ส่วนรถที่กำลังจะนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังนี้ เป็นรถรุ่นที่ 2 เพิ่งเปิดตัวที่งาน SEOUL MOBILITY SHOW หรือมหกรรมยานยนต์แห่งกรุงโซลครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 และขณะนี้เริ่มการจำหน่ายไปแล้ว ทั้งในสาธารณรัฐเกาหลี ในทวีปยุโรป และในสหรัฐอเมริกา
เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่พื้นรถจรดหลังคา และมีขนาดตัวถังโตกว่ารถรุ่นเดิมเล็กน้อย เป็นตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 4.420 ม. กว้าง 1.825 ม. และสูง 1.545 ม. คือ ยาวขึ้น 6.5 ซม.และกว้างขึ้น 2.0 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังเดิม ช่วงฐานล้อก็ขยายขึ้น 2.0 ซม. คือ จาก 2.700 เป็น 2.720 ม. ผลดีที่ตามมา คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวางและยืดแข้งยืดขาได้สบายขึ้น รูปทรงองค์เอวและรายละเอียดของตัวถังภายนอกมีอยู่หลายจุดที่ดึงดูดสายตาได้ดีกว่ารถรุ่นก่อน โดยเฉพาะแถบคาดเหนือธรณีประตูและบริเวณสะโพกหรือบั้นท้ายของตัวรถ ที่ดูเปลี่ยนไปมาก คือ หน้าตา โดยเฉพาะคู่ดวงโคมไฟหน้า ซึ่งบอกไม่ถูกว่าเป็นรูปอะไร แต่ดูโดดเด่นสะดุดตาสุดๆ
เช่นเดียวกับรถรุ่นแรก รถรุ่นใหม่นี้มีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกใช้รวม 3 แบบ คือ มีทั้งรถ HEV (HYBRID ELECTRIC VEHICLE) หรือรถไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ รถ PHEV (PLUG-IN HYBRID ELECTRIC VEHICLE) หรือรถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และ BEV (BATTERY ELECTRIC VEHICLE) หรือรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่ได้พลังไฟจากแบทเตอรี
รถ HEV ใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง SMARTSTREAM (สมาร์ทสตรีม) 1,580 ซีซี 77 กิโลวัตต์/105 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 32 กิโลวัตต์/44 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ (LITHIUM-ION POLYMER) ขนาดความจุ 1.32 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 104 กิโลวัตต์/141 แรงม้า
รถ PHEV ใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง SMARTSTREAM (สมาร์ทสตรีม) 1,580 ซีซี 77 กิโลวัตต์/105 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 62 กิโลวัตต์/84 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ (LITHIUM-ION POLYMER) ขนาดความจุ 11.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า และวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลประมาณ 50 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม
ส่วนรถ BEV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ (LITHIUM-ION POLYMER) ขนาดความจุ 64.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 400 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม
ในเมืองแม่ คือ สาธารณรัฐเกาหลี รถไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊ก KIA HEV ค่าตัวเริ่มต้นที่ 28.33 ล้านวอน หรือประมาณ 0.85 ล้านบาทไทย (เมื่อคิดว่าเงินเกาหลี 1 วอน แลกได้ด้วยเงินไทย 3 สตางค์) รถพลังไฟฟ้า KIA BEV ค่าตัวเริ่มต้นที่ 49.42 ล้านเยน หรือประมาณ 1.48 ล้านบาทไทย ส่วนรถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊ก KIA NIRO PHEV ขณะนี้ยังไม่มีขาย
KIA NIRO
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ขับเคลื่อนล้อหน้า
มิติตัวถัง 4.420x1.825x1.545 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง (2+3)
รถไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ 104 กิโลวัตต์/141 แรงม้า
รถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า
รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ชนิดใช้แบทเตอรี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า 
