ธุรกิจฟีล์มกรองแสงในประเทศไทย มีมูลค่ารวมสูงถึง 1,500 ล้านบาท การแข่งขันในตลาดจึงดุเดือด แต่ก็ยังมีผู้ค้ารายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง "ฟอร์มูลา" สนทนาธุรกิจกับ พรรษมณฑ์ โรจน์ดำรงพินิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซเว่นตี้ทู อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้จำหน่ายฟีล์มกรองแสง MIDAS ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดด้วยนวัตกรรมฟีล์มเปลี่ยนสีได้ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใดจึงนำฟีล์มกรองแสง MIDAS เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ? พรรษมณฑ์ : ฟีล์มกรองแสง MIDAS ทำตลาดมานานกว่า 20 ปี ในประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เป็นที่ยอมรับมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติพิเศษของฟีล์มกรองแสง MIDAS ทำให้ เซเว่นตี้ทู อินเตอร์เทรดฯ มีความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ จึงได้มีการศึกษา วิเคราะห์ตลาดฟีล์มกรองแสงในเมืองไทย และเล็งเห็นว่าความแปลกใหม่และเทคโนโลยีของ MIDAS น่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าบ้านเราได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัย และแตกต่างจากสินค้าที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปในตลาด เราจึงมุ่งตอบสนองกลุ่มลูกค้าระดับ HI-END ที่ต้องการความแปลกใหม่ โดย บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจาก MIDAS EXPORT USA ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในภูมิภาคเอเชีย ฟอร์มูลา : บริษัทฯ นำผลิตภัณฑ์เข้ามาจำหน่ายกี่ประเภท ? พรรษมณฑ์ : บริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย 3 ประเภท คือ 1. ฟีล์มนิรภัย (SAFETY FILM) สำหรับติดตั้งกระจกเพิ่มความปลอดภัย ซับแรงกระแทก และป้องกันอันตรายจากเศษกระจกที่แตกกระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะยึดเศษกระจกที่แตกไม่ให้ร่วงหล่นและปลิวกระจาย นอกจากนี้ ยังช่วยลดความร้อน และป้องกันรังสีอุลทราไวโอเลท 2. ฟีล์มใสกันรอย (PAINT PROTECTION FILM) ติดตั้งบริเวณตัวถังรถยนต์เพื่อปกป้องสีรถยนต์ เนื้อฟีล์มมีสาร COATING ในตัว ทำให้สีของรถดูเงางามอยู่เสมอ และยังมีเทคโนโลยี SELF HEALING ที่สามารถฟื้นฟูรอยขีดข่วนต่างๆ ด้วยความร้อนทุกชนิด เนื้อฟีล์มมีคุณสมบัติการไล่น้ำแบบ HYDROPHOBIC และทนต่อสารทำละลายได้ทุกชนิด เช่น ทินเนอร์ และน้ำมันเบรค 3. ฟีล์มกรองแสงสามารถเปลี่ยนสีได้อัตโนมัติ (PHOTOCHROMIC FILM) เหมือนเลนส์แว่นที่สามารถปรับแสงได้ โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้ฟีล์มเปลี่ยนสีได้ คือ แสง อุณหภูมิ และรังสียูวี เป็นฟีล์มที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายในตอนกลางคืน และกันความร้อนจากแสงอินฟราเรดได้ถึง 99 % ฟอร์มูลา : ปัจจุบัน MIDAS ได้รับการตอบรับอย่างไรในตลาด ? พรรษมณฑ์ : หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจาก MIDAS เมื่อปี 2559 ได้เริ่มทำตลาดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยเน้นกลยุทธ์สินค้าคุณภาพ และเทคโนโลยีระดับสูงที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และด้วยคุณภาพของสินค้า ส่งผลให้ลูกค้าที่ติดตั้งบอกกันแบบปากต่อปาก จนส่งผลให้ยอดขายในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มูลา : วางนโยบายและแผนการตลาดไว้อย่างไร ? พรรษมณฑ์ : บริษัทฯ จะทำการตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค มีความต้องการสินค้าที่แปลกใหม่ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แตกต่างจากสินค้าทั่วไป ดังนั้น จึงต้องมีการสื่อสารคุณสมบัติและคุณภาพของสินค้า MIDAS ให้ถึงผู้บริโภคมากขึ้น ผ่านสื่อทุกแขนง รวมถึงสื่อโซเชียลออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น เพราะปัจจุบันในตลาดฟีล์มกรองแสงนั้นมีสินค้าหลากหลายระดับ และยี่ห้อ รวมถึงในปีนี้จะมีบแรนด์ต่างๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดมากยิ่งขึ้น ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนั้น สินค้าจะต้องมีคุณภาพจริงๆ ถึงจะอยู่ได้ เพราะผู้บริโภคมีการค้นหาข้อมูล และศึกษาผลิตภัณฑ์อย่างจริงจังก่อนพิจารณาซื้อ ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายกี่แห่ง ? พรรษมณฑ์ : ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย 25 แห่งทั่วประเทศ และปีนี้จะขยายตามหัวเมืองเพิ่มอีก 30 แห่ง โดยจุดเด่นของตัวแทนจำหน่าย จะเน้นศูนย์ดูแลรถยนต์ครบวงจร และมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจประเภทนี้ ฟอร์มูลา : จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ? พรรษมณฑ์ : นอกเหนือจากฟีล์มกรองแสง และฟีล์มในอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว บริษัทฯ กำลังจะเปิดไลน์สินค้าใหม่ คือ ฟีล์มสำหรับอาคารที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย SMART FILM เป็นฟีล์มที่เหมาะสำหรับบ้านหรู โรงแรมหรู และห้องประชุม คุณสมบัติพิเศษ คือ เป็นฟีล์มที่สามารถเปลี่ยนกระจกใสเป็นทึบ หรือกระจกทึบเป็นใสภายในพริบตา เฉดสีสวย ปรับสีอ่อนมาเป็นสีเข้มได้ด้วยรีโมท DIMMER หรือสวิทช์เปิด/ปิด และยังมีฟังค์ชันให้เลือกมากมาย สามารถควบคุมด้วยแอพพลิเคชันผ่าน SMARTPHONE ฟอร์มูลา : คุณวางเป้าหมายของ ฟีล์มกรองแสง MIDAS ไว้อย่างไร ? พรรษมณฑ์ : บริษัทฯ ได้ทำตลาด ฟีล์มกรองแสงระดับ HI-END MIDAS มากว่า 2 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยที่ผ่านมาเน้นกลยุทธ์สินค้าคุณภาพ และเทคโนโลยีระดับสูงที่ไม่เหมือนใคร แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด ตั้งเป้าภายใน 2 ปี ขอส่วนแบ่งตลาดฟีล์มกรองแสง 10 % ขยายเพิ่มตามหัวเมืองใหญ่อีก 30 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มไลน์สินค้าฟีล์มกรองแสงอาคาร SMART FILM ปรับความเข้ม/อ่อนด้วย SMARTPHONE