พิเศษ
รถแข่งพลังงานทางเลือก พร้อมลุย DAKAR RALLY 2022
รายการแข่งรถทางฝุ่นสุดหฤโหด DAKAR RALLY 2022 จะเป็นบททดสอบสมรรถนะ และความทนทานของบรรดา “น้องใหม่” ทั้งรถไฟฟ้า และรถพลังงานทางเลือก อย่างแท้จริง !AUDI RS Q E-TRON AUDI (เอาดี) ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัว RS Q E-TRON (อาร์เอส คิว อี-ทรอน) ใหม่ ที่พัฒนาสำหรับการแข่งขันแรลลีวิบากโดยเฉพาะ และเป็นบแรนด์แรกที่นำรถยนต์ไฟฟ้าลงแข่งขันรายการแรลลีสุดโหดของโลก ด้านขุมพลัง ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TFSI ขนาด 2.0 ลิตร สำหรับทำหน้าที่ไฟฟ้าเพื่ออัดประจุใส่แบทเตอรีในระหว่างขับขี่ และเครื่องยนต์จะทำงานด้วยความเร็วระหว่าง 4,500-6,000 รตน. ซึ่งเป็นช่วงรอบเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแข่งขัน ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า และด้านหลัง แบบเดียวกับ E-TRON FE07 (อี-ทรอน เอฟอี 07) ซึ่งเป็นรถแข่งในรายการ FORMULA E สำหรับฤดูกาลปี 2021 แต่มีการดัดแปลงให้เหมาะสำหรับการแข่งขันแรลลีครั้งนี้ ให้กำลังสูงสุดรวม 671 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. (กำลังขับอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของ DAKAR RALLY) ตัวแบทเตอรีมีน้ำหนักประมาณ 370 กก. กับความจุ 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ประสิทธิภาพการเดินทางไกลสูงสุดต่อความจุแบทเตอรีเต็ม 100 % ยังไม่ถูกเปิดเผย) บริษัทผู้ผลิตเผยว่า ข้อดีของการใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนสำหรับรถแข่งแรลลี คือ ประสิทธิภาพการควบคุมรถที่แม่นยำยิ่งขึ้น และสามารถปรับแรงบิดของล้อได้อย่างอิสระ เนื่องจากไม่มีระบบเพลากลาง รวมถึงระบบขับเคลื่อนอื่นๆ เช่น พวงมาลัย ระบบเกียร์ ถูกเชื่อมโยงด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์เป็นหลัก กลไกจึงน้อยมาก โครงสร้างแชสซีส์ของ AUDI RS Q E-TRON ทำจากเหล็กกล้าหุ้มด้วยโครงสร้างตัวถังที่ทำมาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนการดีไซจ์นนั้น ด้านหน้าที่ดูเหมือนยาน UFO ออกแบบให้สอดคล้องกับระบบช่วงล่าง ในการรองรับการกระโดด และการกระแทกของสนามแข่งแรลลีได้เป็นอย่างดี ขณะที่การออกแบบด้านหลังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก AUDI QUATTRO (กวัตตโร) รุ่นออริจินัล และโมเดลนี้ยังมีกระจกบังลมที่ลาดชัน และหลังคาที่ลาดเอียง พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่สำหรับช่วยระบายความร้อนให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีครีบกลางที่ด้านหลังซึ่งเรียงรายไปด้วยไฟ LED สำหรับทำหน้าที่เป็นไฟเบรค ล้อขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง BF GOODRICH เช่นเดียวกับส่วนที่ยื่นออกมาด้านหลังประตูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซจ์นด้านข้างของ AUDI R8 (อาร์ 8) และรองรับเป็นพื้นที่สำหรับเก็บล้อยางอะไหล่ได้ ทีมพัฒนาเผยว่า สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่พัฒนาระบบขับเคลื่อน QUATTRO หรือดีไซจ์นตัวรถ แต่เป็นการนำขุมพลังไฟฟ้า ทั้งแบทเตอรี มอเตอร์ไฟฟ้า มาใช้ในการแข่งขันแรลลี เพราะไม่ทราบว่า จะเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง และจะรับมือได้ขนาดไหน AUDI ได้จัดทีมนักแข่งที่จะใช้ AUDI RS Q E-TRON เข้าแข่งขันแรลลีครั้งนี้ 3 คู่ ได้แก่ มัททีอัส เอคสเตริม (MATTIAS EKSTROM) และเอมิล เบิร์กควิสต์ (EMIL BERGKVIST) จากสวีเดน สเตฟาน เพเทร์ฮันเซล (STEPHANE PETERHANSEL) และเอดัวร์ บูลองเฌ (EDOUARD BOULANGER) จากฝรั่งเศส เช่นเดียวกับ การ์โลส เซนซ์ (CARLOS SAINZ) และลูคัส ครูซ (LUCAS CRUZ) จากสเปน AUDI RS Q E-TRON แม้จะไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าล้วน แต่ก็มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าพร้อมมอเตอร์ FORMULA E ที่ได้รับการดัดแปลง 2 ตัว ระบบแปลงพลังงานด้วยเครื่องยนต์ TFSI จะชาร์จแบทเตอรีไฟฟ้าแรงสูงของรถในขณะขับขี่ และเบรค ที่สำคัญหาก RS Q E-TRON สามารถคว้าชัยใน DAKAR RALLY ได้ มันจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ชนะการแข่งขันนี้เลย H2 RACING TRUCK รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน คันแรกของโลก GAUSSIN ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในฝรั่งเศส พัฒนารถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลก ที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการ DAKAR RALLY 2022 เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์พลังไฮโดรเจนในการวิ่งฝ่าทะเลทรายร่วมกับรถยนต์พลังงานรูปแบบอื่นๆ ทีมงานพัฒนารถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน H2 RACING TRUCK (เอช 2 เรซิง ทรัค) มั่นใจในประสิทธิภาพของเทคโนโลยี และสมรรถนะของรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนที่บริษัทพัฒนาขึ้น โดยทีมงานเชื่อว่า การใช้พลังงานไฮโดรเจนสามารถแก้ปัญหาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ต้องใช้เวลาชาร์จพลังงานนานในการแข่งขันแรลลี ที่ต้องแข่งกับเวลา รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน H2 RACING TRUCK ใช้ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ 402 แรงม้า จำนวน 2 ชุด สามารถวิ่งทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 140 กม./ชม. ติดตั้งเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสามารถผลิตกระแสไฟฟ้า 380 กิโลวัตต์ จัดเก็บพลังงานไฟฟ้าในแบทเตอรีขนาด 82 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางประมาณ 250 กม./การเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน 1 ครั้ง เพียงพอสำหรับการแข่งขันรายการ DAKAR RALLY 2022 ที่แบ่งระยะทางออกเป็นช่วงๆ ผ่านเมืองต่างๆ ในประเทศซาอุดิอาระเบีย HINO ดีเซลไฮบริด 1,065 แรงม้า HINO (ฮีโน) ผู้ผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ ได้เข้าร่วมการแข่งขัน โดยใช้รถ HINO ที่สร้างขึ้นมาจากรุ่น 600 ซีรีส์ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ขนาด 8.866 ลิตร 789 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดที่ให้กำลัง 276 แรงม้า ทำให้มีกำลังรวมถึง 1,065 แรงม้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ FULL TIME มีตัวลอคเฟืองท้ายตรงกลาง และกล่องเกียร์ที่ช่วยให้สลับระหว่างเฟืองเกียร์สูง และต่ำได้ ตัวรถบรรจุถังน้ำมันขนาด 800 ลิตร ตัวรถใหม่ มีน้ำหนักเบา ด้วยการใช้อลูมิเนียม และไฟเบอร์กลาสส์ เป็นส่วนประกอบตัวถัง อย่างไรก็ตาม ยังมีน้ำหนักถึง 8,600 กก. โดยในการแข่งขัน DAKAR RALLY 2020 ที่ผ่านมา HINO อยู่ในอันดับสุดท้ายของการแข่งขันในคลาสส์รถบรรทุก แต่คาดว่าการพัฒนาตัวรถ และระบบส่งกำลังไฮบริด จะช่วยให้ HINO สามารถทำผลการแข่งขันได้ดีขึ้นในปีนี้ เปิดเส้นทาง DAKAR RALLY 2022 ซาอุดิอาระเบีย เส้นทางของ DAKAR RALLY 2022 ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ยาวไกลเกือบ 8,000 กม. เริ่มจากเมืองฮาอิล (HA'IL) ผ่านเมืองริยาดห์ (RIYADH) และไปจบที่เมืองเจดดาห์ (JEDDAH) ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยหลุมพรางในทะเลทราย และภูเขา รวมถึงทิวทัศน์ที่งดงาม และน่าทึ่งของประเทศซาอุดิอาระเบีย มีจุดพักทั้งสิ้น 12 สถานี มีนักขับจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันบนยานพาหนะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถบรรทุก SXS รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ โดยศึกแรลลีสุดหฤโหดระดับตำนานของโลกครั้งนี้ จะเริ่มการแข่งขันระหว่างวันที่ 2-14 มกราคม 2565 และเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นเจ้าภาพ DAKAR RALLY ตำนานแรลลีทะเลทราย มอเตอร์สปอร์ททางฝุ่น DAKAR RALLY เป็นการแข่งขันบนเส้นทางยาวไกล ข้ามผ่านหลายภูมิประเทศ โดยใช้ระยะเวลากว่า 10 วัน และเป็นอีกความท้าทายที่นักแข่งแรลลีอยากลองสักครั้งในชีวิต DAKAR RALLY เดิมใช้ชื่อว่า PARIS-DAKAR มีจุดเริ่มต้นมาจากนักแข่งแรลลีชาวฝรั่งเศสชื่อ เธียร์รี ซาบีน (THIERRY SABINE) ได้ขับรถหลงทางกลางทะเลทรายเตเรเน (TERENE) ประเทศไนเจอร์ ในรายการ ABIDJAN-NICE RALLY และพบว่ามันเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการใช้แข่งขันเป็นอย่างมาก หลังจากได้รับการช่วยออกมา เขาก็เกิดความคิดที่จะจัดการแข่งขันแรลลีแบบใหม่ ในสภาพพื้นที่ทะเลทรายที่ท้าทายความสามารถของรถ และนักขับทุกคน กระทั่งปี 1978 มีการแข่งขันครั้งแรก จัดโดย AMAURY SPORT ORGANIZATION (ASO) ของฝรั่งเศส เส้นทางเริ่มต้นจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปสิ้นสุดที่เมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล รวมระยะทางกว่า 10,000 กม. ใช้ระยะเวลา 15 วัน ต่อมาการแข่งขันในช่วงหลัง ไม่ได้มีจุดสตาร์ทที่ปารีส จึงเรียกกันสั้นๆ ว่า DAKAR หรือ DAKAR RALLY DAKAR RALLY 2022 เป็นครั้งแรกที่ให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆ และมีแผนเพิ่มสัดส่วนรถแข่งที่ใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นภายในปี 2030 ตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์โลก ทำเนียบแชมพ์ DAKAR RALLY (ประเภทรถยนต์) PREVIOUS DAKAR RALLY OUTRIGHT WINNERS (CARS) ปี รถที่แข่งขัน 1979 LAND ROVER RANGE ROVER 1980 VOLKSWAGEN ILTIS 1981 LAND ROVER RANGE ROVER 1982 RENAULT 20 TURBO 4x4 1983 MERCEDES-BENZ G-WAGEN 1984 PORSCHE 911 (953) 1985 MITSUBISHI PAJERO 1986 PORSCHE 959 1987 PEUGEOT 205 T16 1988 PEUGEOT 205 T16 1989 PEUGEOT 405 T16 1990 PEUGEOT 405 T16 1991 CITROEN ZX 1992 MITSUBISHI PAJERO 1993 MITSUBISHI PAJERO 1994 CITROEN ZX 1995 CITROEN ZX 1996 CITROEN ZX 1997 MITSUBISHI PAJERO 1998 MITSUBISHI PAJERO 1999 BUGGY SCHLESSER 2000 BUGGY SCHLESSER 2001 MITSUBISHI PAJERO 2002 MITSUBISHI PAJERO 2003 MITSUBISHI PAJERO 2004 MITSUBISHI PAJERO 2005 MITSUBISHI PAJERO 2006 MITSUBISHI PAJERO 2007 MITSUBISHI PAJERO 2008 NO EVENT 2009 VOLKSWAGEN RACE TOUAREG 2 2010 VOLKSWAGEN RACE TOUAREG 2 2011 VOLKSWAGEN RACE TOUAREG 3 2012 MINI ALL 4 RACING 2013 MINI ALL 4 RACING 2014 MINI ALL 4 RACING 2015 MINI ALL 4 RACING 2016 PEUGEOT 2008 DKR 2017 PEUGEOT 3008 DKR 2018 PEUGEOT 3008 DKR MAXI 2019 TOYOTA HILUX DAKAR 2020 MINI JCW BUGGY 2021 MINI JCW BUGGY
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความสารคดี 4wheels
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2565
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)
คำค้นหา