รถพลังสูงอีกแบบหนึ่งที่นำเรื่องราวมาบรรจุไว้ใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนนี้ คือ รถสปอร์ทเปิดประทุนติดป้ายชื่อ ลัมโบร์กินี อูรากัน เอโว สไปเดอร์ (LAMBORGHINI HURACAN EVO SPYDER) ซึ่งก็เป็นรถใหม่อีกรุ่นหนึ่งซึ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2019นับเป็นพัฒนาการล่าสุดของรถ ลัมโบร์กินี อูรากัน (LAMBORGHINI HURACAN) ซึ่งเริ่มการจำหน่ายแทนที่รถ ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด (LAMBORGHINI GALLARDO) เมื่อปี 2014 และก็เช่นเดียวกันกับรถ ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ (LAMBORGHINI AVENTADOR SVJ ROADSTER) ที่เพิ่งผ่านตาไป รถโมเดลนี้ไม่ใช่รถใหม่แท้อย่างที่ชอบเรียกกันในเมืองไทยของลุงตู่ว่าใหม่หมด แต่เป็นรถเปิดประทุนที่พัฒนาแตกหน่อต่อกิ่งจากรถคูเปชื่อเดียวกัน คือ รถ ลัมโบร์ กินี อูรากัน เอโว (LAMBORGHINI HURACAN EVO) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อตอนต้นปี และปรากฏตัวใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนเมษายน 2019 เป็นการดัดแปลงพัฒนาที่บอกว่าทำยากก็ได้บอกว่าทำง่ายก็ได้ เพราะจุดหลักมีอยู่เพียงจุดเดียว คือ การเปลี่ยนลักษณะของหลังคา จากหลังคาแข็งติดตาย ซึ่งเป็นรูปลักษณ์มาตรฐานของรถคูเปทุกแบบทุกรุ่น เป็นหลังคาเปิดประทุนแบบอ่อนคุณภาพสูง ที่ค่ายนี้เรียกในภาษาอังกฤษว่า HIGHQUALITY SOFT TOP เป็นประทุนที่เปิด/ปิดด้วยระบบอีเลคทรอ-ไฮดรอลิค (ELECTRO-HYDRAULIC) การเปิด หรือปิดแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 17 วินาที และทำได้เมื่อรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. การเปลี่ยนแปลงหลังคาที่ว่านี้ส่งผลให้ DRY WEIGHT หรือน้ำหนักรถเปล่าเพิ่มขึ้นถึง 120 เป็น 1,542 กก. ส่วนเครื่องยนต์กลไกต่างๆ กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่ายกมาทั้งชุดจากรถคูเป โดยแทบไม่มีการแตะต้องใดๆ นอกจากส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหลังคา กล่าวคือรถเปิดประทุนในตัวถังยาว 4.520 ม. กว้าง 1.933 ม. และสูง 1.180 ม. ซึ่งทำจากอลูมิเนียมคาร์บอนไฟเบอร์ และวัสดุผสมโมเดลนี้ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 10 สูบ 90 องศา ความจุ 5,204 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 470 กิโลวัตต์/640 แรงม้า ที่ 8,000 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร/61.2 กก.-ม. ที่ 6,500 รตน. และส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้า/คู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ซึ่งลักษณะการเปลี่ยนจังหวะเกียร์แปรตามโหมดการขับที่เลือกใช้ผ่านระบบ ANIMA (มีโหมดการขับรวม 3 แบบ คือ STRADA-SPORT-CORSA เช่นกัน) ระบบรองรับทั้งส่วนหน้า/ส่วนหลังเป็นระบบอิสระปีกนก 2 ชั้น ระบบห้ามล้อหน้าใช้จานขนาด 380x38 ห้ามล้อหลังใช้จานขนาด 356x32 มม. ส่วนระบบถุงลมนิรภัยที่ติดตั้ง มีทั้งแบบป้องกันการชนจากด้านหน้า (FRONT AIRBAG) แบบป้องกันการชนด้านข้าง (LATERAL AIRBAG) และแบบป้องกันการชนหัวเข่า (KNEE AIRBAG) ตามตัวเลขของผู้ผลิต รถสปอร์ท เปิดประทุนค่าตัว 202,437 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 7.30 ล้านบาทไทย ซึ่งมีกำหนดการส่งมอบรถแก่ลูกค้ารายแรกในฤดูใบไม้ผลิของปี 2019 นี้ จะใช้เวลาเพียง 3.1 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และจะเพิ่มเป็น 9.3 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้เท่ากับรถคูเปแม้ว่าน้ำหนักตัวมากกว่า คือ 325 กม./ชม.