เจ้าของเครื่องหมายการค้า “จ่าโท” เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสที่ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายรถยนต์ต่อเนื่องกันมา ยาวนานกว่า 1 ศตวรรษ รวมทั้งทำรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ให้ผู้คนได้ขับได้ขี่มาแล้วมากมายหลายรุ่น ตัวอย่างของรถพลังไฟฟ้าที่มีขายในขณะนี้ก็คือ CITROEN AMI (ซีตรอง เอมี) CITROEN C-ZERO (ซีตรอง เซ-เซโร) และ CITROEN E-MEHARI (ซีตรอง อี-เมฮารี) ที่น่าประหลาดใจ คือ ค่ายนี้กลับไม่เคยทำรถไฮบริดชนิดที่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรีมาก่อนเลย จนกระทั่งที่งานมหกรรมยานยนต์บรัสเซลส์ครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นในนครหลวงของเบลเยียมระหว่างวันที่ 9-19 มกราคม 2020 เมื่อมีการปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ของ CITROEN SUV C5 AIRCROSS HYBRID (ซีตรอง เอสยูวี เซ 5 แอร์ครอสส์ ไฮบริด) ซึ่งกล่าวได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวใครโต้แย้งว่า เป็นรถไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบบแรกในประวัติศาสตร์อันยาวนานของค่าย “จ่าโท”CITROEN SUV C5 AIRCROSS (ซีตรอง เอสยูวี เซ 5 แอร์ครอสส์) เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดซึ่งเปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนเมษายน 2017 และเริ่มการจำหน่ายในเมืองแม่ คือ ฝรั่งเศสในปีถัดมา ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนของปีหนูทองหมองเศร้า ในฝรั่งเศสค่าตัวของรถเล็กอนุกรมนี้เริ่มต้นที่ระดับ 25,700 ยูโร หรือประมาณ 900,000 บาทไทย มีตัวถังเพียงแบบเดียว เป็นตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 4.500 ม. กว้าง 1.840 ม. และสูง 1.654-1.689 ม. ห้องโดยสารติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว นั่งได้รวม 5 คน มีแต่รถขับเคลื่อนล้อหน้า และมีเครื่องยนต์ 4 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 3 สูบเรียง 1,199 ซีซี 96 กิโลวัตต์/131 แรงม้า เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 133 กิโลวัตต์/181 แรงม้า เครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,499 ซีซี 96 กิโลวัตต์/131 แรงม้า และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,997 ซีซี 130 กิโลวัตต์/178 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่วนรถโมเดลล่าสุดซึ่งเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ค่าย “จ่าโท” นี้ ติดตั้งระบบขับล้อหน้า ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน ฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 133 กิโลวัตต์/181 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 81 กิโลวัตต์/110 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ได้กำลังสุทธิสูงสุด 165 กิโลวัตต์/225 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 1.4 ลิตร/100 กม. หรือ 71.4 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 32 กรัม/กม. ส่วนอุปกรณ์ป้อนพลังไฟ คือ แบทเตอรีลิเธียม-ไอออนขนาด 13.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลา 7 ชั่วโมง ในการชาร์จไฟเต็มเมื่อใช้ไฟบ้าน 11 แอมพ์ หรือ 4 ชั่วโมงเมื่อใช้ ไฟบ้าน 14 แอมพ์ และจะใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเมื่อใช้อุปกรณ์ที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า WALL BOX ซึ่งใช้ไฟ 32 แอมพ์ 7.4 กิโลวัตต์ การชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกล 55 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP และความเร็วสูงสุดจะจำกัดไว้ที่ 135 กม./ชม. รถที่มีอุปกรณ์ช่วยขับนับได้รวม 20 รายการ เป็นรถผลิตในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่ในเมือง RENNES (เรนเนส) แบ่งการตกแต่ง/ติดตั้งอุปกรณ์เป็น 4 ระดับ กำกับด้วยรหัส HYBRID FEEL-HYBRID SHINE PACK-HYBRID BUSINESS-HYBRID BUSINESS+ ค่าตัวรวมภาษีเริ่มต้นที่ 39,950 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 1.40 ล้านบาทไทย หากไม่ต้องการซื้อก็สามารถใช้วิธีเช่ายาว 48 เดือน หรือระยะการใช้งาน 40,000 กม. โดยจ่ายค่าเช่างวดแรกเป็นเงิน 7,585 ยูโร หรือประมาณ 265,000 บาทไทย หลังจากนั้นก็จ่ายอีกเดือนละ 309 ยูโร หรือประมาณ 10,800 บาทไทย ในฝรั่งเศสเริ่มรับใบสั่งจองแล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ก่อนเกิดการระบาดของไวรัส และตอนนั้นบอกว่าจะเริ่มการส่งมอบรถเมื่อจบครึ่งแรกของปี ไม่ทราบว่าทำได้หรือไม่ ?