BMW X7 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รุ่นทอพค่ายใบพัด ปรับปรุงแบบ “ยกหน้า”

รถกิจกรรมกลางแจ้งสายเลือดเยอรมันแบบสุดท้ายที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นผลงานของค่าย “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” ซึ่งขณะนี้มีรถกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกใช้อย่างหลากหลายถึง 7 อนุกรม คือ ตั้งแต่ BMW X1 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1) BMW X2 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 2) BMW X3 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3) ไปจนถึง BMW X7 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 7) ทั้งหมดล้วนเป็น CROSSOVER SUV (ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ซึ่งอธิบายอย่างสั้นๆ ได้ว่า เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งตัวถังมีโครงสร้างแบบ UNIT BODY (ยูนิท บอดี) หรือ UNIBODY (ยูนิบอดี) เหมือนรถเก๋ง ในบรรดารถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ 7 อนุกรมที่กล่าวข้างต้น รถอนุกรมเก่าแก่ที่สุด คือ รถขนาดกลาง BMW X5 ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 1999 และรถที่จำหน่ายอยู่ในตลาดทั่วโลกขณะนี้เป็นรถรุ่นที่ 4 ส่วนอนุกรมที่ออกตลาดหลังสุด มีขนาดใหญ่ที่สุด และค่าตัวแพงที่สุดในขณะนี้ คือ BMW X7 BMW X7 เป็น FULL-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดโตเต็มพิกัด ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2018 และเริ่มออกสู่โชว์รูมในเดือนมีนาคมปีถัดมา เป็นรถ 5 ประตู 5/6/7ที่นั่ง (2+2/3+0/2) ในตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 5.151 ม. กว้าง 2.000 ม. สูง 1.805 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.33 เป็นรถเยอรมันที่ไม่ได้ผลิตในเยอรมนี แต่มีการผลิตทั้งที่เมือง SPARTANBURG (สปาร์ทันเบิร์ก) ในรัฐ SOUTH CAROLINA (เซาธ์แคโรไลนา) ของสหรัฐอเมริกา ในอินเดีย ในอินโดนีเซีย ในมาเลเซีย และในประเทศไทย ส่วนรถที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่รถรุ่นใหม่ซึ่งนับได้ว่าเป็นรถรุ่นที่ 2 แต่เป็นรถรุ่นเดิม คือ รุ่นที่ 1 ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” เพิ่งเปิดเผยโฉมหน้าและรายละเอียดต่างๆ เมื่อเดือนเมษายน 2022 แต่ต้องรอจนถึงเดือนสิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้ จึงจะเริ่มการจำหน่ายทั่วโลก ฐานผลิตหลัก คือ โรงงานที่เมือง SPARTANBURG ในรัฐ SOUTH CAROLINA ของสหรัฐอเมริกา เป็นรถที่มีการปรับและเปลี่ยน ทั้งในส่วนของตัวถังภายนอก การยกระดับอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร เปลี่ยนเครื่องยนต์ ปรับการทำงานของระบบดิจิทอล ฯลฯ ตัวอย่าง ของการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนด้วยสายตา คือ ส่วนหน้าที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะดวงโคมไฟหน้าทั้ง 2 ด้าน ที่ออกแบบแยกเป็น 2 ส่วน สไตล์เดียวกันกับรถเก๋งซีดาน BMW 7-SERIES (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-7) รุ่นใหม่ ซึ่งก็เพิ่งเปิดตัวในเวลาใกล้เคียงกัน (โปรดอ่านรายละเอียดใน “ข่าวรอบโลก” ฉบับนี้) ที่สมควรบอกกล่าวกันด้วยก็คือ เป็นครั้งแรกที่รถของค่ายนี้ มีล้อขนาด 23 นิ้วให้เลือกใช้ด้วย ในระยะแรกจะมีรถให้เลือกเพียง 3 โมเดล คือ BMW X7 XDRIVE40I (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 7 เอกซ์ดไรฟ 40 ไอ) BMW X7 M60I XDRIVE (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 7 เอม 60 ไอ เอกซ์ดไรฟ) และ BMW X7 XDRIVE40D (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 7 เอกซ์ดไรฟ 40 ดี) ทั้งหมดเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ซึ่งส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้าคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC โมเดลแรก BMW X7 XDRIVE40I ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 280 กิโลวัตต์/380 แรงม้า และระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ 9 กิโลวัตต์/12 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โมเดลหัวกะทิ BMW X7 M60I XDRIVE ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 4,395 ซีซี 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า และระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ 9 กิโลวัตต์/12 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ส่วนโมเดลเดียวที่เป็นรถดีเซล BMW X7 XDRIVE40D ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า และระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ 9 กิโลวัตต์/12 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 243 กม./ชม.   BMW X7 รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนทุกล้อ มิติตัวถัง 5.164x2.000x1.806 ม. ห้องโดยสาร 5/6/7 ที่นั่ง (2+2/3+0/2) เครื่องยนต์เบนซิน 280 กิโลวัตต์/380 แรงม้า-390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซล 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC (สเตพทรอนิค)