BMW X7 เป็น เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สุดในสายการผลิตของค่าย “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” และเป็นรถที่เรียกกันอย่างเต็มยศในภาษาอังกฤษว่า FULL-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV หรือที่เรียกเป็นไทยสไตล์ “สื่อสากล” ว่า รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดโตเต็มพิกัด เมื่อปลายปี 2018 นี่เองที่ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์เริ่มบรรจุรถอนุกรมนี้เข้าสู่สายการผลิต ซึ่งไม่ได้อยู่ในเยอรมนี แต่เป็นโรงงานที่เมือง SPARTANBURG (สปาทันเบิร์ก) ในรัฐ SOUTH CAROLINA (เซาธ์แคโรไลนา) ของสหรัฐอเมริกา (ก่อนหน้านี้เป็นที่ผลิตรถ เอสยูวี รวม 4 อนุกรม คือ BMW X3-BMW X4-BMW X5-BMW X6) หลังจากนั้นจึงมีการผลิตในที่อื่นๆ รวมทั้งในเมืองเทพซึ่งเรียกขานกันว่าประเทศไทย
BMW X7 รุ่นแรกซึ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองแม่ คือ เยอรมนีเมื่อเดือนมีนาคม 2019 เป็นรถ 5 ประตู ทรงสองกล่อง ยาว 5.151 ม. กว้าง 2.000 ม. และสูง 1.805 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.33 เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อที่มีให้เลือกเพียง 3 โมเดล คือ BMW X7 XDRIVE40I (เบนซิน 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 245 กิโลวัตต์/333 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID)-BMW X7 XDRIVE40D (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID)-BMW X7 M50I XDRIVE (เบนซิน วี 8 สูบ 4,395 ซีซี 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า) ทุกโมเดลส่งทอดกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC
ส่วน BMW X7 ซึ่งกำหนดจะเริ่มการจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2022 ดังที่กล่าวข้างต้น ไม่ใช่รถรุ่นที่ 2 แต่เป็นรถรุ่นเดิมซึ่งเพิ่งผ่านการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือยกหน้า มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดมากมายทั้งในส่วนของตัวถัง และเครื่องยนต์กลไก ซึ่งส่งผลให้ขนาดตัวถังเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อย คือ ยาว 5.181 ม. กว้าง 2.000 ม. และสูง 1.835 ม. คือ ยาว และสูงขึ้น 3.0 ซม. แต่กว้างเท่าเดิม เมื่อมองจากภายนอกจุดสะดุดตาที่สุด คือ ดวงโคมไฟหน้า ซึ่งออกแบบสไตล์เดียวกันกับรถเก๋งซีดาน BMW 7-SERIES (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-7) รุ่นล่าสุด คือ แต่ละด้านทำเป็นไฟ 2 ดวงแยกจากกันอย่างชัดเจน
มีรถให้เลือกเพียง 3 โมเดลเช่นเดิม แต่รายละเอียดเปลี่ยนไป คือ BMW X7 XDRIVE40I (เบนซิน 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 280 กิโลวัตต์/381 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID 48 โวลท์ 8 กิโลวัตต์/11 แรงม้า) BMW X7 XDRIVE40D (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 259 กิโลวัตต์/352 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID 48 โวลท์ 8 กิโลวัตต์/11 แรงม้า) และ BMW X7 M60I XDRIVE
รถโมเดลหัวกะทิ BMW X7 M60I XDRIVE กล่าวได้โดยไม่ต้องกลัวใครโต้แย้ง ว่าเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งติดโลโก “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” ซึ่งแรงที่สุด แพงที่สุด แต่ไม่เร็วที่สุดในขณะนี้ ระบบขับเคลื่อนทุกล้อในรถโมเดลนี้ ใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 32 วาล์ว 4,395 ซีซี 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับระบบ MILD HYBRID 48 โวลท์ ซึ่งช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ 8 กิโลวัตต์/11 แรงม้า ในช่วงเวลาสั้นๆ และส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC SPORT สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาแค่ 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.1-12.9 ลิตร/100 กม. หรือ 7.8-8.3 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 274-292 กรัม/กม.
ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของรถแรงโมเดลนี้ เริ่มต้นที่ 127,200 ยูโร หรือประมาณ 4.71 ล้านบาทไทย เมื่อคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินฝรั่ง 1 ยูโร แลกได้ด้วยเงินไทย 37 บาทถ้วน
BMW X7 M60I XDRIVE
รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดโตเต็มพิกัด แรงสุดๆ และแพงสุดๆ ของค่าย BMW
มิติตัวถัง 5.184x2.000x1.835 ม. ห้องโดยสาร 5/6/7 ที่นั่ง (2+2/3+0/2)
เครื่องเบนซิน วี 8 สูบ 4,395 ซีซี 390 กิโลวัตต์/530 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. (จำกัด)
ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 127,200 ยูโร (ประมาณ 4.71 ล้านบาทไทย) 
