ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ขุมพลังไฮบริดเป็นอีกโครงการ เพื่อการกลับมาของ Nissan ด้วยระบบส่งกำลังไฮบริดแบบ E-Power ที่ใช้เครื่องยนต์ผลิตกระแสไฟชาร์จแบทเตอรี แล้วป้อนกระแสไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อน ในปัจจุบันระบบส่งกำลัง E-Power ของ Nissan ได้พัฒนามาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว
Nissan มุ่งพัฒนาให้เป็นระบบส่งกำลังไฮบริดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสามารถเป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับอุตสาหกรรมขั้นสูง
เครื่องยนต์ใหม่รหัส ZR15DDTe เป็นเครื่องยนต์แรกในโลกที่ใช้การสร้างบ่าวาล์วด้วยเทคนิคการพ่นเคลือบโลหะลงไปบนฝาสูบโดยตรง โดยเรียกว่า Cold-Sprayed เป็นเทคนิคการเคลือบผิว เพื่อให้ได้พอร์ทไอดีมีรูปทรงตามต้องการ ช่วยให้กระแสอากาศไหลสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างราบรื่น และมีการเผาไหม้ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
Nissan กล่าวว่า เครื่องยนต์ ZR15DDTe มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงถึง 42 % เหนือกว่าผู้ผลิตระบบส่งกำลังไฮบริดรายอื่น ซึ่งผลิตเครื่องยนต์ที่ทำประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงระดับ 41 % ซึ่งเป็นรองแค่ขุมพลังไฮบริดของรถแข่งสูตร 1 ที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนระดับ 50 % โดยใช้ระบบอัดอากาศเทอร์โบไฟฟ้า
การพ่นเย็น (Cold Spraying) เป็นรูปแบบของการพ่นเคลือบผงโลหะระดับอุตสาหกรรม สำหรับเชื่อม หรือเคลือบผิว การพ่นเย็นของ Nissan ใช้ผงโลหะที่มีส่วนผสมของทองแดงเป็นหลัก พ่นด้วยความเร็วสูง (Supersonic) ลงบนฝาสูบ โดยใช้แรงอัดจากแกสที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดหลอมเหลวของอนุภาคโลหะซึ่งจะพ่นเคลือบพื้นผิว
การผลิตด้วยระบบพ่นเย็นถูกใช้ในอุตสาหกรรมสาขาอื่นเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเป็นครั้งแรกที่ Nissan นำมาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการผลิตระดับมวล การใช้ผงโลหะผสมพ่นเคลือบบ่าวาล์ว มีข้อดีด้วยคุณสมบัติการนำความร้อนสูง ทั้งยังสามารถนำความร้อนออกจากวาล์วได้อย่างรวดเร็วด้วย
Nissan ยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ปี 2563 และได้รับสิทธิบัตรในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และนำมาใช้กับฝาสูบที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการผลิตด้วยเทคโนโลยีการพ่นเคลือบบ่าวาล์ว ทั้งมั่นใจในความแข็งแกร่งจากการผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้
สำหรับฝาสูบที่มีบ่าวาล์วแบบกด (Press-Fit Valve Seats) ไม่สามารถใช้วิธีพ่นเคลือบบ่าวาล์วลงบนพอร์ทฝาสูบได้
เครื่องยนต์ ZR15DDTe ของ Nissan จะเปิดตัวในอเมริกาเหนือ โดยประจำการใน Nissan Roque เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งมีกำหนดวางตลาดในปี 2570 และขุมพลังใหม่นี้อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมยานยนต์อีกครั้ง