ตลาดรถบิกไบค์ในเมืองไทย กำลังแข่งขันกันดุเดือด “ฟอร์มูลา” สนทนาธุรกิจ ธนบดี กุลทล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทยฟอร์มูลา : ปีนี้ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มีแผนรุกตลาดอย่างไรบ้าง ? ธนบดี : เดือนตุลาคม 2561 ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประกาศปรับราคารถบางรุ่นลง 15-34 % ทำให้ยอดขายของ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เติบโตขึ้น เห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” ที่ผ่่านมา มียอดขายถึง 358 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 140 % เมื่อเทียบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ซึ่งมียอดขาย 149 คัน ปีนี้ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน วางแผนรุกตลาดด้วยการจัดกิจกรรมเริ่มด้วยงาน “FREEDOM ON TOUR” ทดลองขับขี่มอเตอร์ไซค์ทุกตระกูล เมื่อวันที่ 26 มกราคม–17 มีนาคม 2562 โดยได้ยกขบวนมอเตอร์ไซค์ รุ่นปี 2019 ทุกตระกูล ทั้งสปอร์ทสเตอร์ (SPORTSTER) ซอฟเทล (SOFTAIL) และทัวริง (TOURING) มากถึง 14 รุ่น ให้ลูกค้า ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และผู้สนใจทดลองขับขี่ในงานนี้เป็นครั้งแรกในไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กิจกรรมดังกล่าวไม่ได้จัดเฉพาะในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่เรายังได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายจัดงานในหัวเมืองใหญ่ ทั้งเชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี พัทยา หาดใหญ่ และภูเก็ต ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าของ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงผู้ใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม HARLEY-DAVIDSON BATTLE OF THE KING (BOTK) ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เพื่อหาสุดยอดนักคัสตอมรถ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน “การประกวด BATTLE OF THE KING เป็นเวทีให้ผู้จำหน่ายในประเทศ ได้แสดงออกถึงความเชี่ยวชาญในการคัสตอม การออกแบบ และพรสวรรค์ในการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์ของเหล่าผู้จำหน่ายในเครือข่ายตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภค โดยมีอุปกรณ์ตกแต่ง ให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อุปกรณ์และชิ้นส่วนเล็กๆ จนไปถึงชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เพื่อการตกแต่ง หรือคัสตอมมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง” ที่สำคัญ เมื่อปีที่แล้ว ทีม ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน จากกรุงเทพฯ ได้ครองตำแหน่ง GRAND CHAMPIONS ในการประกวดคัสตอมรถมอเตอร์ไซค์นานาชาติ 2018 BATTLE OF THE KING ภายในงาน EICMA BIKES AND MOTORBIKES EXHIBITION 2018 ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดยผลงานชื่อ “THE PRINCE” คัสตอมรถรุ่น สตรีท บอบ (STREET BOB) เพื่อนำเสนอการตีความนิยามมอเตอร์ไซค์ ชอพเพอร์ ในยุค 70s ใหม่ ภายใต้รูปลักษณ์ที่สวยงาม เรียบง่าย และโดดเด่นแบบร่วมสมัย ซึ่งทำให้คว้าชัยชนะครั้งนี้ ฟอร์มูลา : การจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้ประโยชน์อย่างไร ? ธนบดี : กิจกรรมครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ในการกระตุ้นสร้างการเติบโตตามแผนธุรกิจ “MORE ROADS TO HARLEY-DAVIDSON” ตลอดจนการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้จำหน่ายให้เข้มแข็ง เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้มาสัมผัสกับเรามากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างนักขี่มอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รุ่นใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถเข้าถึง และเชื่อมโยงกับกลุ่มแฟนๆ ของบแรนด์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นได้ ผ่านการนำเสนอสินค้า และบริการที่ดีเยี่ยมสู่ลูกค้าโดยตรง ฟอร์มูลา : การปรับราคาส่งผลดีอย่างไร ? ธนบดี : เราได้เห็นว่ามีผู้คนทุกวัยในประเทศไทยที่เลือกขี่มอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และเนื่องจากทั้งตัวนักขี่ และไลฟ์สไตล์ของพวกเขาต่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา บแรนด์และผลิตภัณฑ์มอเตอร์ไซค์ของเราจึงต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ก้าวทันรูปแบบการขับขี่บนท้องถนนในเมือง ซึ่งการปรับราคานับเป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้นักขี่มอเตอร์ไซค์ทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ สามารถครอบครองรถ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ได้ง่ายขึ้น ฟอร์มูลา : ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี เติบโตอย่างมากทั่วโลก แต่ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ไม่มีสินค้ากลุ่มนี้ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มีแผนงานอย่างไร ? ธนบดี : ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน คงต้องดูถึงความต้องการของตลาดก่อนว่าจะเป็นอย่างไร และกลุ่มลูกค้ามีความต้องการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมา ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน จะวิจัย และพัฒนาตามความต้องการของตลาด โดยเฉพาะการปรับสินค้านั้นต้องดูความเหมาะสมหลายด้าน แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายของ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน คือ มีสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาด ในราคาที่เหมาะสม และยังคงเน้นการให้ความสนุกแก่ผู้ขับขี่ ฟอร์มูลา : โรงงานในประเทศไทย ผลิตรถรุ่นใดบ้าง ? ธนบดี : โรงงานผลิต 2 โมเดล คือ สปอร์ทสเตอร์ (SPORTSTER) 5 รุ่น และซอฟ-เทล (SOFTAIL) 9 รุ่น โดยรถที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย ส่งออกไปจำหน่ายในอาเซียน และจีนด้วย ฟอร์มูลา : ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้เท่าไร ? ธนบดี : ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2560 มียอดจดทะเบียน 750 คัน และในปี 2561 มียอดจดทะเบียนกว่า 800 คัน คาดว่าปีนี้ก็จะมียอดขายเติบโตขึ้น ฟอร์มูลา : มีแผนที่จะขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่ ? ธนบดี : ปัจจุบัน ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มีตัวแทนจำหน่าย 9 แห่ง ซึ่งตามแผนงานไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมาก ต้องการแค่มีในจังหวัดหลัก และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มขึ้น เพราะนโยบายของ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้จำหน่ายจะมีความใกล้ชิดกับลูกค้าโดยเน้นการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญตัวแทนจำหน่ายทุกคนจะต้องมีศักยภาพที่เพิ่มขึ้น และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า