“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้อำนวยการ MINI ประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบทั้งการบริหารบแรนด์ การขาย และการตลาด จนประสบความสำเร็จ โดยอาศัยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญจากการเป็นส่วนหนึ่งของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มานานกว่า 13 ปีฟอร์มูลา : MINI ประเทศไทย วางนโยบาย และแผนการตลาดสำหรับรถยนต์ MINI (มีนี) ไว้อย่างไร ? ประภัสรา : BMW GROUP (บีเอมดับเบิลยู กรุพ) ทั่วโลก กำหนดวิสัยทัศน์ว่าในปี 2025 จะผลิตรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงรุ่นสุดท้าย และในปี 2030 จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด โดยที่ผ่านมาได้มีการวางพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง และถือว่าเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับประเทศไทยที่ประกาศว่าในปี 2035 จะใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 100 % ขณะนี้ สิ่งที่ BMW GROUP เตรียมพร้อมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในส่วนต่างๆ รวมถึงการลงทุนด้านสถานีชาร์จ โดย MINI ได้นำยานยนต์ไฟฟ้า 100 % เข้ามาทำตลาดแล้ว 1 รุ่น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ส่วนรุ่นใหม่คงต้องรอความพร้อมอีกระยะ แผนระยะสั้น MINI ยังคงพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด MINI ได้ปรับโฉมรถยนต์ครบทุกรุ่น และในระหว่างนี้จนถึงปีหน้า รถรุ่นใหม่ของ MINI จะเน้นความเป็น LIMITED EDITION เพราะกลุ่มลูกค้าของ MINI ส่วนใหญ่จะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ชอบเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และสนุกกับการตกแต่ง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ MINI ฟอร์มูลา : ปัจจุบัน MINI มีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาไปในทิศทางใด ? ประภัสรา : MINI มีการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย กลุ่มลูกค้าที่ขยายเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบัน MINI เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแข็งแรง โดยเมื่อปีที่แล้ว MINI มียอดขาย 1,184 คัน ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ หดตัวลงถึง 20 % แต่ MINI ติดลบเพียง 2 % เท่านั้น ถือว่า MINI ผ่านวิกฤตมาได้อย่างเข้มแข็ง สำหรับครึ่งปีนี้ MINI มียอดขายกว่า 500 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 40 % เป็นเพราะ MINI พยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หลากหลาย และบางรุ่นก็จัดแคมเปญพิเศษ ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ MINI มีการวางแผนล่วงหน้าไว้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะได้รับผล กระทบจากวิกฤต COVID-19 รวมถึงต้องปรับตัวตลอดเวลา แต่ MINI สามารถเตรียมสินค้าไว้ซัพพอร์ทได้ตามความต้องการของลูกค้า อีกส่วนหนึ่ง ลูกค้า MINI ไม่ค่อยกังวลเรื่องการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการปรับโฉม เพราะลูกค้าสามารถนำรถไปตกแต่งตามสไตล์ของตัวเอง ไม่ตกรุ่น ทำให้ MINI แข็งแกร่ง ลูกค้าไม่ได้ซื้อรถ MINI ตามกระแส หรือแฟชัน แต่ลูกค้าซื้อ MINI ด้วยดีไซจ์น เพราะไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหนของ MINI จะมีเอกลักษณ์ และความเป็น MINI ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด ปัจจุบัน MINI จึงได้รับการตอบรับมากขึ้น ? ประภัสรา : MINI พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยมีรถสำหรับครอบครัวเพิ่มเติมเข้ามา ทั้ง CLUBMAN (คลับแมน) และ COUNTRYMAN (คันทรีแมน) เป็นการขยายฐานลูกค้า อีกส่วนหนึ่ง คือ ลูกค้า MINI มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบทำกิจกรรม พอมีรถยนต์ที่ตอบโจทย์ ที่สร้างอรรถประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ก็ขยายกลุ่มสู่วัยผู้ใหญ่ที่อยากสนุกกับชีวิต ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการกี่แห่ง และจะขยายเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ? ประภัสรา : MINI มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 11 แห่ง เออร์เบิน สโตร์ ในห้างสรรพสินค้า อีก 2 แห่ง และศูนย์บริการอย่างเดียวอีก 2 แห่ง ซึ่งในปัจจุบันถือว่าเพียงพอกับความต้องการแล้ว จึงยังไม่มีแผนจะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่ม ฟอร์มูลา : อะไร คือจุดที่ MINI ต้องเร่งพัฒนา ? ประภัสรา : สิ่งที่ MINI ต้องเร่งพัฒนา คือ การปรับปรุงตัวเองให้ก้าวทันลูกค้า และโลก สิ่งที่ BMW GROUP เน้นวางรากฐานสู่พลังงานไฟฟ้า 100 % ถือเป็นวิชันที่สำคัญที่ต้องเร่งปรับตัว อีกส่วนหนึ่ง คือ การเข้าสู่โลกดิจิทอล ซึ่งที่ผ่านมา MINI ได้มีการปรับไปบ้างแล้ว เช่น การขายรถผ่านระบบออนไลน์ เราต้องเชื่อมต่อกับลูกค้าให้ได้ ตั้งแต่การดูรถ จนจบการขาย MINI จะนำระบบดิจิทอลเข้ามาใช้มากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การขายเท่านั้น แต่จะนำมาเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ ซึ่งปัจจุบัน MINI มีแอพพลิเคชัน เข้ามาเชื่อมต่อลูกค้า และการบริการ เช่น การนัดเวลาเพื่อเข้ารับบริการ ตั้งเวลาชาร์จไฟฟ้า เปิด/ปิดแอร์ ส่งพิกัดจอดรถ ใช้แผนที่หาสถานีบริการน้ำมัน หาดีเลอร์ บริการฉุกเฉิน 24 ชม. ซึ่งจะไม่จบเพียงเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาฟังค์ชันพิเศษมากขึ้น ด้านผลิตภัณฑ์ ต้องพัฒนาดีไซจ์น เทคโนโลยี โดยเน้นที่อัตราเร่ง แรงม้า ความสนุก ปราดเปรียวที่เป็นแบบฉบับของ MINI มากกว่าที่จะนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ เพราะลูกค้าต้องการความสนุกมากกว่า แม้ MINI ที่เป็นยานยนต์ไฟฟ้าก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ถึงความสนุก ปราดเปรียว นอกจากนี้ ยังต้องพยายามสร้างสังคม MINI จากการทำกิจกรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างคอมมูนิทีของเรา ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ? ประภัสรา : คิดว่าประเทศไทยคงจะต้องเป็นไปตามแนวโน้มของโลก จะมาเร็ว หรือช้า ต้องดูที่ความพร้อมหลายด้าน ในต่างประเทศ เมื่อรัฐบาลประกาศความพร้อม และมีนโยบายที่ชัดเจน ก็สามารถดำเนินการได้ สำหรับ BMW GROUP ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องปรับ MINI ก็สามารถดำเนินงานตามนโยบายของภาครัฐได้ทันที