สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเอมจีซี-เอเชีย
บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอมจีซี-เอเชีย เดินหน้าเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทอลอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายเครือข่ายบริการ เพื่อเตรียมก้าวสู่ยุคดิจิทอล 5.0 โดยยึดหลักการ “ลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ” ตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ VISION 2020 “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือเอมจีซี-เอเชียฟอร์มูลา : คุณวางแผนนโยบายและทิศทางการดำเนินธุรกิจไว้อย่างไร ? ดร. สัณหวุฒิ : ที่ผ่านมา เอมจีซี-เอเชีย ได้ขยายธุรกิจออกไปในวงกว้าง จนถึงปัจจุบันได้แบ่งธุรกิจออกเป็น 8 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. กลุ่มรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ใหม่ ในนาม โรลล์ส-รอยศ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอค, แอสตัน มาร์ทิน แบงคอค, โมเดน่า มอเตอร์เวอร์คฯ, มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ปฯ (บีเอมดับเบิลยู และมีนี), ซัมมิท ฮอนด้าฯ, บีเอมดับเบิลยู มอเตอร์ราด และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน 2. กลุ่มรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์มือสอง ในนาม บีเอมดับเบิลยู (BMW PREMIUM SELECTION), มีนี (MINI NEXT), ฮอนดา เซอร์ทิฟาย ยูสด์คาร์, มาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสด์คาร์ (มัลทิ-บแรนด์), ซูเพอร์คาร์ และยัวร์ไบค์ 3. กลุ่มธุรกิจรถเช่าระยะสั้น และระยะยาว ในนามบริษัท มาสเตอร์คาร์เร้นเทิล จำกัด และ SIXT เร้นท์อะคาร์ ธุรกิจบริการพนักงานขับรถ ในนามบริษัท มาสเตอร์ ไดรฟเวอร์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด 4. กลุ่มธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เกท ในนามบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (MMS) 5. กลุ่มธุรกิจบโรเคอร์ประกันภัย ในนาม บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ฯ และฮาวเด้น อินชัวรันซ์ โบรคเกอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ภายใต้ไฮพีเรียนอินชัวรันศ์ กรุพ ซึ่งเป็นนายหน้าประกันภัย ที่ใหญ่สุดในโลก (ไม่รวมสหรัฐอเมริกา) ให้บริการด้านประกันภัยแบบครบวงจร 6. กลุ่มธุรกิจให้บริการศูนย์สารสนเทศ ในนาม ไอทเวนทีโฟร์ (I24) และไอเอมเอกซ์ (IMX-INNOVATIVE MOBILITY EXPERIENCE) 7. กลุ่มธุรกิจศูนย์พัฒนา และฝึกอบรมบุคลากร ในนามสถาบัน มาสเตอร์ ออโทโมทีฟ ทเรนิง เซนเตอร์ (MAT-MASTER AUTOMOTIVE TRAINING CENTER) 8. กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ อซิมุท ยอชท์ ไทยแลนด์ ในนามบริษัท เอ็มจีซี-มารีน (เอเชีย) จำกัด ธุรกิจในแต่ละกลุ่ม บริษัทฯ ได้ลงทุน พร้อมวางแผนก้าวไปข้างหน้า โดยปี 2562 เอมจีซี-เอเชีย เดินหน้าเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทอลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวสู่ยุคดิจิทอล 5.0 และการขยายเครือข่ายด้านการบริการ โดยยึดหลักการ “ลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ” ตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ VISION 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ พร้อมบริการครบวงจรในประเทศไทยและอาเซียน ฟอร์มูลา : คุณลงทุนเตรียมความพร้อมไว้อย่างไรกับการเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทอล ? ดร. สัณหวุฒิ : ในช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบจาก DIGITAL DISRUPTION ซึ่ง เอมจีซี-เอเชีย มองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่องค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยเดินหน้าเตรียมความพร้อมให้กับทุกหน่วยธุรกิจในเครือ เพื่อรองรับ DIGITAL TRANSFORM-ATION ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทอล 5.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดย เอมจีซี-เอเชีย ได้นำระบบมาร์เกทิง ออโทเมชัน มาใช้กับฐานลูกค้าของเรากว่า 500,000 ราย รวมถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกว่า 700,000 ราย เพื่อวิเคราะห์ และยกระดับการสื่อสาร พร้อมสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ด้วยการพัฒนาพแลทฟอร์มดิจิทอล เพื่อสร้างบริการแบบใหม่ที่ง่ายและสะดวก เช่น การทำแอพพลิเคชันสำหรับรถเช่า SIXT ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า รวมถึงการริเริ่มทำดิจิทอลโชว์รูมของ ZUPERCAR เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน นอกจากนี้ เราได้เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าของเรา เพื่อยกระดับการบริการที่รวดเร็วและแม่นยำขึ้น ด้วยบริการ “1286 MILLENNIUM AUTO CONNECT” ซึ่งเป็นช่องทางเชื่อมต่อยุคดิจิทอลครบวงจร สำหรับลูกค้า มิลเลนเนียม ออโต้ฯ และในปีนี้จะแนะนำ “1334 HONDA SUMMIT CONNECT” สำหรับลูกค้า ซัมมิท ฮอนด้าฯ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับลูกค้า ทั้งการสอบถามข้อมูลรถใหม่ การนัดเข้ารับบริการ เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ หรือการรับข่าวสารจากบริษัทฯ ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟอร์มูลา : วางแผนการลงทุนด้านโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการรถยนต์ ที่บริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายไว้อย่างไร ? ดร. สัณหวุฒิ : สำหรับรถยนต์กลุ่มอุลทราลักชัวรี ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนั้น เราได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ รวมถึงการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ตัวอย่างที่ผ่านมา โรลล์ส-รอยศ์ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “KING OF CARS” เปิดตัวรุ่น คัลลิแนน ซึ่งเป็น เอสยูวี สุดหรูรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลล์ส-รอยศ์ ขณะที่ แอสตัน มาร์ทิน ก็มี วานเทจ ใหม่ ที่ฉีกรูปลักษณ์แบบเดิมๆ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงยนตรกรรมลักชัวรีสปอร์ทอย่าง มาเซราตี ก็เปิดตัว กีบลี รุ่นปรับโฉม ที่ยังคงเอกลักษณ์ และรายละเอียดสุดประณีต ของรถยนต์อิตาเลียนไว้อย่างครบถ้วน ขณะเดียวกัน อซิมุท ซึ่งเป็นเรือยอชท์สัญชาติอิตาเลียน เผยโฉมเรือรุ่นล่าสุด ฟลายบริดจ์ 66 ที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านยูโร พร้อมกันนี้ ยังเดินหน้าขยายเครือข่าย ขยายฐานลูกค้าสู่ฝั่งธนบุรี ทุ่มงบกว่า 80 ล้านบาท เปิดโชว์รูมมาตรฐานแห่งใหม่พร้อมกัน 6 บแรนด์ที่ไอคอนสยาม แลนด์มาร์คแห่งใหม่ฝั่งธนบุรี ประกอบด้วย โรลล์ส-รอยศ์, มาเซราตี, อซิมุท, บีเอมดับเบิลยู, มีนี และบีเอมดับเบิล-ยู มอเตอร์ราด เพื่อรองรับกระแสการเติบโตของ HNWI (HIGH NET WORTH INDIVIDUAL) ในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นอันดับต้นในเอเชีย ในส่วนธุรกิจนายหน้าประกันภัย แมกซี่ อินชัวรันส์ฯ เอมจีซี-เอเชีย ได้ร่วมกับ ฮาวเด้น อินชัวรันส์ฯ ซึ่งเป็นนายหน้าประกันภัยระดับโลก ภายใต้ชื่อ บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ส่งผลให้เป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยที่มีศักยภาพรอบด้าน จากการรวมจุดเด่นด้านประกันภัยรถยนต์ของ แมกซี่ อินชัวรันส์ฯ เข้ากับชื่อเสียงด้านการให้บริการองค์กรระดับโลกของ ฮาวเด้น อินชัวรันซ์ฯ พร้อมให้บริการด้านธุรกิจประกันภัยที่ตอบโจทย์ของลูกค้า ทั้งในไทย และระดับสากล อีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทฯ ได้ลงทุนขยาย คือ กลุ่มธุรกิจรถเช่าภายใต้ มาสเตอร์ คาร์เรนเทิล และบแรนด์ SIXT ได้มีการขยายเครือข่ายสาขาสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยล่าสุดได้เปิดตัว SIXT สาขาหลวงพระบาง ซึ่งเป็นสาขาที่ 20 ของ SIXT ในอาเซียน โดยปัจจุบันมี 12 สาขาทั่วประเทศไทย 6 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย และ 2 สาขาที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟอร์มูลา : คุณมีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นในระยะสั้น และระยะยาวอย่างไร ? ดร. สัณหวุฒิ : ปี 2562 เอมจีซี-เอเชีย เตรียมแผนขยายการลงทุนทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ โดยเตรียมงบลงทุนเบื้องต้นกว่า 250 ล้านบาท โดย มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ลาดพร้าว มีการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสำหรับ บีเอมดับเบิลยู พรีเมียมซีเลคชัน และบีเอมดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมถึงการขยายศูนย์บริการรูปแบบใหม่ บีเอมดับเบิลยู เซอร์วิศ แฟคทอรี เอาท์เลท (SFO) ที่พระราม 4 และจะเปิด บีเอมดับเบิลยู เซอร์วิศ เอาท์เลท โอนลี (SOO) ที่สุราษฎร์ธานี ขณะที่ เอมเอมเอส โบช คาร์ เซอร์วิศ ปัจจุบันมี 15 สาขา โดยล่าสุดปีที่แล้ว เปิดสาขาใหม่ที่รังสิตและเพชรเกษม และยังเตรียมแผนที่จะขยายเพิ่มขึ้นอีก 8 สาขาในปีนี้ ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าเพราะเหตุใด บริษัทฯ จึงประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน ? ดร. สัณหวุฒิ : ตลอดเวลาที่ผ่านมา เอมจีซี-เอเชีย ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการบริหารองค์กรแบบลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ CUSTOMER CENTRIC โดยการให้ความสำคัญกับลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษผ่านการจัดกิจกรรม การทำงานภายใต้องค์กรที่มีความหลากหลายของธุรกิจ เอื้อประโยชน์ให้แก่ลูกค้า โดยใช้หลัก SYNERGY หรือความร่วมมือกันระหว่างหน่วยธุรกิจต่างๆ เพื่อนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มอบบริการที่เหนือความคาดหมายและสร้างความแตกต่างเชิงบวกให้องค์กร อีกส่วนหนึ่ง เอมจีซี-เอเชีย มีความเชื่อที่ว่าองค์กรจะสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงได้ให้ความสำคัญด้านการเฟ้นหาบุคลากร, วางแผนวางอัตรากำลังคน และฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผ่าน มาสเตอร์ ออโทโมทีฟ ทเรนิง เซนเตอร์ (MAT) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกทักษะเกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลายบริษัทที่มีชื่อเสียง ส่งบุคลากรเข้าอบรม ส่งผลให้ เอมจีซี-เอเชีย สามารถขับเคลื่อนอย่างมืออาชีพ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เอมจีซี-เอเชีย ก็ไม่ได้เน้นถึงการดำเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว ในส่วนของการคืนกำไรให้แก่สังคม เอมจีซี-เอเชีย ได้มีส่วนในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม โดยปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการก่อตั้งมูลนิธิธรรมชวนวิริยะ ที่ได้จัดกิจกรรมต่อเนื่อง ทั้งภายใต้มูลนิธิหรือหน่วยธุรกิจต่างๆ เน้นกิจกรรมเพื่อชุมชนใกล้เคียง เพื่อพัฒนาเยาวชน และสังคมให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ เอมจีซี-เอเชีย ยังเตรียมพร้อมสำหรับปีนี้ที่จะฉลองก้าวสู่ปีที่ 19 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และมีแผนที่จะฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 20 ปีในปีหน้า ฟอร์มูลา : คุณตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้อย่างไร ? ดร. สัณหวุฒิ : ในปี 2561 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมของกลุ่มบริษัทฯ อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท โดยรวมคิดเป็นการเติบโตกว่า 15 % กลุ่มธุรกิจรถใหม่เติบโตขึ้น 20 % และกลุ่มธุรกิจการบริการหลังการขาย เติบโตขึ้น 9 % กลุ่มธุรกิจรถเช่าเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และธุรกิจประกันภัยมีอัตราเติบโตกว่า 30 % ส่วนปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจของกลุ่ม จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15 % หรือมีรายได้ประมาณ 28,000 ล้านบาท โดยกลุ่มรถยนต์ใหม่ ตั้งเป้าจำหน่ายกว่า 13,000 คัน ธุรกิจศูนย์บริการหลังการขาย ตั้งเป้าการบริการไว้กว่า 235,000 คัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ตามแผนงานของธุรกิจในแต่ละกลุ่มและประเภทธุรกิจ สำหรับแผนระยะยาวภายในปี 2020 ตั้งเป้ามีรายได้รวม 50,000 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์อีก 4-5 โครงการ
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2562
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)