สังคมไทยยังติดหล่มเศรษฐกิจไม่กระเตื้องอยู่นะคะในช่วงปีนี้ เราก็ต้องมาคอยดูว่าปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าหลังจากที่ประชามติผ่านแล้ว ความเชื่อมั่นในเรื่องการเมืองจะเพิ่มขึ้น ทำให้คนออกมาใช้จ่าย และลงทุนกันมากขึ้นหรือไม่เศรษฐกิจแบบนี้เราก็ปล่อยให้คนรวยเขาคุยกันถึงรถยนต์ราคาแพงไป รถแบบนั้นมีไว้ประดับบารมี ส่วนสำหรับคนรายได้น้อยก็ต้องหันมามองรถอีกแบบหนึ่งรถที่ช่วยทำมาหากิน เขียนถึงเรื่องนี้ไม่ใช่จะให้แฟนๆ "ฟอร์มูลา" ไปซื้อหากันหรอก เพียงแต่รู้สึกว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ยิ่งเรื่องการประหยัดพลังงาน และการดูแลสิ่งแวดล้อมแล้วล่ะก็ เรื่องนี้นับว่าน่าสนใจทีเดียว สมัยก่อน คนรายได้น้อยที่ขยันขันแข็งทำงาน ก็ใช้เวลานานกว่าจะเก็บเงินได้เพื่อไปออกรถกระบะ ยกฐานะตนเองจากขายไก่ย่างส้มตำที่เพิงริมถนน หรือไม่ก็รถเข็น มาเป็นเจ้าของรถกระบะ ส่วนจะขายอย่างเดิมต่อ หรือผันตัวเองไปทำอย่างอื่นหรือไม่ก็แล้วแต่ สมัยนี้ มีตัวช่วยให้ไม่ต้องใช้สองเท้าถีบรถ หรือเข็นรถไปขายไก่ย่างส้มตำอีกต่อไป ด้วยว่ามีผู้ผลิตรถยนต์สามล้อไฟฟ้าออกมาอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนที่ไปขายตามจุดต่างๆ และยังออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายสะดวกมากขึ้น ถึงแม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารจะแพงขึ้น แต่ถ้าเจ้าของกิจการขายอาหาร สามารถลดต้นทุนด้านพลังงานที่ใช้เติมรถ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แน่นอนรถไฟฟ้านั้นสามารถชาร์จไฟบ้านได้ ไม่ต้องไปเติมปั๊มที่ไหน ค่าไฟในบ้านคงจะเพิ่มขึ้น แต่ถูกกว่าค่าเชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็นแกส หรือน้ำมันแน่นอน น่าสนใจอีกเรื่องก็ตรงที่บริษัทผู้ผลิตรถสามล้อใช้ไฟฟ้าดังกล่าว เป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัทไทยและจีน บริษัทนี้มีชื่อว่า บริษัท ควายทอง นิว เอเนอร์จี จำกัด ชื่อบริษัทอาจไม่เป็นที่รู้จักในตลาดบน แต่ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับคนที่มีรายได้น้อย เกษตรกรผู้ใช้เครื่องมือทางการเกษตร จาง ควายทอง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน บริษัท ควายทอง นิว เอเนอร์จี จำกัด ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ฉงชิ้ง รุ่ยหยาง นิว เอเนอร์จี ออโตโมบิล จำกัด (CHONGQING RUIYANG NEW ENERGY AUTOMOBILE) จากประเทศจีน และ บริษัท ควายทอง มอเตอร์ จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ประเภทจักรยานยนต์สองล้อ และจักรยานยนต์สามล้อ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน สมรรถนะสูง ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้บแรนด์ “ควายทอง” สำหรับส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร ชาวนา ชาวสวน หรือผู้สนใจในธุรกิจค้าขายทั่วไป จีนเขาใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์มานานกว่า 15 ปีแล้ว แต่กระแสการตื่นตัวเรื่องภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุหลักที่ผลักดันให้ทุกประเทศทั่วโลก หันมาใส่ใจในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม มีการนำแหล่งพลังงานสะอาดเข้ามาใช้ทดแทนพลังงานจากน้ำมัน ซึ่งปล่อยไอเสียจากการเผาผลาญพลังงานจากเครื่องยนต์ จีนนำหน้าเรื่องพลังงานสะอาดในหลายๆ ทาง ไม่เฉพาะเรื่องพาหนะ แม้แต่บ้านเรือนก็ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กันอย่างแพร่หลายมานานแล้ว จุดเด่นของรถจักรยานยนต์สามล้อไฟฟ้า ควายทอง คือ ใช้เทคโนโลยีแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน สมรรถนะสูง ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 1,000 กิโลกรัม วิ่งความเร็วสูงสุดที่ 65 กม./ชม. โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 1 ยูนิท ต่อระยะทางวิ่ง 20 กม. รับประกันแบทเตอรี 3 ปี คราวนี้คนที่มีรายได้น้อยจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษต่อสภาพแวดล้อม นอกเหนือไปจากการที่ได้ประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าพลังงานและค่าดูแลรักษา เนื่องจากใช้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และพลังงานจากแบทเตอรี ไอเดียเรื่องการนำรถสามล้อไฟฟ้าไปใช้ทำมาหากินได้ทันที ก็อยู่ที่ทางบริษัทเขาดัดแปลงป็นรถขายอาหารเคลื่อนที่ให้เสร็จ ไม่ว่าจะเอาไปทำรถขายก๋วยเตี๋ยว รถขายข้าวแกง รถขายไก่ทอด หรือบาร์บีคิว ซื้อแล้วก็ใช้งานได้ทันที สมัยนี้ธุรกิจจะรุ่งก็ต้องมีไอเดียใหม่ๆ ไม่ว่าจะขายของให้คนมีรายได้มากหรือน้อย ก็ไม่หนีเรื่องของไอเดียทั้งนั้นแหละค่ะ