เกือบวุ่น...สุดท้ายก็ยอมๆ กันไป

[table]

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2017/2016

ตลาดโดยรวม,+15.1 % รถยนต์นั่ง,+20.2 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+3.9 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+34.9 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+14.1 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+14.7 % อื่นๆ,+6.3 %

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-เมษายน 2017/2016

ตลาดโดยรวม,+15.7 % รถยนต์นั่ง,+31.8 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),-8.9 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+8.9 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+12.5 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+23.9 % อื่นๆ,+7.5 % [/table] เดือนเมษายนของทุกปี ถือว่าเป็นเดือนแห่งความสุขของผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกกรุงเทพฯ เพราะจะได้ใช้ช่วงเวลาวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์เดินทางกลับถิ่นฐานบ้านเกิด ขณะที่คนกรุงเทพฯ เองส่วนหนึ่งก็ไปท่องเที่ยวยังต่างบ้านต่างเมืองด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกปีหน่วยงานภาครัฐได้รณรงค์อย่างหนักในเรื่องการลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงมหาเทศกาลนี้แต่ก็ไม่วายที่การเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย พิกลพิการจนทะลุเป้าไปทุกปี จนในปีนี้ ท่านนายก ต้องการให้อุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ โดยเฉพาะรถพิคอัพเกิดขึ้นน้อยที่สุด จึงได้ออกประกาศห้ามนั่งท้ายกระบะ หรือในห้องโดยสารที่เรียกกันว่า CAB แค่นั้นแหละ คะแนนนิยมท่านนายกตกลงฮวบฮาบเลยทีเดียว เพราะภาพที่เห็นชินตาในเทศกาลสงกรานต์นี้ คือ ภาพของรถพิคอัพที่เดินทางไปต่างจังหวัดพร้อมกับผู้โดยสารที่อาจเป็นญาติพี่น้องเพื่อนพ้องน้องพี่เต็มทั้งในห้องโดยสาร และส่วนที่เป็นกระบะท้าย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ตามมาหลังประกาศนี้ส่วนใหญ่พูดไปในทำนองว่าทำร้ายคนจนจะอาศัยรถเค้ากลับบ้านก็ห้าม นั่งกระบะมันสบายที่ไหนแต่ก็ทนเอาดีกว่าไปนั่งรถบัสโดยสารกว่าจะถึงบ้านต้องต่อรถหลายเที่ยว เสียเงินเสียทองมากขึ้นถึงบ้านจะเอาเงินที่ไหนไปให้คนทางบ้านจับจ่ายใช้สอย สุดท้ายท่านผู้นำก็ยอมถอยเหลือไว้เพียงต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามดื่มสุรายาเมาขณะขับรวมถึงผู้ที่อยู่ภายในรถด้วย และห้ามนั่งกระบะท้ายเกิน 6 คน จบสิ้นไป กลับไปสนุกสนานเฮฮางานสงกรานต์ได้เหมือนเดิม   อีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขในเดือนเมษายนของทุกปี คือ ช่วงเวลาแห่งความสุขของผู้ขายและผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ ในระหว่างเวลาการจัดงานมอเตอร์โชว์ ที่ถึงแม้ว่างานจะเริ่มในช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่เวลาการจัดงานส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ปี 2560 นี้ก็เช่นกัน โดยได้ข้อสรุปออกมาว่ามีผู้เข้าชมงานกว่า 1.6 ล้านคน ยอดจองรถยนต์ 31,031 คัน รถยนต์ที่ได้รับการจับจองมากที่สุด 10 อันดับแรก โตโยตา ฮอนดา มาซดา อีซูซุ เมร์เซเดส-เบนซ์ ฟอร์ด มิตซูบิชิ นิสสัน ซูซูกิ และบีเอมดับเบิลยู ทั้งนี้ประมาณ 20-30 % ของยอดการจองรถนี้เป็นการสั่งจองรถยนต์ในกลุ่มของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือ ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนเมษายน เดือนแรกของไตรมาสที่ 2 ของปีเป็นตัวเลขที่ทำให้ผู้ขายมีความสุขมากขึ้น ส่วนผู้ซื้อก็สมหวังที่จะได้ครอบครองรถใหม่ป้ายแดงที่หมายตาไว้ แฮพพีเบิกบานสำราญใจทั้ง 2 ฝ่าย   เดือนแรกของไตรมาสที่ 2 เริ่มต้นด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงทั้งหมดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา 15.1 % จำหน่ายได้รวมกันทั้งสิ้น 63,267 คัน โดยรวมยอดจำหน่ายที่ได้จากโชว์รูมรถยนต์แต่ละยี่ห้อทั่วประเทศ โตโยตา มียอดจำหน่ายรถยนต์ทุกรุ่นรวมกันเป็นอันดับ 1 จำหน่ายได้ 17,798 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 28.1 % อันดับ 2 อีซูซุ มียอดจำหน่าย 12,107 คัน คิดเป็น 19.1 % ของส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด อันดับ 3 ฮอนดา ยอดจำหน่ายรวม 8,348 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.2 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ ยอดจำหน่ายทั้งหมด 4,863 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 7.7 % และอันดับ 5 บแรนด์รถยนต์ที่มาแรงที่สุดในปีนี้ มาซดา ยอดจำหน่าย 4,203 คัน รับส่วนแบ่งการตลาดไป 6.6 %   ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ไตรมาสแรก รวมกับเดือนแรกของไตรมาสที่ 2 มีทั้งสิ้น 273,757 คัน เป็นตัวเลขที่ดีดตัวสูงขึ้นกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2559 ถึง 15.7 % ผ่าน 4 เดือนไปรถยนต์ที่จำหน่ายได้มากสุดยังคงเป็น โตโยตา จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 76,427 คัน เท่ากับ 27.9 % ของยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รองลงมาเป็น อีซูซุ 53,814 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 19.7 % ฮอนดา 38,539 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.1 % มิตซูบิชิ 21,819 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.0 % และนิสสัน 18,478 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.7 % ส่วน มาซดา อยู่ในอันดับที่ 7     แตกไลน์ลงไปในส่วนของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ประเภทต่างๆ รถพิคอัพ 4x2 เดือนเมษายน 2560 มียอดจำหน่ายรวม 24,230 คัน เพิ่มขึ้น 14.1 % เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นพิคอัพ อีซูซุ จำหน่ายได้ 9,478 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 39.1 % อันดับ 2 โตโยตา 6,020 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 24.8 % อันดับ 3 ฟอร์ด ยอดจำหน่าย 2,644 คัน ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 10.9 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 2,452 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 10.1 % อันดับ 5 เชฟโรเลต์ 1,376 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7 % รวมยอดจำหน่าย 4 เดือนแรก พิคอัพ 4x2 มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันที่ 108,958 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 12.5 % เบอร์ 1 ของตลาด ณ ช่วงเวลานี้ยังคงเป็น อีซูซุ เพราะจำหน่ายไปแล้ว 43,087 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 39.5 % ขณะที่ โตโยตา ยังเป็นเบอร์ 2 ต่อไปจากยอดจำหน่าย 28,976 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเท่ากับ 26.6 % ฟอร์ด เหนียวหนึบกับความเป็นเบอร์ 3 ด้วยยอดจำหน่าย 11,977 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 11.0 % ขณะที่เบอร์ 4 กับเบอร์ 5 ยังคงเป็น นิสสัน กับมิตซูบิชิ โดย นิสสัน มียอดจำหน่ายรวม 9,534 คัน มิตซูบิชิ ยอดจำหน่าย 5,894 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.8 % และ 5.4 % ตามลำดับ   พิคอัพ 4x4 เดือนเมษายน 2560 ยอดจำหน่ายรวม 2,443 คัน เพิ่มขึ้น 14.7 % โตโยตา มียอดจำหน่ายเกินครึ่งของยอดจำหน่ายรวม จำหน่ายได้ 1,282 คัน ส่วนแบ่งตลาด 52.5 % ตามด้วย อีซูซุ 490 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.1 % ฟอร์ด 397 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.3 % มิตซูบิชิ 175 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.2 % และเชฟโรเลต์ 50 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.0 % 4 เดือนแรกของปี 2560 ตลาดนี้มีการซื้อขายเกิดขึ้นแล้ว 11,407 คัน เพิ่มขึ้น 23.9 % จำหน่ายได้มากสุด โตโยตา 6,275 คัน เท่ากับ 55.0 % ของตลาดทั้งหมด ต่อด้วย อีซูซุ 2,256 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.8 % ฟอร์ด 1,579 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.8 % มิตซูบิชิ 842 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.4 % และนิสสัน 291 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.6 %   รถเอสยูวี เดือนเมษายน 2560 จำหน่ายได้รวมกัน 7,577 คัน เพิ่มขึ้น 3.9 % และเป็น โตโยตา ที่มียอดจำหน่ายมากสุดจำหน่ายได้ 1,964 คัน เท่ากับ 25.9 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด ฮอนดา มีความนิยมตามมาเป็นอันดับที่ 2 ยอดจำหน่าย 1,492 คัน เท่ากับ 19.7 % อันดับ 3 อีซูซุ จำหน่ายได้ 1,107 คัน เท่ากับ 14.6 % อันดับ 4 ฟอร์ด ยอดจำหน่าย 776 คัน 10.2 % อันดับ 5 มิตซูบิชิ ยอดจำหน่าย 765 คัน ส่วนแบ่งเท่ากับ 10.1 % รวม 4 เดือน มียอดจำหน่ายรวม 31,722 คัน ลดลง 8.9 % เมื่อเทียบกับปี 2559 ยอดจำหน่ายสูงสุด โตโยตา 7,642 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.1 % ฮอนดา 6,328 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.9 % มิตซูบิชิ 4,826 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.2 % อีซูซุ จำหน่ายแล้ว 3,982 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.6 % และฟอร์ด 2,972 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.4 %   รถเอมพีวี ยอดจำหน่ายเดือนเมษายนทั้งหมด 1,618 คัน เพิ่มขึ้นถึง 34.9 % โตโยตา ยึดจ่าฝูงเช่นเคย 820 คัน ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 50.7 % ตามมาเป็น ฮอนดา 575 คัน ได้ไป 35.5 % เกีย 96 คัน ได้ส่วนแบ่งไป 5.9 % ซูซูกิ 92 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7 % และฮันเด 27 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 1.7 % ไตรมาสแรกบวกเดือนเมษายน ยอดจำหน่ายตลาดนี้รวม 6,757 คัน เพิ่มขึ้น 8.9 % ผู้นำตลาด โตโยตา 3,407 คัน ส่วนแบ่งตลาด 50.4 % ตามด้วย ฮอนดา 2,654 คัน ส่วนแบ่งตลาด 39.3 % ซูซูกิ 324 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.8 % เกีย 229 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.4 % และฮันเด 94 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.4 %   รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ 2,953 คัน เพิ่มขึ้น 6.3 % รวม 4 เดือนแรกของปี 13,340 คัน เพิ่มขึ้น 7.5 %