ค่าย “ดาวสามแฉก” เป็นผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปที่มี เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทั้งรถขนาดเล็ก รถขนาดใหญ่ ทั้งรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ที่ตัวถังมีโครงสร้างเหมือน รถพิคอัพ และรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างเหมือนเก๋ง รถใหม่เพียงชุดเดียวของค่ายดาวที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นโมเดลหัวกะทิของรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กอนุกรม GLA (จีแอลเอ) ที่เพิ่งเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2020 และแรกเริ่มเดิมทีผู้ผลิตตั้งใจจะนำรถออกอวดตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยาน ยนต์เจนีวาครั้งที่ 90 ซึ่งกำหนดจัดตอนต้นเดือนมีนาคม แต่งานใหญ่ดังกล่าวต้องล้มเลิกไปเพราะพิษไวรัสตัวเล็กๆ สิ่งที่ตั้งใจไว้จึงไม่ได้ทำรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กอนุกรม GLA รุ่นปัจจุบัน เป็นรถรุ่นที่ 2 เพิ่งเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2019 และขณะนี้เริ่มการจำหน่ายในเยอรมนี และอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปไปแล้ว ตัวถังทรง 2 กล่องที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด วัดความยาวได้ 4.410 ม. กว้าง 1.834 ม. และสูง 1.611 ม. ในเมืองแม่มีรถซึ่งติดป้ายยี่ห้อ MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) รวม 8 โมเดล เป็นรถเบนซิน 3 โมเดล คือ MERCEDES-BENZ GLA 200 (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200)/MERCEDES-BENZ GLA 250 (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 250)/MERCEDES-BENZ GLA 250 4MATIC (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 250 4 เมทิค) เป็นรถดีเซล 5 โมเดล คือ MERCEDES-BENZ GLA 180 D (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 180 ดี)/MERCEDES-BENZ GLA 200 D (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 ดี)/MERCEDES-BENZ AMG 200 D 4MATIC (เมร์เซเดส-เอเอมจี 200 ดี 4 เมทิค)/MERCEDES-BENZ AMG 220 D (เมร์เซเดส-เอเอมจี 220 ดี)/MERCEDES-BENZ GLA 220 D 4MATIC (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 220 ดี 4 เมทิค) กับเป็นรถติดป้ายยี่ห้อ MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) 1 โมเดล คือ MERCEDES-AMG GLA 35 4MATIC (เมร์เซเดส-เอเอมจี จีแอลเอ 35 4 เมทิค) รถโมเดลหัวกะทิ ซึ่งจนกระทั่งตอนปลายเดือนพฤษภาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ ก็ยังไม่ประกาศราคาค่าตัวและเริ่มการจำหน่าย เป็นผลงานรังสรรค์ของ AMG (เอเอมจี) ซึ่งเป็นหน่วยงานย่อยที่รับผิดชอบการออกแบบ/พัฒนารถแรง รถเร็ว ของค่าย “ดาวสามแฉก” และกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กที่แรงที่สุด และเร็วที่สุดขณะนี้ ตัวถังทั้งภายนอก และภายในปรับเปลี่ยนจากรถรุ่นสามัญหลายจุดเพื่อให้เกิดความรู้สึกในพละกำลัง ตัวอย่างเช่น การตีโป่งเป็นรูปโดมบนฝา กระโปรงหน้า การเพิ่มแถบคลุมล้อสีเข้ม และแผงดักลมส่วนหน้าที่ดูสะดุดตามาก ยังมีการปรับปรุงส่วนอื่นๆ อีกหลายส่วนที่มองไม่เห็นจากภายนอก คือ ระบบรองรับ (กันสะเทือน) กับระบบบังคับเลี้ยวที่สนองตอบได้ฉับไวขึ้นและแม่นยำขึ้น อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่เป็นหัวใจอยู่ที่เครื่องยนต์ มีรถให้เลือก 2 โมเดลย่อย คือ MERCEDES-AMG GLA 45 4MATIC+ (เมร์เซเดส-เอเอมจี จีแอลเอ 45 4 เมทิค พลัส) กับ MERCEDES-AMG GLA 45 S 4MATIC+ (เมร์เซเดส-เอเอมจี จีแอลเอ 45 เอส 4 เมทิค พลัส) ทั้งคู่เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกันและระบบเกียร์ชุดเดียวกัน คือเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT DCT 8G กับเครื่องทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,991 ซีซี ที่ค่ายนี้ยืนยันว่าเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่ทรงพลังที่สุดในโลกขณะนี้ จุดแตกต่างจุดสำคัญอยู่ที่ว่า ในรถโมเดลแรกเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 285 กิโลวัตต์/387 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. ส่วนในรถโมเดลหลังมีการปรับแต่งเป็นพิเศษจนกำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 310 กิโลวัตต์/421 แรงม้า ที่ 6,750 รตน. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขผู้ผลิต รถโมเดลหัวกะทิ MERCEDES-AMG GLA 45 S 4MATIC+ (เมร์เซเดส-เอเอมจี จีแอลเอ 45 เอส 4 เมทิค พลัส) ใช้เวลาเพียง 4.3 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 270 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.2-9.3 ลิตร/100 กม. หรือ 10.8-10.9 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 210-212 กรัม/กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน NEDC