Japan Mobility Show 2025 เมื่อ “การเคลื่อนที่” ก้าวสู่หัวใจแห่งอนาคต

"Autoinfo Online" ในบทบาทสื่อทางด้านยานยนต์ของไทย เรามองงาน Japan Mobility Show 2025 (JMS 2025) ไม่ใช่แค่งานโชว์รถยนต์ทั่วไป แต่เป็นพยานหลักฐานแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ซึ่งที่ผ่านมาเคยถูกจำกัดอยู่ที่ “รถยนต์” เพียงเท่านั้น แต่วันนี้กำลังขยายเข้าสู่ “Mobility” ที่ครบวงจร และ "Autonfo Online" ของเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้

ในวันที่ 29-30 ตุลาคม 2025 นี้ ทีมงาน "Autoinfo Online" จะเดินทางไปร่วมชมงาน Japan Mobility Show 2025 ในรอบ Press หรือรอบสื่อมวลชน ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกๆ 2 ปี ส่วนรอบบุคคลทั่วไป จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม-9 พฤศจิกายน 2025 ที่ Tokyo Big Sight เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยงานนี้เป็นการต่อยอดมาจาก Tokyo Motor Show ที่เปลี่ยนโฟคัสจาก “รถยนต์” ล้วนๆ มาเป็น Mobility หรือ “การเคลื่อนที่ในทุกมิติ” โดยรูปแบบลักษณะนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกไปแล้วเมื่อปี 2023 (2 ปีที่แล้ว)

ทางผู้จัดงานระบุว่า งานนี้จะนำเสนอผลงานจาก 6 หมวดใหญ่ ได้แก่ รถยนต์นั่ง, ยานพาหนะพาณิชย์, มอเตอร์ไซค์, โครงสร้างตัวถัง/แชสซีส์, อะไหล่ & เครื่องมือ และ Related Mobility ซึ่งทั้งหมดจะครอบคลุมเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคต ที่อาจไม่ใช่แค่เพียงรถยนต์อีกต่อไป จะเน้นถึงความยั่งยืน ประสบการณ์ การเชื่อมโยงเทคโนโลยี และการเข้าถึงคนทุกกลุ่ม

ค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วม

ผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมงานปีนี้ มีแบรนด์ชั้นนำทั้งญี่ปุ่น และต่างประเทศ เข้าร่วมมากมาย ในแบรนด์ญี่ปุ่น ได้แก่ Toyota (โตโยตา), Lexus (เลกซัส), Honda (ฮอนดา), Mazda (มาซดา), Nissan (นิสัน), Subaru (ซูบารุ), Daihatsu (ไดฮัทสุ) ฯลฯ ส่วนแบรนด์ต่างประเทศ ได้แก่ BMW (บีเอมดับเบิลยู), Hyundai (ฮันเด), Mercedes‑Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์), BYD (บีวายดี) เป็นต้น

ที่น่าจับตา คือ “แบรนด์ญี่ปุ่น” ดูเหมือนจะตั้งใจแสดงให้เห็นภาพของ “การพลิกโฉม” ทั้งในแง่ของดีไซจ์น พลังงาน และการตลาด ที่สืบเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้ใช้ในปัจจุบัน

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

Toyota

Toyota เผยแนวคิดสำคัญภายในบูธ “Experience the new Toyota Group” พร้อมสโลแกน “Inventing our path forward, together” ซึ่งสื่อถึงการเชื่อมต่ออดีตสู่อนาคตผ่านยานยนต์ และ Mobility Service มีการเปิดเผยคอนเซพท์คาร์หลายรุ่น แต่รุ่นที่คนไทยกำลังให้ความสนใจในขณะนี้ คือ Toyota Land Cruiser FJ (โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ เอฟเจ) 

Toyota Land Cruiser FJ กำลังจะถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกแบบ “World Premiere” ที่บูธ Toyota ใน JMS 2025 โดยใช้ชื่อว่า Land Cruiser “FJ” ซึ่งย่อมาจาก “Freedom & Joy” เพื่อสื่อถึงความอิสระ และความสนุกในการเดินทาง นับเป็นรุ่นใหม่ในตระกูล Land Cruiser ที่ต่อยอดมาจากรุ่น 300, 250, 70 โดย FJ จะเป็นรุ่นเล็กที่สุด (wheelbase สั้นลง 270 มม. เมื่อเทียบกับรุ่น 250) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทั้งในเมือง และเส้นทางทุรกันดาร

Land Cruiser FJ ยังคงใช้ตัวถังแบบ Body On Frame เช่นเดียวกับ Toyota Hilux Champ (โตโยตา ไฮลักซ์ แชมพ์) และยังคงจุดเด่นด้าน Off-Road อย่างเต็มที่ เช่น ground clearance สูง, articulation ของล้อที่ดี โดยมีดีไซจ์นที่ย้อนยุคไปทางทรงกล่อง (square cabin) พร้อมขอบบังโคลนเด่น, บัมเพอร์มุมหน้า-หลังถอดได้ มีให้เลือกทั้งไฟหน้าแบบทรงกลมเพื่อย้อนอารมณ์ Land Cruiser รุ่นคลาสสิค 

Toyota Land Cruiser FJ มีข่าวจะขายในประเทศไทยปี 2026 โดยจะผลิตที่โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีแผนที่จะเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตรก่อน โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมี Toyota Corolla Concept (โตโยตา โคโรลลา คอนเซพท์) ซีดานดีไซจ์นใหม่ที่คาดว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือพลัก-อิน ไฮบริด มีช่องชาร์จอยู่ด้านหน้า และรูปทรงรถเน้นความโฉบเฉี่ยว  

• Toyota Century Coupe Concept (โตโยตา เซนทูรี คูเป คอนเซพท์) รถหรูแบรนด์ Century ที่เปลี่ยนไปเป็นรถคูเป/ลักชัวรี เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่ายุคหรูของ Toyota กำลังขยับขึ้นอีกขั้น
• Lexus LS Concept (เลกซัส แอลเอส คอนเซพท์) นี่คือหนึ่งในรถที่เซอร์พไรส์ที่สุด รถหรูแบบ “six-wheeled van” (สามแถว+ล้อ 6 ล้อ) ซึ่งเปลี่ยนบทบาทของ LS จาก “Luxury Sedan” ไปเป็น “Luxury Space” อย่างชัดเจน

Nissan

Nissan ยืนยันว่าจะเปิดตัว Nissan Elgrand (นิสสัน เอลกแรนด์) รุ่นที่ 4 สำหรับตลาดญี่ปุ่น พร้อมขุมพลัง e-POWER ไฮบริด เพื่อก้าวสู่ยานยนต์ลักชัวรีแบบยั่งยืน 

และอีกหนึ่งรุ่น คือ Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นผลงานสำคัญของ Nissan ในฐานะรถ EV ที่มีประวัติยาวนานกว่า 15 ปี  

และที่คนไทยรอคอย นั่นคือ Nissan X‑Trail (นิสสัน เอกซ์-ทเรล) ใหม่ ที่มีข่าวว่าจะกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอีกครั้งในช่วงงาน Motor Expo 2025 ปลายปีนี้ โดยในงาน Japan Mobility Show 2025 จะมีรถ Nissan X‑Trail Rock Creek (นิสสัน เอกซ์-ทเรล รอค ครีค) ให้ชมกันในบูธของ Nissan ด้วย โดยถูกนำเสนอว่าเป็นรุ่นที่พร้อมสำหรับ “แอดเวนเจอร์” ด้วยสไตล์ และสมรรถนะ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่ชี้ว่าเป็นการปรับสไตล์/องค์ประกอบให้ “พร้อมออกนอกทาง” มากขึ้น

Honda

ค่ายใหญ่ในประเทศไทยอย่าง Honda ในงาน Japan Mobility Show 2025 ก็มีการเตรียมเผยโฉมโมเดลแนวคิดใหม่หลายรุ่น พร้อมแผนการ “0-Series” ที่เป็น EV ในอนาคต แต่รุ่นที่คนไทยกำลังจับตามองก็คือ Honda Prelude (ฮอนดา พรีลูด) ใหม่ 2025 รุ่นนี้ถือว่าเป็นการ “คืนชีพ” ของชื่อ Prelude ของ Honda

โดยเปิดเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลกที่งานนี้ Japan Mobility Show 2023 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยยังคงใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดแบบ e:HEV ของ Honda เน้นความสนุกของการขับ+ความใช้ได้ในชีวิตประจำวัน Honda ให้คำจำกัดความว่า รุ่นนี้ คือ “Prelude for future Honda specialty sports models” หมายถึง เป็นตัวนำทางของโมเดลสปอร์ทในยุคไฟฟ้า/ไฮบริด 

นอกจากนี้ ยังมีค่าย Mazda ที่มากับแนวคิด “Driving & Emotion” ยืนยันว่าแม้ยุคไฟฟ้าจะมา ก็ยังมีรถที่ “ขับสนุก” อยู่เสมอ ส่วนค่าย Subaru และ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) ก็เตรียมจัดแสดงคอนเซพท์คาร์เฉพาะทาง เช่น รถออฟโรด EV, รถสำหรับกีฬา รวมถึง BYD ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ก็นำคอนเซพท์คาร์ K-Car มาเผยโฉมให้คนญี่ปุ่นได้ดูอีกด้วย

ในฐานะผู้ชมจากไทย สิ่งที่น่าสังเกต คือ รถรุ่นที่เปิดตัวในงานญี่ปุ่น มักจะมีผลต่อตลาดโลก รวมถึงประเทศไทย เช่น แนว EV, ไฮบริด หรือรถหรูที่อาจนำเข้าหลังจากเปิดตัว หากแบรนด์ญี่ปุ่นที่ไทยคุ้นเคย (Toyota, Nissan, Honda) เปิดตัวโมเดลใหม่ในงาน Japan Mobility Show 2025 ก็มีโอกาสมาก ที่เราจะได้เห็นรถรุ่นนั้นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ไม่ช้าก็เร็ว 

แนวคิด Mobility ที่เน้นบริการ+เทคโนโลยี กำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ดังนั้น ผู้บริโภคคนไทย ควรเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ใช่แค่ดูตัวรถเพียงอย่างเดียว ควรต้องดูไปถึงระบบขับเคลื่อน และระบบต่างๆ รอบข้าง รวมถึงวิธีการเชื่อมต่อระหว่างรถกับคน ในชีวิตประจำวันด้วย