ซูเพอร์คาร์เปิดประทุนตัวแรงแทนที่ 488 สไปเดอร์ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตรถสปอร์ทเจ้าของเครื่องหมายการค้า “ม้าลำพอง” มีรถสปอร์ทเปิดประทุนให้เลือกเพียง 2 โมเดล คือ แฟร์รารี โปร์โตฟีโน (FERRARI PORTOFINO) กับ แฟร์รารี 488 ปิสตา สไปเดอร์ (FERRARI 488 PISTA SPIDER) โดยที่โมเดลแรกซึ่งมีตัวถังขนาด 4.568x1.938x1.318 ม. ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC วี 8 สูบ 90 องศา 3,855 ซีซี 441 กิโลวัตต์/600 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ และค่าตัวในอิตาลีเริ่มต้นที่ระดับ 196,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 6.66 ล้านบาทไทย ส่วนโมเดลหลังซึ่งมีตัวถังขนาด 4.605x1.975x1.206 ม. ติดตั้งเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC วี 8 สูบ 90 องศา 3,902 ซีซี 529 กิโลวัตต์/720 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ทั้ง 2 โมเดลติดตั้งประทุนหลังคาแบบแข็ง เปิด/ปิดโดยการกดปุ่ม แต่เมื่อตอนต้นเดือนกันยายนของปีหมูทองร้องโอ้กที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้เอง ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทของเมืองมะกะโรนี ได้เสนอทางเลือกใหม่อีก 2 ทางให้แก่คนรักรถเงินล้นกระเป๋าที่อยากเป็นเจ้าของรถเปิดประทุนติดตรา “ม้าลำพอง” โดยการเปิดตัวรถใหม่ 2 โมเดล คือ แฟร์รารี 812 จีทีเอส (FERRARI 812 GTS) รถเปิดประทุนติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง DOHC วี 12 สูบ 65 องศา 6,496 ซีซี 588 กิโล-วัตต์/800 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ที่พัฒนาต่อกิ่งต่อยอดมาอีกทอดหนึ่งจากรถคูเป แฟร์รารี 812 ซูเพอร์ฟาสต์ (FERRARI 812 SUPERFAST) ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 กับ แฟร์รารี เอฟ 8 สไปเดอร์ (FERRARI F8 SPIDER) ที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่ในขณะนี้ เป็นรถที่ค่าย “ม้าลำพอง” เพิ่งบรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนรถรุ่นเดิม คือ แฟร์รารี 488 สไปเดอร์ (FEERARI 488 SPIDER) รถเปิดประทุนซึ่งค่าตัวในเมืองมะกะโรนีเริ่มต้นที่ 254,682 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 8.66 ล้านบาทไทย ไม่ใช่รถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งคัน แต่ก็เหมือนกันกับรถเปิดประทุนแทบทุกรุ่นแทบทุกแบบของค่ายนี้ คือ พัฒนามาอีกทอดหนึ่งจากรถคูเปที่มีอยู่แล้วในสายการผลิต ในกรณีนี้ คือ รถคูเป แฟร์รารี เอฟ 8 ตรีบูโต (FERRARI F8 TRIBUTO) ซึ่งเปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2019 และเริ่มการจำหน่ายโดยติดป้ายราคาเริ่มต้นที่ระดับ 236,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 8.02 ล้านบาทไทย ตัวถังนั่ง 2 คน ซึ่งยาว 4.611 ม. กว้าง 1.979 ม. สูง 1.206 ม. และมีน้ำหนักรถเปล่า 1,400 กก. ติดตั้งประทุนหลังคาแบบแข็ง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า RETRACTABLE HARD TOP หรือ RHT เป็นประทุนขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบเป็น 2 ชิ้น เปิด/ปิดด้วยระบบอีเลคทรอ-ไฮดรอลิค (ELECTRO-HYDRAULIC) และบังคับควบคุมโดยการกดปุ่ม การเปิด หรือปิดประทุนแต่ละครั้งใช้เวลา 14 วินาที และสามารถทำได้เมื่อรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. ห้องเก็บประทุนหลังคาดังกล่าวนี้อยู่เหนือห้องเครื่องยนต์ซึ่งอยู่หลังเก้าอี้ที่นั่ง ส่วนเครื่องยนต์กลไกยกทั้งชุดมาจากรถคูเปซึ่งเป็นที่มา คือ เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซิน ฉีดตรง DOHC วี 8 สูบ 90 องศา 3,902 ซีซี 530 กิโลวัตต์/720 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์ อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 2.9 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 8.2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 340 กม./ชม. ราคาค่าตัวในอิตาลี คาดกันว่าน่าจะสูงกว่ารถคูเป ประมาณ 20,000 ปอนด์ คือ เริ่มต้นที่ระดับ 256,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 8.70 ล้านบาทไทย เมื่อคิดว่าเงินฝรั่ง 1 ยูโร แลกได้ด้วยเงินไทย 34 บาท และไม่มีเงินทอน