โค้งอันตราย
น่าจะดี
เห็นยอดการขายของเดือนเมษายน ที่ผ่านมา แม้ว่า ตัวเลขจะตกลงไปร้อยละ 38.2 ขายกันได้เพียง 68,263 คัน แต่ยอดรวม 5 เดือนที่ผ่าน ขายไปแล้ว 359,821 คัน ดึงเอาเปอร์เซนเทจ ขึ้นมาหน่อยร้อยละ 42.7 ก็น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะแม้ว่าตลาดรถยนต์นั่ง จะหดหายไปเล็กน้อย แต่หากดูโดยภาพรวม แสดงว่า ตลาดกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวเข้าสู่ความต้องการที่แท้จริง
และเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่ คสช. เข้ารักษาความเรียบร้อยของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 ก็ยังประเมินว่า ตลาดโดยรวมของเดือนพฤษภาคม จะยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก น่าจะไปเริ่มนิ่งเอาตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นต้นไป และก็ยังคงเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยสวยสักเท่าไร สำหรับบางคน แต่นักการตลาดหลายคน ก็ประเมินแล้วว่าปีนี้ หากไม่มีอะไรให้ตกอกตกใจเข้ามาอีก ตลาดโดยรวมน่าจะตกลงไปไม่มากเท่าไรนัก
แต่แม้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันเอาในวันที่ 22 แต่จากการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย กลับปรากฏว่า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ตัวเลขเฉลี่ยทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 85.1 เพิ่มจากเดือนเมษายน ระดับ 84.0 เรียกว่านักลงทุน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ให้ความเชื่อถือ และเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจไทย เพราะสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย เห็นการจ่ายเงินจำนำข้าวสู่เกษตรกร ซึ่งมองเห็นได้ทันทีว่า จะเกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้นทันที
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ให้สัมภาษณ์ว่า ยอดขายในประเทศครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น เพราะ คสช.อนุมัติเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวนา ออกมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 และเตรียมการ ร่าง พรบ. งบประมาณ ปี 2558 ตลอดจนการผลักดันงบโครงการก่อสร้างกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก จึงทำให้คาดว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศครึ่งปีหลังดีขึ้น โดยกลุ่มรถกระบะ รถยนต์ขนาดเล็ก และรถจักรยานยนต์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มแรก
แต่ในทางกลับกัน เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่สามารถส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.87 มูลค่า 66,704.35 ล้านบาท เมื่อรวมมูลค่านับแต่เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.37 คิดเป็นเม็ดเงิน 320,895.10 ล้านบาท แสดงว่าภาคการส่งออก ไม่ได้สนใจปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองใดๆ เลย แถมพอยอดขายในประเทศ หดตัวลง ก็พยายามหาวิธีการดันยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ด้านค่ายรถยนต์เอง แม้ว่าจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตลาดโดยรวมยังไม่นิ่งเท่าที่ควร ต้องวางแผนงานกันเดือนต่อเดือน เพื่อปรับทั้งการผลิต และการจำหน่ายให้สอดคล้องกัน ก็ยังคงเห็นการส่งเสริมการขายที่ยังค่อนข้างดุเดือดอยู่ เพราะต้องหาทางช่วงชิงลูกค้ามาอยู่ในมือให้ได้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน เริ่มมีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยมี หัวหน้าคณะรักษาความสงบ เป็นประธาน ได้หารือเรื่องต่างๆ และที่ประชุมได้เห็นชอบ เกณฑ์การขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1. ใช้เทคโนโลยีและถ่ายทอดให้คนไทยมีการส่งเสริมวิจัยพัฒนา 2. สร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ในประเทศและส่งออก ส่งเสริม เอสเอมอี 3. ต้องมีมาตรการช่วยประหยัดพลังงานหรือใช้พลังงานทดแทน และ 4. กระบวนการผลิตต้องไม่เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม กรณีโครงการขนาดใหญ่ต้องผ่านการประเมินจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ คสช. เก็บเอามาย้ำให้ฟังอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ขอรับการส่งเสริม ได้เตรียมการเรื่องเหล่านี้ไว้ให้พร้อม การอนุมัติก็จะได้กระทำได้ง่ายขึ้น
บรรดานักลงทุน นักอุตสาหกรรมทั้งหลาย ต่างก็ขานรับนโยบายนี้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับอนาคต จะได้ทำงานกันอย่างมีความสุข
ลองมองกันอีกมุมหนึ่ง ด้านสถาบันยานยนต์ ประเมินว่ายอดขายรถยนต์ทุกชนิดในปีนี้จะลดลงประมาณ 5-10 % เมื่อเทียบกับปี 2556 เนื่องจากยอดขายภายในประเทศลดลงมาก และยอดส่งออกก็ไม่ได้ขยายตัวมาก จนชดเชยยอดขายในประเทศที่ตกลงได้ทั้งหมด โดยคาดว่าในปีนี้ยอดขายในประเทศจะลดลงประมาณ 5-10 % ส่วนยอดส่งออกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5 %
แต่ประเด็นที่ผู้อำนวยการท่านว่า "แม้ว่า คสช. จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นยอดซื้อในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ในระดับหนึ่ง เพราะว่าในช่วงของนโยบายรถยนต์คันแรกในปีที่ผ่านมา ได้ดูดซับกำลังซื้อในอนาคตไปเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถทำตลาดเพิ่มยอดขายภายในประเทศได้มากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์อีโค ที่มียอดขายลดลงมาก เนื่องจากกำลังซื้อส่วนใหญ่ใช้ไปในช่วงโครงการรถคันแรกแล้ว อย่างไรก็ตามในเป้าหมายการผลิตรถยนต์ 3 ล้านคัน ในปี 2560 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเชื่อว่าตลาดจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย"
แต่ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร ค่ายรถจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็เปิดตัวรถเก๋งไปแล้วหนึ่งรุ่น กระบะจากญี่ปุ่น ก็เปิดรุ่นใหม่ล่าสุดหนึ่งรุ่น ค่ายญี่ปุ่นอีก 3 ค่าย ก็กำลังเริ่งพัฒนากระบะใหม่เอี่ยม เตรียมเปิดตัวกันในไตรมาส 4 นี้แน่นอน
หมายความว่า มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 นี้ ผมเข้าชมงาน จะได้สัมผัสกับรถรุ่นใหม่เอี่ยมหลายรุ่น คุ้มค่าผ่านประตูแน่นอน
พบกันที่ ชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/16968