ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า BMW iX3 เป็นรถรุ่นแรกในซีรีส์ของ Neue Klasse ที่ล้ำสมัยด้วยสถาปัตยกรรม, ระบบคอมพิวเตอร์ และระบบมอเตอร์ แต่สิ่งที่ไม่เคยพูดถึง คือ แนวคิดรักษ์โลกที่นำมาใช้ ตั้งแต่ที่มาของวัตถุดิบ
BMW พยายามอย่างเต็มที่ในการเน้นความยั่งยืน โดยใช้วัสดุรีไซเคิลมากที่สุด ตั้งแต่แพคแบทเตอรี จนถึงวัสดุหุ้มภายในห้องโดยสาร จนถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต
ผู้ผลิตรถหลายแบรนด์หันมาใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตรถใหม่มากขึ้น ตั้งแต่ชิ้นส่วนพลาสติค จนถึงวัสดุหุ้มเบาะ สำหรับ BMW ใช้อวนดักปลา และเชือกจากอุตสาหกรรมเดินเรือ ในการผลิตชิ้นส่วนครอบมอเตอร์ และแผ่นรองห้องเก็บสัมภาระ โดยเป็นขยะจากทะเลถึง 30 %, วัสดุภายในห้องโดยสารผลิตจากขวดน้ำอัดลม (ขวด PET), เส้นด้ายถักทอพรมปูพื้น, แผงหลังคา และวัสดุหุ้มเบาะเป็นพลาสติครีไซเคิล
BMW ตั้งเป้าใช้พลาสติค PET สำหรับผลิตชิ้นส่วนเป็นส่วนใหญ่ เพราะสามารถรีไซเคิลได้ง่ายกว่า หลังจากรถหมดอายุการใช้งานแล้ว
แม้แต่ส่วนประกอบในแชสซีส์ ซึ่งต้องใช้อลูมิเนียมหล่อ ในการผลิตแกนล้อ และชุดลูกปืน ยังมีส่วนประกอบของอลูมิเนียมรีไซเคิลถึง 80 %
ล้ออัลลอยมีส่วนผสมของอลูมิเนียมรีไซเคิล 70 % คงมีกระป๋องน้ำอัดลมเก่ารวมอยู่ด้วย แนวคิดนี้เป็นโครงการนำร่องของ BMW และ Ronal ผู้ผลิตล้ออัลลอย ในการผลิตล้อจากวัสดุอลูมิเนียมรีไซเคิล สำหรับ Mini Cooper S E ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้า แม้แต่แบทเตอรีก็ใช้วัสดุรีไซเคิล เพื่อทดแทนการใช้แร่จากการทำเหมือง ทั้งโคลอลต์, ลิเธียม และนิคเคิล ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลมาทดแทนได้ถึงครึ่งนึง
BMW iX3 ใหม่ ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า ยังสามารถลดปริมาณไอเสียที่เกิดจากการผลิตแบทเตอรีถึง 42 % เมื่อเทียบกับการผลิตแพคแบทเตอรีรุ่นก่อนหน้า ฐานการผลิตของรถรุ่นนี้ปล่อย CO2 น้อยกว่าโรงงานประกอบรถ BMW แห่งอื่นถึง 66 % บริษัทให้ความสำคัญต่อการลดการปล่อยมลพิษมาก เพราะโดยปกติแล้วโรงงานผลิตรถไฟฟ้า มักจะปล่อยมลพิษมากกว่าโรงงานผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน นอกจากนั้นรถ iX3 ยังใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นก่อนถึง 20 % หากใช้ iX3 ตลอดอายุการใช้งานจะปล่อยมลพิษเท่ากับ BMW X3 เครื่องยนต์เบนซินที่วิ่งไปเพียง 13,360 ไมล์ (21,500 กิโลเมตร) สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ iX3 มีความก้าวหน้าเหนือกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในได้อย่างชัดเจน