเจน แต่การทดลองขับในสถานีดังกล่าว เราพบว่าพวงมาลัยยังคงมีน้ำหนักเบา แต่สามาถควบคุมทิศทางได้แม่นยำ ระบบรองรับเน้นความนุ่มนวล การส่งกำลังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทำงานได้ค่อนข้างแม่นยำ ผู้ขับสามารถควบคุมรถได้ไม่ยากเย็น บ่งบอกว่า เอสยูวีลพลังไฟฟ้ารุ่นนี้มีความมั่นคง และปลอดภัยสำหรับการขับขี่บนทางฝุ่นที่มักพบเจอในการใช้งานแบบอเนกประสงค์
แม้เป็นการทดลองขับเบื้องต้น แต่เรามีความคิดว่า Jaecoo 5 EV มีความคุ้มค่าที่น่าสนใจมาก เริ่มจากราคาในเบื้องต้นที่ 549,000-599,000 บาท (ราคาพิเศษ 1,000 คันแรก) ไม่มีคู่แข่งรายไหนสามารถทำราคาได้ในตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีมิติตัวถังที่ใหญ่โต ห้องโดยสารกว้างขวาง มีอุปกรณ์ใช้งานครบครัน มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 211 แรงม้า แล่นได้ไกลสูงสุดประมาณ 400 กม. ครอบคลุมการใช้งานในจังหวัดใกล้เคียงได้ไม่ยาก ผสมการขับขี่ที่นุ่มนวลแต่มีความมั่นคงที่น่าพอใจ จัดเป็นหนึ่งทางเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าไม่น้อย