CHEVROLET BOLT EV (เชฟโรเลต์ โบลท์ อีวี) คือ รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ แบบแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1 ศตวรรษของค่าย CHEVROLET (เชฟโรเลต์) หากไม่นับรถ CHEVROLET SPARK EV (เชฟโรเลต์ สปาร์ค อีวี) รถพลังไฟฟ้าที่ผลิตในเกาหลีใต้โดยบริษัท GM KOREA ก่อนการปรากฏตัวของรถแบบนี้ ค่าย CHEVROLET ในสหรัฐอเมริกาเคยทำรถเก๋งแฮทช์แบคที่ติดป้ายว่าเป็นรถพลังไฟฟ้ามาแล้ว 1 แบบ คือ รถ CHEVROLET VOLT (เชฟโรเลต์ โวลท์) ซึ่งอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 2010-2019 แต่นั่นเป็นรถพลังไฟฟ้าอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า E-REV หรือ EXTENDED-RANGE ELECTRIC CAR คือ นอกจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งเป็นตัวขับล้อแล้ว ยังมีการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวปั่นไฟเข้าสู่แบทเตอรีเพื่อยืดระยะการเดินทางไว้ด้วย
CHEVROLET BOLT EV ไม่ใช่รถสายพันธุ์อเมริกันที่ออกแบบ และพัฒนาในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่การพัฒนารถแบบนี้เริ่มต้นโดยบริษัท GM KOREA ในเกาหลีใต้เมื่อปี 2012 โดยทีมงานจำนวน 180 คน ประมาณ 3 ปีหลังจากนั้น คือ ที่งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์เมื่อเดือนมกราคม 2015 รถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถพลังไฟฟ้าแบบนี้ก็ได้ฤกษ์อวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก และไม่นานหลังจากนั้น คือ ในเดือนสิงหาคม 2016 การผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรีซึ่งกระทำที่โรงงานของค่าย LG ในเมืองโสมขาวก็เริ่มนับหนึ่ง ส่วนการประกอบรถเป็นคันหลังจากนั้น กระทำที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง ORION TOWNSHIP ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐอเมริกา
รถที่เริ่มการจำหน่ายก่อนสิ้นปี 2016 ในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2017 มีลักษณะเป็นรถเก๋ง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ตัวถังยาว 4.166 ม. กว้าง 1.765 ม. สูง 1.594 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.308 ติดตั้งระบบขับล้อหน้าซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/200 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับเกียร์จังหวะเดียว และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 60.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งหนัก 440 กก. นับเป็นรถพลังไฟฟ้าที่เร็วพอใช้ได้ทั้งตีนต้นตีนปลาย อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ใช้เวลาไม่ถึง 7.0 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 145 กม./ชม. ส่วนระยะทางที่วิ่งได้เมื่อชาร์จไฟเต็ม คือ ประมาณ 380 กม. ในยุโรปรถแบบนี้เปลี่ยนยี่ห้อ และชื่อรุ่นเป็น OPEL AMPERA E (โอเพล อัมเพรา อี)
หลังจากอยู่ในตลาดประมาณ 3 ปี และขายในสหรัฐอเมริกาไปแล้วประมาณ 60,000 คัน ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรถรุ่นปีโมเดล 2020 คือ การปรับปรุงทางเคมีซึ่งทำให้ขนาดความจุของแบทเตอรี เพิ่มจาก 60.0 เป็น 65.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งผลให้รถวิ่งได้ไกลขึ้นประมาณ 34 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน EPA (ENVIRONMENTAL PROTECTION AGENCY) หรือองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของเมืองมะกัน
ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นพัฒนาการท้ายสุดแต่อาจจะยังไม่สุดท้ายของรถพลังไฟฟ้า CHEVROLET BOLT EV ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2021 ในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2022 พร้อมกันกับรถอีกแบบ คือ CHEVROLET BOLT EUV (เชฟโรเลต์ โบลท์ อียูวี) ที่กำลังจะนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในลำดับถัดไป รถรุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในหลายๆ จุด และส่วนใหญ่เป็นการปรับเปลี่ยนที่กระทำกับตัวถังทั้งภายนอกภายใน ตัวอย่าง คือ แผงกระจังหน้า ดวงโคมไฟหน้า และดวงโคมไฟท้าย ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ส่วนระบบขับยังคงเดิม คือ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 150 กิโลวัตต์/200 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน 65.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน EPA รถจะวิ่งได้ไกล 416 กม. เป็นแบทเตอรีที่รับประกันการใช้งาน 8 ปี หรือระยะทาง 160,000 กม.
มีกำหนดออกโชว์รูมในฤดูร้อนปีนี้ (ประมาณไตรมาส 3) ค่าตัวซึ่งยังไม่รวมภาษี และหักเงินสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 31,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.06 ล้านบาทไทย
CHEVROLET BOLT EV

