เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี 250 คูเป

กระแสความนิยมรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ได้การตอบรับสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการที่รถประเภทนี้ สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อย่างลงตัว และจากงานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์ค ที่ผ่านมา ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้เปิดตัว จีแอลซี คูเป ซึ่งนำเอา จีแอลซี รุ่นมาตรฐานมาปรับแต่งโฉมให้เสาซีลาดลงในแนวสปอร์ทแฮทช์แบค เพื่อเตรียมทำตลาดชนกับเหล่าบรรดาเอสยูวีระดับพรีเมียมตัวฉกาจ ไม่ว่าจะเป็น บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 4, โพร์เช กาเยนน์ และแจกวาร์ เอฟ-เพศ   รูปลักษณ์ภายนอกเน้นความสปอร์ทปราดเปรียว ฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ออกแบบมาให้มีสปอยเลอร์ในตัว รูปทรงไฟท้ายแลดูคล้ายกับ จีแอลอี คูเป ใครที่เห็นว่า จีแอลซี รุ่นธรรมดา ดูไม่หวือหวา ก็สามารถเลือกรุ่น จีแอลซี คูเป ก็น่าจะตอบสนองอารมณ์ที่เร้าใจได้เป็นอย่างดี   การตกแต่งภายในห้องโดยสารเหมือนกับ จีแอลซี ต่างกันที่กระจกหน้าเอนราบกว่า พวงมาลัยที่ตั้งชันกว่า ห้องโดยสารกว้างขวาง การตกแต่งภายในด้วยลายไม้ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ตำแหน่งที่นั่งในเบาะคู่หน้าสไตล์สปอร์ท นั่งสบาย กระชับ ให้ทัศนวิสัยที่ดีในการมอง สวิทช์ควบคุมปุ่มบังคับอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน ส่วนเบาะนั่งด้านหลัง ออกแบบมาได้อย่างเหมาะสม มีที่ว่างเหนือศีรษะ และพื้นที่วางขา มาให้อย่างเพียงพอ แม้ว่าฝาท้ายจะเอนลาดลงมา แต่ก็มีผลทำให้กระจกหน้าต่างคู่หลังบานเล็กลงไปด้วย จากการที่ขอบกันชนด้านท้ายรถสูงมาก ทำให้การยกสัมภาระเข้า/ออกไม่สะดวกนัก แม้ว่าฝาท้ายจะเปิดได้สูงก็ตาม   มิติตัวถัง จีแอลซี คูเป มีความยาวและเตี้ยกว่า จีแอลซี อยู่ 74 มม. และ 39 มม. ตามลำดับ ขณะที่ระยะฐานล้อมีขนาดเท่ากัน ส่วนพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอยู่ที่ 491 ลิตร สามารถเพิ่มเป็น 1,205 ลิตรได้เมื่อพับเบาะหลังลง จีแอลซี คูเป รุ่นมาตรฐาน จะมาพร้อมกับระบบไดนามิค ซีเลคท์ สามารถเลือกโหมดได้ทั้ง ECO, COMFORT, SPORT, SPORT+ และ INDIVIDUAL   ขุมกำลังยกมาจาก จีแอลซี เช่นกัน มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน, ดีเซล และพลัก-อิน ไฮบริด รุ่นที่เรานำมาทดลองขับเป็นรุ่น จีแอลซี 250 4 เมทิค คูเป ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ วางตามยาว ความจุ 2.0 ลิตร 211 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. ที่รอบต่ำเพียงแค่ 1,200 รตน. ความเร็วสูงสุดทำได้ 222 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ   อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 7.3 วินาที แม้ว่าตัวรถเปล่าจะหนักถึง 1,785 กก. แต่ว่าเครื่องยนต์เบนซินตัวนี้สมรรถนะโดยรวมยังเป็นรองขุมพลังดีเซล ที่ให้แรงบิดสูงกว่าที่รอบต่ำ แถมยังเหนือชั้นในเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิง อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรุ่นเบนซินทำได้ 6.9 ลิตร/100 กม. หรือ 14.5 กม./ลิตร ค่าปริมาณไอเสียอยู่ที่ 159 กรัม/กม. ความจุถังน้ำมัน 66 ลิตร น้ำมันเต็มถังสามารถพาคุณไปได้ถึงเกือบ 1,000 กม.   การเข้าโค้งทำได้อย่างมั่นคง ควบคุมรถง่าย แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างเยอะ จุดศูนย์ถ่วงสูง วิศวกรของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบไดเรคท์สเตียริง ที่มีอัตราทด 15.1 จากเดิม 16.1 แถมได้ยางซีรีส์ต่ำมาช่วยเสริมสมรรถนะการทรงตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้ จีแอลซี คูเป เป็นรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่ขับสนุกราวกับสปอร์ทซีดานเลยทีเดียว แม้ว่าจะมีอาการหน้าดื้อโค้งอยู่บ้าง แต่เป็นไปในแบบที่พอคาดเดาอาการล่วงหน้าได้ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์พิเศษที่เลือกซื้อติดตั้งเพิ่มเติม เช่น อแดพทีฟ แดมเพอร์ ระบบรองรับแบบถุงลม ที่จะช่วยลดอาการโคลงตัว   จีแอลซี 250 คูเป ถือเป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีขนาดกลาง ที่สามารถใช้งานได้ในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งอยู่ในเมือง หรือออกไปตามชนบท ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี เป็นการรวมตัวกันระหว่างรถอเนกประสงค์กับสปอร์ทซีดานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียว สวยงาม และให้อรรถประโยขน์สไตล์รถครอบครัวได้อย่างคุ้มค่า    

คุณรู้หรือไม่ ?

    แต่ถ้ายังไม่สะใจกับสมรรถนะของเวอร์ชันนี้ คงต้องข้ามไปเล่นรุ่น จีแอลซี 63 เอเอมจี ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บลอคเดียวกับ ซี 63 เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ให้พละกำลังถึง 510 แรงม้า ใกล้เคียงกับบรรดาซูเพอร์คาร์พันธุ์แท้เลยทีเดียว