ฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด

“ฟอร์มูลา” สนทนาธุรกิจ ฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด

ฟอร์มูลา : KIA CARNIVAL (เกีย คาร์นิวัล) ใหม่ มีจุดเด่นอะไร ?   ฬสนันท์ : นับตั้งแต่ปี 2560 ที่เข้ามาดูแลการตลาดรถยนต์ KIA (เกีย) ในประเทศไทย พบว่ารถยนต์ KIA CARNIVAL เป็นรถในตลาดที่มีความต้องการสูงมาก มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เห็นชัดเจนที่สุด คือ ในปี 2562 มียอดขายถึง 1,600 คัน ล่าสุด บริษัทฯ ได้แนะนำรถยนต์ KIA CARNIVAL รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด คาดว่า รถรุ่นนี้จะได้รับความนิยมสูงเช่นกัน จึงทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2564 ไว้ที่ 1,800 คัน เทียบกับปี 2563 ที่มียอดขาย 1,300 คัน   สำหรับ KIA CARNIVAL ใหม่ เจเนอเรชันที่ 4 เปิดตัวในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” หรือ MOTOR EXPO 2020 นับเป็นประเทศแรกในโลก หลังจากการเปิดตัวที่สำนักงานใหญ่ ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แนวคิด “FOR MORE HAPPINESS: ความสุขที่มากกว่า” ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซจ์นใหม่รอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางตามแบบฉบับของ KIA CARNIVAL และพิเศษสุดกับเทคโนโลยีการขับขี่ และความปลอดภัยอัจฉริยะ DRIVE WISE ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และอบอุ่นใจในทุกการเดินทางมากยิ่งขึ้น ทำให้ KIA CARNIVAL ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม-เอมพีวี ที่โดดเด่นที่สุดในเซกเมนท์   KIA CARNIVAL ใช้เครื่องยนต์ใหม่ สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รตน. ดีไซจ์นภายนอกใหม่ ทันสมัย และโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้า TIGER-NOSE ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับไฟหน้าแบบ LED และ DAYTIME RUNNING LIGHT พร้อมทั้งไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ไฟท้าย ไฟตัดหมอกหลัง รวมถึงล้ออัลลอยใหม่แบบ MACHINE FINISHED ขนาด 18 นิ้ว   ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ดีไซจ์นทันสมัย เบาะหนังสีน้ำตาล SADDLE BROWN ตัดขอบสีดำ ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ และรองรับครอบครัวใหญ่ได้ถึง 11 ที่นั่ง เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถพับได้เรียบสนิท เพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระ   ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าเพราะเหตุใด KIA CARNIVAL จึงได้รับความนิยมอย่างมาก ?   ฬสนันท์ : KIA CARNIVAL เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม-เอมพีวี ยอดนิยมที่มีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเจเนอเรชันที่ 3 ที่จำหน่ายในไทยมาตั้งแต่ปี 2558 มียอดขายสะสมโดยรวมกว่า 5,000 คัน   KIA CARNIVAL เป็นรถครอบครัวที่ในตลาดมีรถเซกเมนท์นี้เพียงไม่กี่รุ่น นอกจากนี้ยังมีขนาดของตัวรถไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถตอบสนองการขับขี่ได้หลายรูปแบบ ทั้งส่วนตัว และครอบครัว โดยก่อนหน้านี้ KIA ยังไม่มีสินค้าให้เลือกมากนัก แต่หลังจากที่เน้นการทำตลาด KIA CARNIVAL มากขึ้น และรถสามารถตอบโจทย์ได้ ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น   ฟอร์มูลา : การแข่งขันในตลาดรถครอบครัวเป็นอย่างไร ?   ฬสนันท์ : รถครอบครัวไม่ได้แข่งขันกันรุนแรงเหมือนรถซีดาน หรืออีโคคาร์ จากการตอบรับของลูกค้าที่ให้ความสนใจรถครอบครัวมากขึ้น รวมถึงมีรุ่นใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการแข่งขันมากขึ้นทุกปี ซึ่งเราก็พยายามเต็มที่ให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีจากบแรนด์ KIA และมั่นใจว่า CARNIVAL จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะก่อนหน้าที่จะแนะนำ บริษัทฯ ได้ศึกษาถึงความต้องการของตลาด โดยเสนอสิ่งที่คุ้มค่า ตอบสนองอรรถประโยชน์ที่หลากหลาย พร้อมเพิ่มออพชันต่างๆ เชื่อว่าด้วยจุดเด่นของออพชันที่เลือกมาจะทำให้ KIA CARNIVAL แข่งขันกับรถในกลุ่มเดียวกันได้   ฟอร์มูลา : คุณวางกลยุทธ์การรุกตลาดรถยนต์ KIA ไว้อย่างไร ?   ฬสนันท์ : KIA จะเน้นการรุกตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสและรับรู้ความพิเศษของบแรนด์ KIA นอกจากนี้ ยังจะขยายการบริการหลังการขาย พร้อมเครือข่ายให้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีอยู่ 20 แห่ง ปีนี้จะเพิ่มเป็น 23 แห่ง รวมถึงการขยายไปในจังหวัดต่างๆ ที่ยังไม่มีโชว์รูม และศูนย์บริการ เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาแอพพลิเคชัน ไลน์ KIA ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งแอพพลิเคชันนี้จะช่วยขยายบริการแบบออนไลน์ให้สะดวก และรวดเร็ว มากยิ่งขึ้น   ฟอร์มูลา : ปัจจุบัน KIA มีรถรุ่นใด จำหน่ายในประเทศไทยบ้าง ?   ฬสนันท์ : มีอยู่ 3 รุ่น คือ KIA CARNIVAL ใหม่ แต่จะมีจำหน่ายเฉพาะรุ่นกลางจนถึงรุ่นทอพ จึงมี KIA CARNIVAL โฉมเก่า รุ่น LX (แอลเอกซ์) จำหน่ายอยู่ด้วย โดยเป็นรถที่ประกอบในฐานผลิตอาเซียน ราคาจึงต่ำกว่ารุ่นใหม่ แต่ไม่มีออพชัน เหมือนกับรุ่นใหม่ อีกรุ่นเป็น KIA SOUL (เกีย โซล) รถ EV (อีวี) 100 % และรถบรรทุก KIA 2500 (เกีย 2500)   ฟอร์มูลา : ปีนี้จะแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอีกหรือไม่ ?   ฬสนันท์ : การนำเสนอรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดของรถยนต์ KIA จะติดปัญหาเรื่องภาษี ทำให้ราคาแข่งขันไม่ได้ จึงยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะนำรถรุ่นใหม่เข้ามา แต่ปัจจุบัน นอกจากตัว KIA CARNIVAL แล้ว บริษัทฯ ยังมี KIA SOUL ที่เป็นรถไฟฟ้า 100 % โดยลูกค้าสามารถสั่งจองได้ ซึ่งหากมีการสนับสนุนเรื่องโครงสร้างภาษี KIA มีความพร้อมจะนำรถไฟฟ้ามาจำหน่าย   ฟอร์มูลา : คุณมองว่าการบริการ และการตลาด KIA จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนใดอีกหรือไม่ ?   ฬสนันท์ : โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทุก บแรนด์ต้องเตรียมพร้อมปรับตัวรับกับโลกใหม่ที่เป็นโลกดิจิทอล สำหรับ KIA มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว เราไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง พัฒนาองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้แทนจำหน่ายเครือข่ายให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีความพึงพอใจสูงสุด   ฟอร์มูลา : คุณคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้จะเป็นอย่างไร ?   ฬสนันท์ : ปีนี้คาดว่าการแข่งขันจะสนุกกว่าปีที่แล้ว เพราะมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบแรนด์ใหม่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าทุกบริษัทมีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ไว้แล้ว   จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโต เพราะขณะนี้คนไม่กล้าเดินทางด้วยรถสาธารณะ อีกส่วนหนึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคมองว่ารถยนต์เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน คนไทยชอบรถยนต์ และศึกษาหาความรู้เรื่องรถยนต์จากต่างประเทศมากขึ้น จึงคาดหวังกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในฐานะผู้ผลิต เจ้าของบแรนด์ จำเป็นที่จะต้องศึกษาพัฒนาบแรนด์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทิศทางที่เปลี่ยนไปจึงจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี และความพร้อมในการเสริมสิ่งใหม่เข้าตลาด เช่น รถไฟฟ้า แต่ก็คงต้องรอความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งต้องช่วยกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่จะเป็นตัวแปรสำคัญเรื่องการสนับสนุน ส่งเสริม ให้ทุกหน่วยงานมีความพร้อม เหมือนกับในต่างประเทศ ที่มีการส่งเสริมเรื่องภาษี และการสร้างสถานีชาร์จ รองรับ ทำให้รถไฟฟ้าในต่างประเทศเกิดได้เร็ว   สำหรับ KIA จะเร่งการส่งมอบรถ KIA CARNIVAL ใหม่ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงเดือนมีนาคม เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการใช้รถในเดือนเมษายน เพื่อท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ เพราะยังไม่มั่นใจในเรื่องการเดินทางโดยเครื่องบิน รวมไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้   ฟอร์มูลา : คุณวางเป้าหมายของ KIA ไว้อย่างไร ?   ฬสนันท์ : อยากสร้างองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง รวมถึงขยายตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมกับความต้องการของตลาด เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกดีกับบแรนด์ และพึงพอใจสูงสุด เมื่อได้สัมผัสรถยนต์ KIA และหากมีโอกาสก็อยากแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเมืองไทย