เดือนนี้หวนกลับมาถึงคิวของ เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งอีกครั้ง เป็นรถ 3 สัญชาติ คือ รถอังกฤษ รถอเมริกัน และรถญี่ปุ่น เป็นผลงานของผู้ผลิตรถยนต์ 5 ราย คือ LAND ROVER-JEEP-INFINITI-LEXUS-TOYOTA มีทั้งรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างแบบ BODY-ON-FRAME เหมือนรถพิคอัพ และรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างแบบ UNIBODY หรือ UNIT BODY เหมือนรถเก๋ง เริ่มกันที่ผลงานใหม่เอี่ยมยังไม่มีกลิ่นไอเสียของผู้ผลิตรถยนต์เมืองผู้ดี คือ LAND ROVER RANGE ROVER (แลนด์ โรเวอร์ เรนจ์ โรเวอร์)ตามข้อมูลในสารานุกรมออนไลน์ WIKIPEDIA (วิกิพีเดีย) ค่าย LAND ROVER (แลนด์ โรเวอร์) ซึ่งทำเป็นแต่รถกิจกรรมกลางแจ้ง รถประเภทอื่นทำไม่เป็น หรือทำเป็นแต่ไม่ยอมทำ เริ่มบรรจุรถติดป้ายชื่อ RANGE ROVER เข้าสู่สายการผลิตซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง SOLIHULL (โซลิฮูลล์) ในภาคกลางของเกาะอังกฤษเมื่อปี 1969 อันเป็นยุคที่ค่ายนี้ยังมีฐานะเป็นบริษัทเอกเทศ ไม่ได้รวมกิจการเป็น JAGUAR LAND ROVER ดังที่เป็นอยู่ขณะนี้ รถรุ่นดังกล่าวเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างแบบ BODY-ON-FRAME เหมือนรถพิคอัพ ในช่วงเวลา 12 ปีแรกที่อยู่ในตลาด รถรุ่นแรกนี้มีแต่ตัวถัง 3 ประตู 5 ที่นั่ง จนกระทั่งปี 1981 จึงมีตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่ง รถรุ่นแรกอยู่ในสายการผลิตยาวนานถึง 25 ปี จึงถูกแทนที่ด้วยรถรุ่นที่ 2 (รหัสโรงงาน P38A) ซึ่งตัวถังยังมีโครงสร้างแบบเดิมในปี 1994 และตามมาด้วยรถรุ่นที่ 3 (รหัสโรงงาน L322) ซึ่งตัวถังเปลี่ยนโครงสร้างเป็น UNIBODY เหมือนรถเก๋ง ในปี 2001 ทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นผลงานในยุคที่เจ้าของกิจการ คือ BMW แห่งเยอรมนี รถรุ่นที่ 4 (รหัสโรงงาน L405) ซึ่งปรากฏตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก”ที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีสเมื่อเดือนกันยายน 2012 ตัวถังก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน คือ เปลี่ยนวัสดุในการทำโครงสร้างตัวถังจากเหล็กกล้าเป็นอลูมิเนียม ส่วนรถรุ่นล่าสุด (รหัสโรงงาน L460) ซึ่งนับนิ้วได้ว่าเป็นรถรุ่นที่ 5 นี้ เพิ่งปรากฏตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” เมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2021 ในงานเปิดตัวซึ่งกระทำที่ ROYAL OPERA HOUSE อันเลื่องชื่อลือชาของกรุงลอนดอน โดยมีผู้นำและบุคคลสำคัญในวงการศิลปะวัฒนธรรม วงการธุรกิจ และวงการกีฬา ร่วมอยู่ในงานด้วย พร้อมกับการเปิดตัว คือ การเปิดรับการสั่งจอง พร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะเริ่มการส่งมอบรถในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในอังกฤษเริ่มต้นที่ 93,000 ปอนด์ หรือประมาณ 4.19 ล้านบาทไทย เป็นรถที่นิตยสารรถยนต์ชื่อดังของเมืองผู้ดี คือ AUTOCAR (ออโทคาร์) บรรยายสรรพคุณเป็นภาษาอังกฤษว่า HAS BEEN COMPLETELY REDESIGNED, UPDATED AND UPGRADED IN ALL RESPECTS หรือเป็นรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด รวมทั้งทำให้ทันยุคทันสมัย และยกระดับในทุกด้าน และบอกด้วยว่าเป็นผลลัพธ์ของการทำงานที่ใช้เวลายาวนานถึง 5 ปี และพโรแกรมการทดสอบ 7 ล้านชั่วโมง เช่นเดียวกับรถรุ่นเดิม รถรุ่นใหม่นี้มีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ตัวถังซึ่งเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า SWB หรือ STANDARD WHEELBASE ซึ่งยาว 5.052 ม. กว้าง 2.047 ม. (รวมกระจกมองข้างขณะพับ) สูง 1.870 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.997 ม. และห้องโดยสารติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว กับตัวถัง LWB หรือ LONG WHEELBASE ซึ่งช่วงฐานล้อยาวขึ้น 20.0 ซม. (เป็น 3.197 ม.) และความยาวตัวถังก็เพิ่มขึ้น 20.0 ซม. (เป็น 5.252 ม.) แต่ความกว้างและความสูงคงเดิม ส่วนห้องโดยสารก็มีทั้งแบบติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว และเป็นครั้งแรกของรถอนุกรมนี้ที่มีแบบติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถวให้เลือกใช้ด้วย แถว 3 ที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นเก้าอี้ที่นั่งอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า STADIUM-STYLE คือ จะนั่งสูงกว่าเก้าอี้ผู้ขับ 4.1 ซม. คุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ หรือความลื่นลมของตัวถัง 2 แบบนี้ แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ตัวถังแบบแรกมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.31 ส่วนแบบหลังเพิ่มขึ้นนิดเดียวเป็น 0.32 โดยส่วนรวมตัวถังของรถรุ่นใหม่นี้ ยังสืบทอดรูปลักษณ์ต่างๆ ของรถรุ่นเดิมไว้อย่างครบครัน ตัวอย่าง คือ การออกแบบให้มีช่วงยื่นหน้าและยื่นหลังค่อนข้างสั้น หลังคาที่ดูราวกับลอยอยู่ในอากาศไม่มีเสาค้ำยัน และฝากระโปรงที่เหมือนฝาหอย ส่วนรายละเอียดที่ไม่เคยพบเคยเห็นในรถรุ่นเดิม ก็มีอยู่มากมายหลายจุด ที่เห็นได้ชัดเจนและสะดุดตาสะดุดใจที่สุด คือ แถบสีดำรูปตัว C คว่ำ ตรงท้ายรถ ซึ่งซ่อนไฟห้ามล้อไว้ที่แขนทั้ง 2 ข้างของตัว C และซ่อนไฟเลี้ยวไว้ที่แถบนอน กรณีที่ยังไม่ได้ใช้งาน คือ ไม่ได้เหยียบห้ามล้อ และไม่ได้เลี้ยวรถ ก็จะมองไม่เห็นดวงไฟเหล่านี้ ที่สมควรบอกกล่าวกันไว้ด้วยก็คือ ห้องโดยสารของรถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมีชื่อว่า DUAL NANOE TECHNOLOGY (ดูอัล นาโน เทคโนโลยี) ที่ช่วยกำจัดทั้งกลิ่น ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย รวมทั้งมีคำยืนยันจาก LAND ROVER ด้วยว่าสามารถรับมือกับ COVID-19 ได้ดีเยี่ยมถึงร้อยละ 99 เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ซึ่งในระยะแรก รถที่ขายในอังกฤษจะมีระดับการตกแต่ง/ติดตั้งอุปกรณ์ให้เลือกรวม 4 ระดับ กำกับด้วยรหัส SE-HSE-AUTOBIOGRAPHY-FIRST EDITION และจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกรวม 4 ขนาด คือ เครื่องเบนซินฉีดตรง 6 สูบเรียง 24 วาล์ว 2,996 ซีซี พร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ ได้กำลังสูงสุด 294 กิโลวัตต์/400 แรงม้า-เครื่องเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 32 วาล์ว 4,395 ซีซี ติดซูเพอร์ชาร์เจอร์ ได้กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า-เครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง 6 สูบเรียง 24 วาล์ว 2,997 ซีซี พร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ ได้กำลังสูงสุด 221 กิโลวัตต์/300 แรงม้า-และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง 6 สูบเรียง 24 วาล์ว 2,997 ซีซี พร้อมระบบไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ ได้กำลังสูงสุด 258 กิโลวัตต์/350 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์เลือกไม่ได้เพราะมีแบบเดียว คือ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่จะตามติดมาในช่วงกลางปี 2022 คือ รถ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งจะมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 324 กิโลวัตต์/440 แรงม้า กับ 375 กิโลวัตต์/510 แรงม้า ทั้ง 2 ขนาดสามารถวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลถึง 100 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP ส่วนผู้ต้องการรถซึ่งไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ เพราะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ต้องรอปี 2024 สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต รถตัวถังมาตรฐานซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า และค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มเริ่มต้นที่ 127,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5.72 ล้านบาทไทย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. LAND ROVER RANGE ROVER รุ่นที่ 5 ของรถธงในสายการผลิตของค่าย LAND ROVER มิติตัวถัง 5052-5.252x2.047 (รวมกระจกมองข้างขณะพับ)x1.870 ม. เครื่องยนต์เบนซิน/ดีเซล 221กิโลวัตต์/ 300 แรงม้า-390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนทุกล้อ ราคารวมภาษีในอังกฤษ เริ่มต้นที่ 93,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.19 ล้านบาท)