หมู่บ้านคีรีวง พลิกพื้นสู่ความยั่งยืน ด้วยพระบารมี

คีรีวง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ใน จ. นครศรีธรรมราช ที่ชุมชนใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน มีทัศนียภาพที่สวยงาม นักท่องเที่ยวที่รักความสงบต่างอยากไปเยือน แต่ก่อนจะเป็นเช่นทุกวันนี้ หมู่บ้านเคยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ จนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต้องมีพระราชดำริให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ "ชีวิตอิสระ" ขอย้อนรอยพระราชดำริ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้

ล่องใต้ไปกับ มิตซูบิชิ ทไรทัน

การเดินทางครั้งนี้ ใช้เวลานานกว่า 11 ชม. กับระยะทางเกือบ 900 กม. ผมเลือกรถ มิตซูบิชิ ทไรทัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นพาหนะ เพราะเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 190 แรงม้า ที่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังให้อัตราเร่งแซงที่ดีเกินคาด   เราออกจากกรุงเทพฯ ตามถนนพระราม 2 ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ที่แยกวังมะนาว แล้วมุ่งลงใต้กันแบบยาวๆ อีก 800 กม. โดยมีจุดหมายปลายทางที่หมู่บ้านคีรีวง ต. กำโลน อ. ลานสกา จ. นครศรีธรรมราช    

อุทกภัยถล่มหมู่บ้าน ในหลวงทรงช่วยเหลือ

 

• ภาพน้ำหลากผ่ากลางหมู่บ้านคีรีวง เมื่อปี 2531

  เมื่อปี 2531 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ จากพายุที่โหมกระหน่ำเข้าสู่ภาคใต้ เป็นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาหลวง (ภูเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้) ลงมาสู่ใจกลางของหมู่บ้านคีรีวง คลองสายหลักที่เคยไหลผ่าน ถูกดินโคลนกลบจนมิด พื้นดินเดิมที่เป็นที่ตั้งหมู่บ้าน โรงเรียน และวัด กลายเป็นเส้นทางไหลของน้ำ จนเกิดเป็นคลองขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีชาวบ้านเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นับเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของชาวบ้านคีรีวง   เมื่อความทราบถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าพื้นฟูพื้นที่ และแก้ไขป้องกันอย่างเร่งด่วน ทรงมีพระราชดำริให้ขุดลอก และขยายความกว้างของคลอง พร้อมก่อสร้างแนวป้องกันตลิ่งพังของคลองระบายตามแนวตรงที่น้ำได้ปรับทางไหลไว้แล้ว โดยให้มีความลึกและขนาดความกว้างที่มากพอ เพื่อสามารถรับน้ำจำนวนมากให้ไหลผ่านหมู่บ้านไปได้อย่างสะดวก     ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้เกิดมรสุมใหญ่สักเพียงไหน หมู่บ้านคีรีวงก็ปลอดภัยจากอุทกภัยจนทุกวันนี้   ผมได้ถามชาวบ้านหลายคน ถึงโครงการพระราชดำริเรื่องนี้ และเกือบทุกคนต่างตอบว่า "ไม่รู้" มีเพียงเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่ทราบ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้    

หมู่บ้านคีรีวง อากาศดีสุดในประเทศ

 

• อากาศจะดีสมคำเล่าลือแค่ไหน คุณต้องพิสูจน์เอง

  หมู่บ้านคีรีวง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่มากว่า 300 ปี ที่ชาวบ้านอพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ช่วงรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่บนพื้นที่แหล่งต้นน้ำ และแหล่งพันธุ์ไม้นานาชนิด เดิมทีชาวบ้านเรียกที่นี่ว่า "บ้านขุนน้ำ" ต่อมามีการสร้างวัดในหมู่บ้านชื่อ "วัดคีรีวง" ชาวบ้านจึงเรียกชื่อวัดเป็นชื่อของหมู่บ้านเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน  

• วิถีชีวิตยามเช้า ของคนในหมู่บ้าน

  ชุมชนคีรีวง มีพัฒนาการทางชุมชนที่เข้มแข็ง จนได้รับการยอมรับให้เป็นหมู่บ้านดีเด่นระดับชาติ และได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว (THAILAND TOURISM AWARDS) ประเภทเมือง และชุมชน ประจำปี 2541 ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ได้แก่ การนำทางเดินป่า การจัดที่พักแบบโฮมสเตย์ เป็นต้น       ดังนั้น การมาท่องเที่ยวหมู่บ้านคีรีวง จึงได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะได้เห็นธรรมชาติที่สวยงาม และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านแล้ว ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย    

สัมผัสธรรมชาติ คือ หัวใจของที่นี่

 

• หนานหินท่าหา เป็นแหล่งน้ำ และรับประทานอาหารชื่อดังของคีรีวง

 

• ปั่นจักรยานชมทิวทัศน์ คือ กิจกรรมที่นิยม

 

• สะพานบ้านคีรีวง จุดแวะยอดฮิทที่ต้องมา

 

• อีกมุมหนึ่ง ของสะพานคลองท่าดี

  จุดเด่นของหมู่บ้านคีรีวง คือ ทัศนียภาพที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ กิจกรรมส่วนใหญ่จึงอยู่กับธรรมชาติ เช่น เล่นธารน้ำตกที่หนานหินท่าหา ถ่ายรูปคู่กับสะพานบ้านคีรีวงคลองท่าดี นอนโฮมสเตย์ฟังเสียงน้ำตก และปั่นจักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์  

• ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกลุ่มแม่บ้านคีรีวง

  ถ้าหากมาในช่วงฤดูผลไม้ จะได้ลิ้มรสชาติของผลไม้หลายชนิด เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อ และถูกเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว คือ ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ที่นำมาประยุกต์เป็นผ้าคลุมไหล่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป หรือแม้แต่กระเป๋าถือต่างๆ ในราคาสบายกระเป๋า นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกซื้ออีกมากมาย ตั้งแต่ สมุนไพร เครื่องจักสาน น้ำผลไม้แปรรูป ทุเรียนกวน ฯลฯ    

เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ควบคู่ธรรมชาติ

 

• บ้านประวัติศาสตร์ เดิมที 2 ชั้น ปัจจุบันเหลือชั้นเดียว

  ถ้าใครชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ ชาวคีรีวงยังคงเก็บรักษา "บ้านประวัติศาสตร์" ไว้เป็นอย่างดี บ้านหลังนี้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2531 สังเกตว่าเดิมทีเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น แต่ถูกดินโคลนกลบทับจนเหลือเพียงแค่ชั้นเดียว  

• โบสถ์วัดคีรีวง เคยถูกอุทกภัยทำลาย ปัจจุบันทางวัดรักษาไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ

  นอกจากนี้ ยังมีโบสถ์ใน "วัดคีรีวง" ที่ถูกอุทกภัยอีกเช่นกัน เหลือเพียงตัวโบสถ์ส่วนหน้าเท่านั้น ซึ่งทางวัดได้เก็บรักษาไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ถ้ายังคงสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ข้างวัดนี่เอง  

• น้ำตกวังไม้ปัก

 

• ตาดูปลา เท้าจุ่มน้ำ ที่บริเวณน้ำตกวังไม้ปัก

  และถ้ายังพอมีเวลาอยากให้ไปชม "น้ำตกวังไม้ปัก" ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 3 กม. เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงาม และเป็นแหล่งพักผ่อนของคนพื้นที่ มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ที่สำคัญมีปลาพวงแหวกว่ายให้ชมอย่างเพลิดเพลิน    

แผนที่

     

ที่กิน

    เมื่อพูดถึงอาหารปักษ์ใต้ คงนึกถึงอาหารรสจัดอย่าง แกงเหลือง สะตอผัดพริกแกง และคั่วกลิ้ง ที่ทานคู่กับผักสดกรอบ แต่ความจริงแล้วยังมี "ขนมจีน" อีกอย่างที่ขึ้นชื่อ ผมแนะนำ "ขนมจีนป้าเขียว" บ้านคีรีวง ที่แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองถึง 30 กม. แต่ก็มีลูกค้าแวะเวียนมากินอย่างไม่ขาดสาย ป้าเขียวแกทำขนมจีนแบบสดๆ วันต่อวัน มีน้ำพริกหวาน น้ำแกงกะทิ แกงไตปลา แกงพุงปลา ที่ทานพร้อมผักสดพื้นบ้าน ขายเป็นชุด สามารถเติมน้ำแกงได้ไม่อั้น รสชาติบอกเลยว่า อร่อยมาก    

ที่นอน

    มาเที่ยวหมู่บ้านคีรีวงทั้งที ต้องไม่พลาดที่จะนอนค้างคืนสูดอากาศที่ดีที่สุดในประเทศไทย ผมเลือกพัก "บ้านต้นน้ำ ตำนานป่า" เนื่องจากตั้งอยู่ต้นน้ำ น้ำจะมีความใส และเป็นส่วนตัว ที่พักเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องน้ำ มีโซฟา ตู้เย็น ทีวี ส่วนด้านบนเอาไว้นอนอย่างเดียว ตกแต่งสไตล์ย้อนยุคสวยงาม ในราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท/คืน    

ขอขอบคุณ

    บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะสำหรับการเดินทางครั้งนี้